Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

93

 

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม Market wrap & Outlook

แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ Tesla: ปรากฏการณ์ Retail Premium ของ Gen ใหม่

 

Valuation ของหุ้นสะท้อนความคาดหวังที่นักลงทุนมีต่อศักยภาพของบริษัท แต่การที่หุ้นหนึ่ง ๆ จะถูกซื้อขายในระดับ premium หรือ discount นั้นไม่ได้อธิบายได้ด้วยงบการเงินเพียงอย่างเดียว หากเกิดจากปัจจัยหลายชั้นที่ทับซ้อนกัน ทั้งศักยภาพการเติบโตของกำไร (earnings growth) ความสามารถในกาีทำกำไร (ROE) หรืออุปสรรคในการแข่งขัน (barrier to entry) ที่สร้างความแตกต่างในตลาด เมื่อปัจจัยเหล่านี้ปรากฏเด่นชัด บริษัทก็มักได้รับการตีราคาเหนือกว่าค่าเฉลี่ย ในขณะที่ market sentiment ก็เป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้ valuation ผันผวนไปตามกระแสความมั่นใจของตลาด

สิ่งเหล่านี้คือกฎเกณฑ์ที่อยู่คู่ตลาดมายาวนาน แต่หลังจากวิกฤตโควิดเป็นต้นมา ได้เกิดพรีเมียมอีกรูปแบบหนึ่ง ที่สะท้อนผ่านพลังการรวมตัวของนักลงทุนรายย่อยบน social media ปรากฏการณ์ที่เรียกได้ว่า retail premium ได้กลายเป็นอีกมิติของตลาดทุน โดย Reddit, Twitter/X และ Discord คือเวทีที่ narrative ถูกขยายวงกว้างอย่างฉับพลัน และเมื่อถูกผสานเข้ากับพลังการลงทุนแบบ crowd-sourced ราคาหุ้นสามารถขยับขึ้นได้เหนือปัจจัยพื้นฐานดั้งเดิมได้ อย่างมาก


ตัวอย่างที่สะท้อนปรากฏการณ์นี้ได้ชัดเจนที่สุดคือ Tesla ซึ่งไม่ได้ถูกตีมูลค่าเพียงจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าหรืออัตรากำไรทางธุรกิจ หากแต่ถูกผลักดันโดย narrative ที่ Elon Musk ถ่ายทอดสู่ผู้ติดตามทั่วโลก ความเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมทำให้ Tesla ก้าวข้ามจากการเป็นเพียงบริษัทจดทะเบียน สู่การเป็นสัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและวิสัยทัศน์ของอนาคต ฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นนี้ถูกแปรเปลี่ยนเป็นแรงซื้อที่ผลักดัน valuation ให้สูงเกินขอบเขตที่โมเดลการเงินแบบดั้งเดิมจะรองรับได้ และนั่นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ short sellers ต้องพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม retail premium ไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่เสียทีเดียว หากมองย้อนกลับไปในช่วง dot-com bubble ปลายทศวรรษ 1990 นักลงทุนต่างแห่เข้าซื้อหุ้นอินเทอร์เน็ตที่เพียงแค่มีชื่อเกี่ยวข้องกับ .com โดยไม่คำนึงถึงการสร้างกำไร ปรากฏการณ์นั้นสะท้อน narrative-driven premium ในยุคที่อินเทอร์เน็ตเพิ่งถือกำเนิด เช่นเดียวกับที่ปัจจุบัน social media ทำหน้าที่ขยาย narrative ของหุ้น Tesla ในแบบเรียลไทม์ ความแตกต่างคือเครื่องมือการรวมตัวเปลี่ยนจากห้อง chat/ message boards ในยุค 1990 มาเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลที่เข้าถึงนักลงทุนหลายล้านคนในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่แก่นแท้ยังเหมือนเดิม คือการที่ราคาหุ้นถูกขับเคลื่อนด้วยความเชื่อมากกว่าพื้นฐาน
เมื่อพิจารณาในเชิงโครงสร้าง retail premium มีแนวโน้มเป็นเพียงวงจรชั่วคราว มากกว่าจะเป็น structural premium เหตุผลคือ narrative ที่จุดกระแสได้ง่ายย่อมเสื่อมคลายไปตามกาลเวลา โดยเฉพาะเมื่อความมั่นใจสลาย ราคาหุ้นที่เคยถูกขับขึ้นด้วยพลังฝูงชนก็เผชิญแรงขายอย่างรุนแรง คล้ายกับการล่มสลายของหุ้นดอทคอมในปี 2000 ที่หลายบริษัทหายไปจากตลาดภายหลังจากนั้น

 

