Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

76

 

 

กระแสโฟล์ เทมาที่ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้น

HORIZON MARKET VIEW
• คณะกรรมการ FOMC มีมติ 11 : 1 ปรับลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25% ตาม คาด ด้วยเหตุผลหลักๆ จากตลาดแรงงานอ่อนตัว อย่างไรก็ดีผู้ว่าการเฟด STEPHEN MIRAN ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ ลงมติคัดค้านการตัดสินใจครั้งนี้ โดย มองว่าควรลดดอกเบี้ยแรงกว่านั้นที่ 0.5% ซึ่งการที่ MIRAN ได้รับการแต่งตั้งโดย พรรคริพับลิกัน อาจถูกมองว่าแทรกแซงต่อ FED เสี่ยงบั่นทอนความเชื่อมั่นของตลาด
• สำหรับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ย DOT PLOT คาดการณ์ FED จะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้, 1 ครั้งในปี 2026, และ 1 ครั้งในปี 2027
• FED มีโอกาสลดดอกเบี้ยเด่นกว่าใครๆ ในช่วงที่เหลือของปี คาดหวังเม็ดเงินตรา สารหนี้ไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในฝั่งเอเชีย

 

REGION RADAR
• เม็ดเงิน ETF ไหลเข้าตลาดหุ้นจีนอย่างโดดเด่นในช่วง 3 เดือนที่ผ่าน มา หนุนหุ้นในกลุ่ม BIG TECH จีนให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นกว่าหุ้น BIG TECH สหรัฐ คาดเม็ดเงินจะยังไหลเข้าจีนต่อ
• หุ้นในกลุ่ม TERRIFIC 10 มีความน่าสนใจกว่า MAG7จาก MARKET CAP ที่มีขนาดเล็กกว่าและในด้าน VALUATION ที่ถูกกว่า แนะนำ ทยอยสะสมหุ้นในกลุ่ม TERRIFIC 10 โดยยังชื่นชอบ 3 THEME ด้วยกัน ประกอบด้วย กลุ่มคลาวด์: ALIBABA, BAIDU กลุ่มเกม: TENCENT, NETEASE และกลุ่มชิป: SMIC

 

THAI FOCUS
• การเมืองไทยอาจดูติดขัดเล็กน้อย หลังครม.อนุทิน” ถูกตีกลับ 1 ราย เหตุไม่ผ่านคุณสมบัติ อย่างไรก็ตามมองว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงชุด ครม.เล็กน้อยก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯอีกครั้ง คาดกระบวนการ ทั้งหมดเกิดขึ้นภายใน ก.ย.68-ต้น ต.ค.68
• มาตรการคาดหวังต่างๆ ทั้งคนละครึ่ง + ภาษี + ท่องเที่ยว + อสังหา + สิทธิประโยชน์ต่อนักลงทุน” มาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการจับจ่ายใน ประเทศ การท่องเที่ยว และการลงทุน น่าจะช่วยหนุนเศรษฐกิจ Q4/68 มีโอกาสโตได้ และหนุนให้ SET INDEX เป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

SYNAPSE STRATEGY
• FED มีโอกาสลดดอกเบี้ยเด่นกว่าที่อื่น ในช่วงที่เหลือของปี ทำให้ คาดหวังเม็ดเงิน ตราสารหนี้ไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ ในฝั่งเอเชีย ที่มีระดับ MARKET EARNING YIELD เด่นกว่าฝั่งตลาด หุ้นพัฒนาแล้ว
• กลยุทธ์การลงทุนในยามที่ดอกเบี้ยสหรัฐลงเร็วและแรงกว่าประเทศ อื่นๆ แนะนำหุ้นปันผลเด่น อย่าง ICHI TISCO CPF AP PTT WHA ADVANC BDMS

 

HORIZON MARKET VIEW

FED เริ่มลงดอกเบี้ยแล้ว
วานนี้ คณะกรรมการ FOMC มีมติ 11: 1 ปรับลดดอกเบี้ย 25 BPS. สู่ระดับ 4.25%ตามคาด ด้วยเหตุผลหลักๆ จากตลาดแรงงานอ่อนตัว หลังอัตราว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.3% สูงสุดในรอบเกือบ 4 ปีบวกกับตัวเลขการจ้างงาน ที่มีการปรับแก้ใหม่ลดลงอย่างมาก

 

อย่างไรก็ดีผู้ว่าการเฟด สตีเฟน มิแรน (STEPHEN MIRAN) ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ ลงมติคัดค้านการตัดสินใจ ครั้งนี้ โดยมองว่าควรลดดอกเบี้ยแรงกว่านั้นที่ 0.5% ทั้งนี้ การที่ MIRAN ได้รับการแต่งตั้งโดยพรรคริพับลิกัน อาจถูกมองว่าแทรกแซงต่อ FED เสี่ยงบั่นทอนความเชื่อมั่นของตลาด

