Today’s NEWS FEED

News Feed

InnovestX คาดวันนี้ SET ยืน 1300 ก่อนรู้ผลประชุมเฟด

91

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 16 กันยายน 2568)-------InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 16 กันยายน 2568คาดตลาดแกว่งตัวขึ้น หลังทดสอบ/ปิดใกล้ 1300 มีโอกาสยืนได้ นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อยพร้อมนักลงทุนสถาบันที่ทยอยซื้อสุทธิต่อเนื่อง ประธานาธิบดีทรัมป์ กดดันเฟดให้ลดดอกเบี้ต่อ ตลาดติดตามว่าวงจรการลดดอกเบี้ยรอบใหม่จะลงไปที่เท่าใดในปี 2569 ตาม DotPlot ใหม่ซึ่งรายงานครั้งที่ผ่านมา FFR ปี 2569 อยู่ที่ 3.6% ทางเทคนิคการยืนเหนือ1300 ได้มีแนวต้านถัดไปที่ 1310/1315 ส่วนแนวรับที่ 1290/1280 พักสั้นเพื่อขึ้นไม่ควรต่ำกว่า

 

 


ประเด็นสำคัญ
• ศก. จีนใน ส.ค. 2568 ชะลอตัวมากกว่าคาด จากผลผลิตภาคอุตฯ และยอดค้าปลีกขยายตัว 5.2%YoY และ 3.4%YoY ตามลำดับ ชะลอจากเดือนก่อนและต่ำกว่าที่ตลาดคาด ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์คงทนช่วง 8M68 ขยายตัวเพียง +0.5%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดและต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563
• ธปท. และคลังกำลังหารือถึงแนวทางการจัดเก็บภาษีจากการซื้อขายทองคำในประเทศ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และชำระเป็นเงินบาท เพื่อสกัดปัจจัยหนุนบาทแข็งค่าที่แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 4 ปี หลังพบมูลค่าส่งออกทองคำช่วง 7M68 พุ่ง 69%YoY แตะ 2.54 แสนลบ. โดยเฉพาะการส่งออกสู่กัมพูชาที่เพิ่มขึ้นผิดปกติ
• กรมธุรกิจพลังงานเผยสถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงช่วง 7M68 เพิ่มขึ้น 0.1%YoY สู่ 156.9 ล้านลิตร/วัน เป็นการเพิ่มขึ้นจากการบริโภคเบนซินและน้ำมันอากาศยาน (Jet A1) 1.5%YoY และ 9.8%YoY ตามลำดับ แต่การบริโภคดีเซลหดตัว 2.0%YoY ตามภาค ศก. ที่ชะลอตัว โดยเฉพาะการชะลอตัวของกลุ่มบริการท่องเที่ยว
• คณะทำงานปฏิรูปตลาดหุ้นไทย ซึ่งประกอบด้วย สศค., ก.ล.ต., ตลท. และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ร่วมกันเปิดเผย “ร่างมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดทุนไทย” ผ่าน 4 แนวทาง เพิ่มคุณภาพผู้ลงทุน, เพิ่มสินค้าให้ดึงดูด, สร้างความเชื่อมั่น และสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการลงทุน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มขีดความสามารถ
• กยท. ประสบความสำเร็จในการเจรจาการค้ากับรัฐบาลจีนและได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้ายางพาราไทยที่ขนส่งผ่านช่องทางแม่น้ำโขงจาก 20% เหลือ 0% ทำให้ไทยมีศักยภาพการแข่งขันเทียบเท่าประเทศในอาเซียนที่ได้รับการยกเว้นก่อนหน้านี้ มองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มยาง อย่าง NER STA TEGH

 

 


กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสไซด์เวย์ในกรอบ โดยมีแนวต้านบริเวณ 1300-1320 จุด ทั้งนี้ประเมินตลาดจะให้น้ำหนักหลักกับปัจจัยต่างประเทศอย่างการประชุมนโยบายการเงิน FOMC (17 ก.ย.) ซึ่งคาดเฟดจะมีมติลดดอกเบี้ยนโยบาย 25bps รวมทั้งจับตา Dot Plot และถ้อยแถลงของประธานเฟดที่จะชี้นำการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ส่วนการประชุมนโยบายการเงิน BoE และ BoJ ตลาดคาดยังมีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่เดิม ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังอยู่ระหว่างรอติดตามข่าวความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลและแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่เพิ่มจากโครงการคนละครึ่ง ซึ่งจะมีผลต่อการเรียกความเชื่อมั่นการลงทุนให้ฟื้นตัวและการทยอยไหลเข้าของ Fund Flow ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

แนวรับ – แนวต้าน : 1290/1280– 1310/1315

 

 

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ ระหว่างรอผลการประชุม FOMC ซึ่งคาดจะมีการลดดอกเบี้ย รวมทั้งจับตา Dot Plot และถ้อยแถลงของประธานเฟดที่จะชี้นำการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ส่วนในประเทศติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาด 2H68 ผลการดำเนินงานเติบโตดีทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและปัจจัยบวกเฉพาะตัว ได้แก่ ADVANC BCPG GULF SCC
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET100 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ PTT TTB
3. Trading Idea : สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลงและ/หรือ ดอลลาร์อ่อนค่า(บาทแข็งค่า) แนะนำ REITs (DIF) อสังหาฯ (AP SIRI) เช่าซื้อ (MTC) และโรงไฟฟ้า (GPSC BCPG GULF) 2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากสถานการณ์น้ำท่วมในไทย แนะนำ TASCO BJC HMPRO GLOBAL และ 3) หุ้นที่ได้อานิสงส์จากออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และ/หรือ ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาดีขึ้น ได้แก่ ค้าปลีก (CPALL GLOBAL TNP) เครื่องดื่ม (CBG OSP HTC ICHI) ท่องเที่ยว (CENTEL) นิคม (AMATA WHA) วัสดุก่อสร้าง (SCC) ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นที่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากเงินบาทแข็งค่าอย่าง อิเล็กทรอนิกส์ (KCE HANA DELTA) และอาหาร (TU CPF GFPT) ซึ่งมีรายได้บางส่วนอยู่ในรูปดอลลาร์

 

Daily Top Picks

CKP: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากดอกเบี้ยขาลงและการเข้าสู่ฤดูกาลทำกำไรของโรงไฟฟ้าพลังน้ำช่วง 3Q68–4Q68 คาด EPS เติบโต 33% ในปี 2568 และ 14% ในปี 2569 ขณะเดียวกัน Valuation ยังถูก (2569F PER 12x, P/BV 0.8x, Yield 3%) การลดดอกเบี้ยทุก 0.5% เพิ่มกำไร 8% ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้นไว้ที่ 3.00 บาท

TASCO: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งคาดจะหนุนความต้องการสินค้าซ่อมแซมพื้นผิวถนนหลังน้ำลด และการเร่งเบิกจ่ายงบปี 2569 จากรัฐบาลใหม่ ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 2568 จะพลิกเติบโต 5.6%YoY ขณะที่หุ้นซื้อขายที่ PER 2568F ไม่แพงที่ระดับราว 11 เท่า มีราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 15.90 บาท

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ATLAS ผนึก PTG เปิดสถานี 'PT Max Rest นครชัยศรี 11' ใหญ่ที่สุดในไทย รองรับไลฟ์สไตล์นักเดินทางยุคใหม่

ATLAS ผนึก PTG เปิดสถานี 'PT Max Rest นครชัยศรี 11' ใหญ่ที่สุดในไทย รองรับไลฟ์สไตล์นักเดินทางยุคใหม่

จุดขาย By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไตกิ่งมะม่วง มองบริเวณดัชนีตลาดหุ้นไทย เหนือ 1,300 จุด ขึ้นไปเป็น จุดขาย จุด บริหารจัดการต้นทุน บริหารพอร์ต....

มัลติมีเดีย

PTG × ATLAS ร่วมกันเปิดปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest นครชัยศรี 11”

PTG × ATLAS ร่วมกันเปิดปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest นครชัยศรี 11”

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้