Implication:
สำหรับนักลงทุน retail premium ไม่ควรถูกมองว่าเป็นการเปลี่ยนวิธีของ valuation อย่างถาวร หากแต่เป็นเพียงกระแสที่สร้าง mispricing ได้ในบางช่วงเวลา ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้ใช้เป็น tactical trade หรือ momentum play เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น แต่ไม่ควรนำมาเป็นเหตุผลในการสร้าง core allocation ของพอร์ตการลงทุน เพราะในระยะยาว valuation จะยังสะท้อนปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก บทเรียนจาก dot-com bubble ตอกย้ำว่า narrative-driven premium แม้จะทรงพลังได้เพียงบางช่วง แต่ไม่สามารถแทนที่ fundamental ที่ยั่งยืนได้ ดังนั้น สำหรับนักลงทุนที่มุ่งหวังผลตอบแทนระยะยาว การแยกให้ออกระหว่าง พรีเมียมที่เกิดจาก narrative กับพรีเมียมที่ตั้งอยู่บนปัจจัยพื้นฐานคือกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยง momentum trap

สำหรับหุ้น Tesla กลยุทธ์ที่เหมาะสม คือการใช้เป็นเครื่องมือเก็งกำไรระยะสั้นตามจังหวะของกระแสข่าวและ sentiment มากกว่าการถือครองระยะยาว เนื่องจากเมื่อพิจารณาภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรม EV และแนวโน้มการเติบโตใน 1–2 ปีข้างหน้า ปัจจัยพื้นฐานอาจไม่เพียงพอที่จะรองรับระดับ valuation ในปัจจุบันได้

สรุปภาพตลาดวานนี้

SET ทะลุ 1300 พร้อมปริมาณการซื้อขายเพิ่ม และยังคงหมุนในหุ้นบลูชิป AOT PTT CPALL DELTA แต่พบหุ้นขนาดกลางค่อนใหญ่ก็ทยอยเด้ง KTC CRC MINT CPN TLI เป็นต้น และความคาดหวังในการเล่นหุ้นซิ่งเพิ่มหลังเบรกแนวต้านจิตวิทยา พาหุ้นกลางค่อนเล็กเล่นแรงกว่า LTS BE8 รวมทั้งธีมการเล่นกับภาคอสังหาฯ LH ORI AP QH SIRI GLOBAL เป็นต้น ส่วนธนาคารโดนประเด็นการอายัดบัญชีม้ากดดัน

แนวโน้มตลาดวันนี้

ย่อแล้วซื้อ บน Sentiment รายกลุ่มฯ
หลังจากผ่านแนวต้าน 1300 ที่เป็นจุดจิตวิทยาหลักขึ้นมา บ่ายวานนี้หุ้นไทยยังคงยืนได้ แม้กลุ่มธนาคารจะกดดันตลาดจากประเด็นบัญชีม้า แต่ด้วยการค้ำยันของหุ้นใหญ่ ทำให้ขนาดกลาง-เล็กหลายตัวเล่นได้ดีกว่าที่คาด แต่หากมองเป็นกลุ่มชัดเจน คือ อสังหาฯ แม้เล่นกับประเด็นปลดล็อค Airbnb ที่มีการทำประชาพิจารณ์ แต่ก็ไม่ได้ทำให้กลุ่ม รร. เล่นแย่ เพราะ CENTEL ERW ก็บวกดี แสดงถึง Risk Appetite ของตลาดที่สูงขึ้นจากก่อนหน้า ในส่วนงาน BLS Tourism Day วานนี้ Session ของ CENTEL ชี้ให้เห็นประเด็นหนึ่งว่าน่าจะผ่าน Bottom แล้ว โดยกลุ่มร้านอาหารฟื้นตัวชัดเจนสุด
สำหรับคืนนี้ติดตามการประชุมเฟด หากไม่ได้เหนือความคาดหมาย แม้มีแรงขาย Sell-on-fact ก็กระทบหุ้นไทยจำกัด เพราะประเด็นในประเทศ หลังจากยื่นทูลเกล้าฯ ครม. คาดจะทราบผลในไม่ช้านี้ จะมีอิทธิพลมากกว่า โดยการเก็งประเด็นกระทบแต่ละกลุ่ม โดยโฟกัสหลัก ได้แก่
1) การบริโภคในประเทศ นอกเหนือจากคนละครึ่ง ติดตามมาตรการเกี่ยวอื่นๆ โดยเฉพาะที่ไม่ได้ใช้งบฯ เพิ่ม เช่น การลดหย่อนภาษี บวกกับ KTC CRC COM7
2) มาตรการการท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วง High Season หนุน โรงแรม-การบิน
3) การจัดการค่าเงินบาทแข็งเกินไป บวกส่งออก HANA DELTA ITC CPF BTG
4) มาตรการช่วยเหลือผู้กู้-สภาพคล่อง SMEs ว่าบวกกับไฟแนนซ์หรือไม่
5) ด้านพลังงาน ตลาดยังมองโอกาสได้ทั้งบวก-ลบ จากประเด็นการลดค่าไฟฟ้า-การปรับโครงสร้างราคาก๊าซในประเทศ (ติดตามว่าทิศทางจะออกด้านใด)
ส่วนการเก็งกำไรวันนี้ เราแนะนำหุ้นขนาดกลางค่อนใหญ่ ที่อยู่ในธีมการฟื้นตัว และเป็นเทรนด์เดียวกันในกลุ่มฯ เช่น TOP KTC SCGP CENTEL MINT AWC BTG

กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้-สะสมหุ้นเมื่อราคาย่อลงมาตามแนรับ เน้นไปที่หุ้นผลตอบแทนเงินปันผลสูง, หุ้นที่มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไร และ เพิ่มการเล่นหุ้นตามกระแสการเก็งกำไร

วิเคราะห์ทางเทคนิค

SET ทะลุ 1,300 จุดสำเร็จ แต่! โมเมนตัม RSI เกิดภาพ divergence & oversold อาจจำกัด upside ของดัชนีต่อจากนี้ การที่ดัชนีขึ้นแรงและอยู่ในภาวะความผันผวนสูง อาจจะต้องระมัดระวังมากขึ้น ขณะที่โครงสร้างดัขนีคาดว่าอยู่ในคลื่นย่อย Impulse wave 5 โดยปกติจะเป็นคลื่นที่คนสนใจมากที่สุด ดัขนีพุ่งขึ้น แต่ปริมาณการซื้อขายมักต่ำกว่าคลื่นที่ 3 พบสัญญาณเตือนความขัดแย้ง บ่งชี้ความอ่อนแรงของแนวโน้ม อย่างไรก็ตามมุมมองระยะยาวยังคงให้เป้าหมายที่ 1,330 จุด แต่ระยะสั้นอาจต้องมีขึ้นสลับพักตัวบ้างSignal warning: กรณีดัชนีหลุดเส้น EMA 5 วัน 1295 จะเป็นสัญญาณเตือน! การปรับฐานของตลาด
ไฮไลท์กราฟเด็ด: CPALL & CPAXT ขาขึ้นยังไม่จบง่ายๆ!/ KTB signal alert / COM7 เปลี่ยนเทรนด์....ขาขึ้นรอบใหม่/ KTC Laggard play! ขึ้นดีตามกลุ่ม/ AOT ไปได้สวย....ตามแผน

 

What to watch
ทิศทางค่าเงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่า หลังมีประเด็นไอเดียการเก็บภาษีการขายทองเป็นสกุลเงินบาท (เพื่อลดการเร่งซื้อเงินบาทมากเกินไป)
การจัดตั้ง ครม. และ รมว. ดูแลกระทรวงสำคัญทางเศรษฐกิจ
ประเด็นปลดล็อคคอนโดให้เช่าผ่าน Airbnb อาจกลับมากระทบ รร. – คอนโด (อยู่ระหว่างรับฟังความเห็น)
ติดตามผลการประชุมเฟดคืนนี้ โดยตลาดคาดว่าจะลดดอกเบี้ย 0.25% อยู่ราว 96% ค่อนข้างนิ่งแล้ว / แต่สิ่งที่ตลาดติดตาม คือ สัญญาณแนวโน้มจากการแถลง โดยเฉพาะโอกาสเห็นความต่อเนื่องในการลดดอกเบี้ยต่อจากนี้ โดยล่าสุดตลาดคาด 3 ครั้ง (ถึงเดือน ธ.ค.) แล้วพัก 1 ครั้ง (หากดูต่อเนื่องกว่านี้ เป็นบวก)
FTSE จะปรับหุ้นใหม่ มีผล 19 ก.ย. ลด CPAXT ไปกลุ่ม MID Cap, BGRIM SAWAD ลดไปกลุ่ม Small Cap และ มีหุ้นถอดออกจาก Small Cap ได้แก่ BEC BSRC FORTH PSH SINGER SUPER THANI TKN TQM

หุ้นแนะนำวันนี้
MINT ตามโมเมนตัมการฟื้นตัวหุ้นท่องเที่ยว แต่ยังเป็นหุ้นใหญ่ของกลุ่มที่ฟื้นช้าสุด เล่น Catch-up ได้ในระยะสั้นนี้
แนวรับ 24.4 ต้าน 25.5 Stop loss 23.7

 

 