 

สำหรับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ย DOT PLOT คาดการณ์ FED จะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้(สอดคล้องกับ FEDWATCH TOOL), 1 ครั้งในปี 2026, และ 1 ครั้งในปี 2027 ทั้งนี้ FED ยังคงเดินหน้านโยบายการเงินอย่าง ระมัดระวัง เป็นเพราะผลกระทบจากภาษีอาจยังไม่หมดไป ขณะที่การตัดสินใจจะเป็นแบบ “ประชุมต่อประชุม” ขึ้นอยู่ กับข้อมูลเศรษฐกิจ

 

นอกจากนี้ FED ยังได้ปรับประมาณการตั้วเลขเศรษฐกิจต่างๆ ของสหรัฐ ดังนี้

• GDP GROWTH สหรัฐฯ ปี 2025 ปรับเพิ่มเป็น 1.6%
• อัตราว่างงานสหัรฐฯ ปี 2026 ลดลงเป็น 4.4% และปี 2027เป็น 4.3%
• เงินเฟ้อสหรัฐฯ CORE PCE ปี 2026 ปรับเพิ่มเป็น 2.6% จากเดิม 2.4%

 

FED มีโอกาสลดดอกเบี้ยเด่นกว่าใครๆ ในช่วงที่เหลือของปี คาดหวังเม็ดเงินตราสารหนี้ไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในฝั่งเอเชีย

 

REGION RADAR

เม็ดเงิน ETF ไหลเข้าตลาดหุ้นจีนอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ และทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 1 ปี
ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าหุ้นในกลุ่ม BIG TECH จีนให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นกว่าหุ้น BIG TECH สหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเห็นเม็ดเงิน ETF ในช่วง 3 เดือนล่าสุด ไหลเข้าตลาดหุ้นฮองกง (มีสัดส่วนหุ้นจีนใน ตลาดเป็นส่วนใหญ่) ระดับ 1 หมื่นล้านเหรียญต่อเดือน ต่างกับเดือน ก่อนๆ ที่ซื้อๆ ขายๆ +-3 พันล้านเหรียญต่อ เดือน จากความกังวลผลกระทบจาก TARIFF และแบน AI ที่ลดลง ขณะเดียวกันเม็ดเงินไหลเข้า ETF ตลาดหุ้น สหรัฐฯ 3 เดือนล่าสุด ชะลอลดลงครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับช่วง 3 เดือน ช่วงทรัมป์กำลังและเริ่มเป็น ปธน. สหรัฐ

ดังนั้นเชื่อว่าเม็ดเงินยังมี MOMENTUM ไหลเข้าตลาดหุ้นจีนและเอเชียต่อ หลัง FED ต้องเร่งลดดอกเบี้ยเร็วกว่า ธนาคารกลางอื่นๆ ทั่วโลกในช่วงที่เหลือของปี

 

หุ้นในกลุ่ม TERRIFIC 10 มีความน่าสนใจกว่า MAG7
จากเม็ดเงินที่ไหลเข้าตลาดหุ้นจีนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นในกลุ่ม TERRIFIC 10 ซึ่งประกอบไปด้วยหุ้น เทคโนโลยีจีนขนาดใหญ่ทั้งหมด 10 บริษัทกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง นอกจากนี้ หากไปดูสัดส่วน MARKET CAP เมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นในกลุ่ม MAG 7 จะพบว่า TERRIFIC 10 มีมูลค่าตลาดเล็กกว่า MAG 7 ถึง 15 เท่า อีกทั้ง ด้าน VALUATION ของ TERRIFIC 10 ยังต่ำกว่า MAG 7

 

ทั้งนี้ แนะนำทยอยสะสมหุ้นในกลุ่ม TERRIFIC 10 โดยยังชื่นชอบ 3 THEME ด้วยกัน ประกอบด้วย กลุ่มคลาวด์: ALIBABA, BAIDU กลุ่มเกม: TENCENT, NETEASE และกลุ่มชิป: SMIC

 

THAI FOCUS

การเมืองไทยอาจดูติดขัดเล็กน้อย แต่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาเต็มแน่นอน
หลังจากที่นายกฯ ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี และนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในช่วงเย็นวานนี้แต่ ครม.อนุทิน” ถูกตีกลับ 1 ราย เหตุไม่ผ่านคุณสมบัติโดยเกิดความเห็นที่ไม่ตรงกันระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และ ป.ป.ช. เหตุการณ์นี้สร้างแรงกดดันทางการเมืองช่วงสั้น อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยฯมองว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงชุด ครม. เล็กน้อยก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯอีกครั้ง ซึ่งพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. คาดใช้เวลาประมาณ 3–5 วัน และทั่วไปจะประกาศราชกิจจานุเบกษา (แต่งตั้ง ครม.) วันเดียวกันหรือวันถัดไป หลังจากนั้นจึงเริ่มทำ หน้าที่เต็มรูปแบบ และสามารถแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้ คาดกระบวนการทั้งหมดเกิดขึ้นภายใน ก.ย.68-ต้น ต.ค.68

