คาด SET Index แกว่งตัว Sideways to sidewaysup: แรงหนุนจากความหวังในการได้ครม.ชุดใหม่และมาตรทางเศรษฐกิจ รวมถึงมีสัญญาณเชิงบวกจากภาพตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯและความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีน หากแต่มองทางขึ้นถูกลดทอนลงจากความระมัดระวังก่อนทราบผลการประชุม FOMC
แนวรับ-ต้าน
1,300 –1,320
กลยุทธ์การลงทุน
1) หวัง โครงการคนละครึ่งและทัวร์ไทยคนละครึ่ง:AEONTS, AWC, CENTEL, CPALL, CPAXT,ERW, ICHI, KTB, KTC, MTC, OR, PTG, SAWAD
2) หวังมาตรการอสังหาฯ: LH, SC, SIRI, SPALI
3) หวังเฟดลดดอกเบี้ย: BGRIM, DELTA, GPSC,HANA, KCE
4) พ ลั ง ง า น แ ล ะ China play: IVL, PTTEP,PTTGC, SPRC, TOP
5) Selective: AH, BCH, BH, MAJOR, SAT, TTA
ใกล้ได้แล้วครม.อนุทิน 1 แต่คืนนี้มี FOMC
ใกล้ได้ครม.ชุดใหม่มาบริหารประเทศ:คาดแรงหนุนมาจากการจัดตั้งฝ่ายบริหารชุดใหม่ที่ใกล้เข้ามาทุกที โดยความคืบหน้าเมื่อวานนี้นายกฯได้ลงนามเพื่อทูลเกล้าฯรายชื่อครม.แล้ว จากภาพข้างต้นส่งผลให้เรามองเป็น Sentimentเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Domestic play ท่ามกลางความหวังต่อมาตรการทางเศรษฐกิจสอดรับกับที่ก่อนหน้านี้นายกฯได้พบปะกับผู้น าภาคธุรกิจอย่างส.อ.ท. เพื่อหารือถึงแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และในวันพรุ่งนี้นายกฯจะเข้าพบกับหอการค้าไทย
กิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯแกร่งกว่าที่คิด: นอกจากนี้ คาด SETIndex จะได้ Sentiment หนุนจากความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ลดลง หลังเมื่อคืนสหรัฐฯเผย 1)ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.68 โดย Advanceขยายตัว 0.6% m-m เท่ากับเดือนก.ค.68 และมากกว่าตลาดคาดที่0.2% m-m ส่วน Core ขยายตัว 0.7% m-m มากกว่าเดือนก.ค.68และตลาดคาดที่ 0.4% m-m และ 2) ผลผลิตใตภาคอุตฯเดือนส.ค.68ขยายตัว 0.1% m-m พลิกจากเดือนก.ค.68 และตลาดคาดหดตัว0.4%m-mและหดตัว 0.1%m-mตามลำดับ ประกอบกับยังมีสัญญาณเชิงบวกระหว่างความสัมพันธ์สหรัฐฯกับจีน หลังรมว.คลังสหรัฐฯเผยต่อ CNBC ว่าเขาคาดว่าสหรัฐฯจะมีการเจรจากับจีนอีกครั้ง ก่อนถึงกำหนดการบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้ต่อจีนในเดือนพ.ย.68 พร้อมกันนี้เขายังเผยว่า การเจรจาแต่ละครงั้ มีความคืบหน้าและเกิดผลมากขึ่น
ลดเสี่ยงก่อนทราบผลการประชุมเฟด: คาดทางขึ้นของ SET Indexจำกัด เนื่องจากมองนกั ลงทุนมีแนวโน้มที่จะระมัดระวังมากขึ้นก่อนที่จะทราบผลการประชุม FOMC ในคืนนี้ โดยเรามองถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมครั้ง นี้ หลังมีสัญญาณถึงตลาดแรงงานสหรฐั ฯที่อ่อนแอลงซึ่งรวมถึงข้อมูลเดือนส.ค.68 ที่บ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้น ของจ้างงานนอกภาคการเกษตรและอัตราการว่างงานที่แย่ลงเมื่อเทียบกับเดือนก.ค.68 และหากพิจารณาจาก FedWatchTool ตลาดให้น้าหนัก 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมข้างต้น โดยน้าหนักหลัก (96%) อยู่ที่การปรับลด 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% นอกจากนี้ ติดตามถ้อยแถลงภายหลังการประชุมจากปธ.เฟด รวมถึง Dot plot และ Economic projection ซึ่งจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินและเศรษฐกิจสหรัฐฯในระยะถัดไป
ปัจจัยเพิ่มเติม
(+)ธนาคารออมสินเตรียมออก Soft Loan เพิ่มเติม วงเงินโครงการ 1 แสนล้านบาท โดยธนาคารออมสินคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.01% ต่อปี ให้สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ นำไปปล่อยต่อให้กับผู้ประกอบการ SMEs ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 3.50% ต่อปี ใน 2 ปีแรก เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่อง
(+)3 สมาคมอสังหาฯเสนอ 3 มาตรการระยะสั้น (Quick Win) แก่รัฐบาลใหม่ได้แก่ 1) เสนอให้ขยายมาตรการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนองไปยังทุกระดับราคา 2) ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% ผ่านกนง. และ 3) เตรียมเข้าพบนายกฯเสนอแผนระยะสั้นเพิ่มเติม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อเสนอเชงินโยบายอีกครั้ง
(+)คาดหุ้นในกลุ่มพลังงานจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น1.93% ปิดที่ $64.52 ต่อบาร์เรล หลังแหล่งข่าวเผยว่า Transneft ซึ่งผูกขาดการให้บริการท่อส่งน้ำมันของรัสเซีย ได้เตือนบรรดาผู้ผลิตว่าอาจต้องลดกำลังการผลิตลง หลังยูเครนได้ทำการโจมตีท่าเรอืส่งออกและโรงกลัน่ ที่สำคัญ
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์