รายงานพื้นฐานวันนี้

Event

Head-up: จับสัญญาณการบริโภคในงาน BLS Consumption pulse
แม้ภาพรวมกำลังซื้อผู้บริโภคยังดูอ่อนแอตามยอดขายสาขาเดิมกลุ่มค้าปลีกในช่วงเดือน ส.ค.ยังหดตัว 2% YoY และผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของ BLS (ส.ค.2025) ก็ชี้ว่ามากกว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามมีแผนลดการใช้จ่าย โดยเฉพาะหมวดสินค้าฟุ่มเฟือย อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นค้าปลีกกลับวิ่งแรงสวนทาง ดัชนีหุ้นกลุ่มค้าปลีก (SETCOMM) ปรับขึ้นเด่นกว่า SET +8% ในรอบเดือนที่ผ่านมา เพราะคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่

ด้านสมาคมผู้ค้าปลีกไทยมีข้อเสนอมาตรการกระตุ้นเร่งด่วน 3 เรื่องถึงรัฐบาลใหม่ —เสนออัปเกรดคนละครึ่ง (300 บ./วัน), Easy e-Receipt เฟส 3 ในปลายปี (คืนภาษีสูงสุด 1 แสนบาท), และข้อเสนอเกี่ยวกับภาษีเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายนักท่องเที่ยว —ซึ่งหากทำได้จริง จะช่วยฟื้นกำลังซื้อและเร่งการฟื้นตัวใน 4Q25 ได้แค่ไหน กลุ่มค้าปลีกสินค้าใดจะฟื้นก่อน เราเชิญนักลงทุนร่วมหาคำตอบงาน BLS’s Consumption Pulse วันที่ 17 ก.ย.ผ่านมุมมอง ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ รองประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย

Event Summary

สรุปประเด็นสำคัญจาก Virtual Conference เรื่อง World ID
จากที่เราจัด Virtual Conference กับคุณธนารัตน์ กัววัฒนาพันธ์ ซึ่งเป็น CEO ของ Dome Cloud ซึ่งให้มุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับ World ID และโอกาสในประเทศไทย
อันดับแรก ปัจจุบันการยืนยันตัวตนมี 3 แบบ คือ สิ่งที่เรารู้ เช่น รหัสผ่าน, สิ่งที่เรามี เช่น เบอร์โทรหรือ OTP, และสิ่งที่เราเป็น เช่น ลายนิ้วมือหรือใบหน้า แต่แต่ละแบบก็มีข้อจำกัด World ID เสนอเส้นทางใหม่ โดยใช้การสแกนม่านตา ซึ่งข้อมูลดวงตาจะถูกแปลงเป็น Iris Code และมีการทำ liveness detection


โอกาสและความท้าทาย ตอนนี้ use case ยังจำกัด Concept คล้าย NDID แต่ข้อมูลน้อยกว่ามีแค่อีเมลกับ Iris code ทำให้ต้นทุนถูกกว่า ช่วงเริ่มต้นอาจจะใช้ยืนยันตัวในโลก Web3 หรือป้องกันบอทแย่ง airdrop แต่อนาคตอาจต่อยอดสู่ e-signature, การ log-in ข้ามแพลตฟอร์ม หรือบรัทไทยสามารถเขียน Miniapps เข้าไปเชื่อมและขอใบอนุญาต Identity providerอย่างไรก็ตาม


สิ่งที่น่ากังวลคือในประเทศไทย early adopters ส่วนใหญ่เข้ามาเพราะต้องการ token reward ไม่ใช่เพราะสนใจเทคโนโลยีจริง ๆ ซึ่งอาจไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่ World ID ต้องการจริง ๆ แต่ถ้าแก้ปัญหานี้ได้อนาคตอาจจะเป็น Monopoly

มุมของธุรกิจไทย ตอนนี้ MVP เข้ามาเป็นผู้ให้บริการ Orb ในไทย และ COM7 ก็กำลังจะถือหุ้นใหญ่ใน MVP ซึ่งจะเปิดทางไปสู่บริการใหม่ ๆ ไม่ใช่แค่การติดตั้งเครื่อง Orb แต่รวมถึง identity-linked marketing, Orb-as-a-Service, mini-apps ที่เชื่อมกับ World ID หรือแม้แต่การต่อยอดใน ecosystem ของ WLD เอง MVP อาจกลายเป็น tech arm ของ COM7 คล้ายกับ J Ventures ในกลุ่ม JMART ช่วยให้ COM7 ขยายรายได้จากการขายอุปกรณ์ ไปสู่ธุรกิจบริการด้าน IT และ Digital Trust Infrastructure


วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

NAM ปลื้ม! "เซอร์วิโซ" บ.ย่อย คว้า SILVER AWARDS ตอกย้ำมาตรฐานงานปราศจากเชื้อ

NAM ปลื้ม! "เซอร์วิโซ" บ.ย่อย คว้า SILVER AWARDS ตอกย้ำมาตรฐานงานปราศจากเชื้อ

มัลติมีเดีย

PTG × ATLAS ร่วมกันเปิดปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest นครชัยศรี 11”

PTG × ATLAS ร่วมกันเปิดปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest นครชัยศรี 11”

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้