 

ขณะที่แผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่กระทรวงการคลังเตรียมเสนอรัฐบาล อาทิ 1. คนละครึ่งให้ประชาชนใช้เงินผ่าน “เป๋า ตัง” และ “ถุงเงิน”2. EASY E-RECEIPTแจกเงินคืน (CASH BACK) สูงสุด 100,000 บาท ช่วง พ.ย.–ธ.ค. 2568 3. กระตุ้นท่องเที่ยว ผ่านมาตรการเที่ยวด้วยกัน 4. กระตุ้นอสังหาฯ ผ่านการลดค่าธรรมเนียมที่ดินและสิ่งปลูก สร้างอย่างน้อย 50% จนกว่าจะฟื้นตัว อีกทั้งข้อเสนอจากภาคเอกชน ทั้งสภาหอการค้าไทย ที่แนะนำให้เพิ่มวงเงิน คนละครึ่งอีก 1,500 บาท/คน/เดือน (ต.ค.–พ.ย. 2568) และข้อเสนอจาก FETCO (สภาธุรกิจตลาดทุนไทย) ที่ เสนอให้ออกกองทุนออมพิเศษ (SSFX/SSF) ใหม่ รวมถึงผลักดันบัญชีออมเพื่อการลงทุน (INDIVIDUAL SAVINGS ACCOUNT) ที่สามารถนำมาลดหย่อยภาษีประจำปีได้

 

สรุป มาตรการคาดหวังต่างๆ ทั้งคนละครึ่ง + ภาษี + ท่องเที่ยว + อสังหา + สิทธิประโยชน์ต่อนักลงทุน” มาช่วย กระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการจับจ่ายในประเทศ การท่องเที่ยว และการลงทุน น่าจะช่วยหนุนเศรษฐกิจ Q4/2568 มี โอกาสโตได้ และหนุนให้ SET INDEX เป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

SYNAPSE STRATEGY

SET INDEX คือ เป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ ... ฟันธง
หลังจากนี้FED มีโอกาสลดดอกเบี้ยเด่นกว่าใครๆ ในช่วงที่เหลือของปีคาดหวัง 2 ครั้ง ส่วนประเทศอื่นๆ คาดว่า อาจจะคงดอกเบี้ย หรือลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งเท่านั้นในช่วงที่เหลือของปี ทำให้คาดหวังเม็ดเงิน ตราสารหนี้ไหล เข้าสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในฝั่งเอเชีย ที่มีระดับ MARKET EARNING YIELD เด่นกว่าฝั่งตลาดหุ้น พัฒนาแล้ว โดยไทยอยู่ระดับสูงถึง 6.7% ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯอย่าง S&P500 และ NASDAQ ที่อยู่ระดับ 4.1% และ 3.1% ตามลำดับ

 

ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนในยามที่ดอกเบี้ยสหรัฐลงเร็วและแรงกว่าประเทศอื่นๆ แนะนำหุ้นปันผลเด่น อย่าง ICHI TISCO CPF AP PTT WHA ADVANC BDMS

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

NKT คว้ารางวัลศูนย์เรียนรู้เชิงคุณธรรม ภาคธุรกิจเอกชน ประจำปี 2568

NKT คว้ารางวัลศูนย์เรียนรู้เชิงคุณธรรม ภาคธุรกิจเอกชน ประจำปี 2568

CHOW เสริมทัพความแข็งแกร่ง คว้าใบรับรอง “คาร์บอนฟุตพริ้นท์” เพิ่ม 6 ผลิตภัณฑ์ พร้อมยกระดับการแข่งขันในตลาดเหล็ก พาธุรกิจเดินหน้าสู่ความยั่งยืน

CHOW เสริมทัพความแข็งแกร่ง คว้าใบรับรอง “คาร์บอนฟุตพริ้นท์” เพิ่ม 6 ผลิตภัณฑ์ พร้อมยกระดับการแข่งขันในตลาดเหล็ก พาธุรกิจ

PCE เร่งเครื่องสกัดน้ำมันปาล์ม เฟส 2 ดันรายได้พุ่งแตะ All Time High

PCE เร่งเครื่องสกัดน้ำมันปาล์ม เฟส 2 ดันรายได้พุ่งแตะ All Time High

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้