ภาวะตลาด : SET Index วานนี้ แกว่งในกรอบ 1264.79-1276.15 ปิดตลาดที่ 1266.11 ปรับขึ้นเล็กน้อย +1.31 จุด (+0.10%) หนุนโดยหุ้นที่คาดว่าจะได้อานิสงค์จากโครงการ “คนละครึ่ง” ที่รัฐบาลใหม่จะนำมาใช้ภายในเดือนแรก เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย เช่น CPAXT, BJC, CBG, OSP, ICHI เป็นต้น แต่เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น กดดันหุ้นกลุ่มส่งออก โดยเฉพาะอิเลคทรอนิกส์ทั้ง DELTA, HANA, KCE สถาบันในปท.ซื้อ-ขายใกล้กัน ต่างชาติขายสุทธิ -1.4 พันลบ.
ปัจจัยต่างประเทศ
• จีน: ส่งออกเดือนส.ค.เติบโต 4.4% YoY ต ่าสุดในรอบ 6 เดือน จากอุปสงค์ชะลอตัวและราคาส่งออกเฉลี่ยลดลง
• สหรัฐ: ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่จะรายงานวันที่ 11 ก.ย.นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปเดือนส.ค.25 จะเพิ่มเป็น 2.9% (จาก 2.7% ในก.ค.25) ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานทรงที่ 3.1% เท่ากับก.ค.25
• สหรัฐ: นักวิเคราะห์บางสำนักปรับมุมมองว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยมากขึ้น หลังภาคแรงงานชะลอตัวเกินคาด เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 16-17 ก.ย.นี้
• ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น รับคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย โดยดัชนี Nasdaq ทำ new highจากการพุ่งขึ้นของหุ้นบรอดคอม ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 62-66 US$/bbl สัญญาทองคำบวกต่อ 24.10 US$ ปิดที่ 3,677.40 US$/ออนซ์ จากดัชนีค่าเงิน US$ อ่อนลงแตะ97.36 เงินบาทแข็งขึ้นป็น 31.5-31.6 Bt/US$ ส่วน US bond yield 10 ปี ลดเป็น 4.04% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ลดสู่105.8 ดัชนี Baltic Dry Index เด้งขึ้นเป็น 2,019
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• ไทย: เงินบาทแข็งค่าขึ้นประมาณ 7% YTD ล่าสุดอยู่ที่ 31.5-31.6 บาท/ดอลาร์สหรัฐ…เงินบาทแข็งเป็นลบกับหุ้นส่งออก เช่น DELTA, HANA, KCE, SVI, TU เป็นต้น แต่บวกกับบริษัทที่มีหนี้ต่างประเทศมาก เช่น GPSC, GULF, AAV, IVL, PTT, PTTGC, TOP เป็นต้น และผู้นำเข้าสุทธิ เช่น TVO, SYNEX, COM7, SIS เป็นต้น
• การเมืองไทย: จับตารายชื่อครม.อนุทิน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในสัปดาห์นี้ , ติดตามคำตัดสินของศาลคดีชั้น 14 นายทักษิณวันนี้ (9 ก.ย.25)
กลยุทธ์ : ทดสอบแนวต้าน 1275 แล้ว แต่ยืนไม่ได้ ระยะสั้นอาจแกว่งลงไปที่แนวรับ 1260-1255, 1250...ดัชนี ทดสอบแนวต้าน 1275 แล้ว แต่ยืนไม่ได้ ระยะสั้นมากควรระวังการอ่อนตัวลงมาที่แนวรับ 1260-1255, 1250 โดยยังคงให้แนวฟิวเตอร์ที่ไม่ควรหลุดไว้ที่ 1250 หากหลุดมีโอกาสลงไปที่ 1235-1230, 1220-1210 ส่วนการปรับขึ้นมีแนวต้าน 1275, 1280, 1290-1300 ตามลำดับ
หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : TASCO – คาดจะได้อานิสงค์จากน้ำท่วม ที่ต้องมีการซ่อมถนนในหลายพื้นที่ รวมทั้งยังมีเงินงบประมาณปี 25-26 ในการสร้างถนนต่อเนื่อง นอกจากนั้นคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเลือกตั้งทั่วไปด้วย สำหรับแนวโน้มกำไร 2H25F คาดว่าจะเพิ่ม HoH จากความต้องการซื้อยางมะตอยในประเทศเพิ่มขึ้น ประเมินกำไรสุทธิปี 25F-26F ขยายตัว 15% และ 13% หนุนโดยรายได้และมาร์จิ้นที่ดีขึ้น แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 16.70 บาท (DCF)
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829