วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนยังคงจับตาการจัดตั้ง ครม. อนุทิน 1 และจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ มีแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และไอซีที มีแรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,299.78 จุด +6.16 จุด +0.48% มูลค่าการซื้อขาย35,280.04 ลบ. Program Trading -455.29 ลบ. ต่างชาติ+303.49 ลบ. TFEX -4,117 สัญญา ตราสารหนี้+4,329.49 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 49.23 จุด หรือ +0.11% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดที่เหนือระดับ 6,600 จุดเป็นครั้งแรก โดยได้แรงหนุนจากการที่ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์แสดงความเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้ากับจีน ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของ FED ในวันพุธนี้ โดยมีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า FEDจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 61 เซนต์ หรือ 0.97% ปิดที่63.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่นักลงทุนประเมินผลกระทบจากการที่ยูเครนใช้โดรนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซีย และการที่ผู้นำสหรัฐฯ กดดันให้ประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) ยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
+ มาตรการของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ในการลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากญี่ปุ่นลงเหลือ 15% จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (16 ก.ย.) โดยก่อนหน้านี้ สหรัฐฯปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ต่างประเทศเป็น 27.5% โดยให้เหตุผลด้านความมั่นคง ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นและค่ายรถต่างชาติรายอื่น ๆ ต้องเผชิญกับผลกำไรที่หดตัวลง
+ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความใน Truth Social โดยส่งสัญญาณว่าสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงกับจีนเกี่ยวกับบริษัทติ๊กต๊อก(TikTok) แล้ว
+ สมาคมผู้ค้าปลีกไทยเสนอมาตรการด่วน Quick Win ต่อรัฐบาลใหม่กระตุกชีพจรค้าปลีกมูลค่ากว่า 4 ล้านล้านบาท แนะเพิ่มวงเงิน "คนละครึ่ง"เป็น 300 บาท ลดภาษีนำเข้าสินค้าไลฟ์สไตล์ ดึงนักช็อปต่างชาติ

ปัจจัยลบ
- บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงทั่วประเทศ ณ 2Q68 มีมูลค่าเพียง56,127 ล้านบาท ลดลง 32%YoY และลดลง 11%QoQ จากปัจจัยเสี่ยงทั้งเศรษฐกิจโลก, ผลกระทบจากนโยบายสหรัฐ, ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และเหตุแผ่นดินไหว
- นายกรัฐมนตรีสเปน เรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรอิสราเอลจากการแข่งขันกีฬานานาชาติ เพื่อตอบโต้ต่อการที่อิสราเอลทำการโจมตีชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
- FED สาขานิวยอร์ก เปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index)ดิ่งลง 20.6 จุด สู่ระดับ -8.7 ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +4.5 จากระดับ +11.9 ในเดือนส.ค.

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนยังติดตามการประชุมของเฟด ในวันพุธนี้ โดยมีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยใน ขณะที่ในประเทศยังติดตามการแถลงแผนนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่อย่างใกล้ชิด คาดกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,290-1,310 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
-หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : SAWAD TIDLOR THANI NCAP SAK
- กระทรวงการคลังพร้อมเดินหน้าโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ : CPALL BJC CPAXT CBG OSP SAPPE TNP
- ปลดล็อกขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารช่วง 14.00-17.00 น. : CBG MENA BJC CPALL CPAXT TNP KK MOTHER
- FTSE Rebalance ใช้ราคาปิดวันที่ 19 ก.ย. : Large Cap หุ้นเข้า – หุ้นออก CPAXT Mid Cap หุ้นเข้า CPAXT หุ้นออก BGRIM, SAWAD Small Cap หุ้เข้า BGRIM,SAWAD หุ้นออก BSRC, BEC, FORTH, PSH, THANI, SINGER, SUPER, TKN, TQM