สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (5 กันยายน 2568 )-----เคทีซีเดินหน้าโครงการส่งต่อความรู้ให้กับนิสิต นักศึกษา ที่กำลังจะเริ่มต้นทำงานมีรายได้ (First Jobber) จัดคลาสพิเศษยกระดับความเข้าใจและมุ่งสร้างวินัยทางการเงินให้แน่นในหัวข้อ "การบริหารการเงินและการลงทุนส่วนบุคคล" สำหรับนิสิตปี 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
 
นายอภิเชษฐ์  เกียรติวรคุณ CFA ผู้อำนวยการ-การเงิน "เคทีซี" หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ยินดีที่ได้เป็นตัวแทนเคทีซีมาส่งต่อกรอบคิดทางการเงินให้กับน้องๆ นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล ที่กำลังจะเรียนจบและเตรียมพร้อมไปเริ่มต้นทำงาน มีรายได้เป็นของตนเอง จะมีการบริหารการเงินอย่างไรให้งอกเงยและเกิดประโยชน์ เนื้อหาที่น่าสนใจในคลาสวันนี้จึงเริ่มจากแกนคิดว่า "ไม่ใช่หาได้เท่าไร แต่บริหารอย่างไร" พร้อมกรณีศึกษาของ Mike Tyson เพื่อชี้ให้เห็นผลของวินัย–การตัดสินใจต่อความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ต่อด้วยการตั้ง "เป้าหมายการเงิน 3 ระยะ" (สั้น/กลาง/ยาว) เพื่อแปลงความตั้งใจเป็นแผนปฏิบัติที่ตรวจสอบได้ กรอบปฏิบัติย้ำวินัย ออมก่อนใช้ และกฎ 50/30/20 ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น / ค่าใช้จ่ายเพื่อความสุข / เงินออมและการลงทุน เพื่อควบคุมงบประมาณ พร้อมประเด็นจิตวิทยา Marshmallow Test ที่เตือนภัย "ความอยากระยะสั้น" ซึ่งอาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาดได้ง่ายโดยเฉพาะวัยรุ่นกลุ่มเจน Z
 
ในส่วนของการลงทุน ได้มีกิจกรรมเพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง ความเสี่ยง–ผลตอบแทน จากการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ตั้งแต่เงินสด / ตลาดเงิน / ตราสารหนี้ / ทอง / กองทุน / อสังหาริมทรัพย์ / หุ้น / คริปโต / ของสะสม ฯลฯ และย้ำว่า ไม่มีอะไรไร้ความเสี่ยง เงินสดก็พ่ายเงินเฟ้อได้ จากนั้นลงหลัก กระจายความเสี่ยง และการรีบาลานซ์พอร์ตลงทุน เพื่อลดการกระจุกตัว รักษาสัดส่วน และเก็บเกี่ยววัฏจักรตลาดอย่างมีวินัย ปิดท้ายด้วยชุด "นิสัยทางการเงิน" ตามแนว Atomic Habits เช่น การออม-ลงทุนแบบอัตโนมัติ 2-Minute Rule, Habit Stacking, และ Goldilocks Rule เพื่อให้ลงมือทำได้จริงตั้งแต่วันนี้
 
  เชื่อว่าผลลัพธ์ของการวางแผนการลงทุนและวินัยการเงินที่ดี จะสร้างความต่างอย่างมีนัยสำคัญในระยะยาว เราต้องการสร้างกรอบความคิดทางการเงินที่พิสูจน์ได้ในชีวิตจริง ตั้งเป้าหมายที่วัดผลได้ ออมก่อนใช้ รู้จักความเสี่ยง และรักษาวินัยเพื่อให้ว่าที่บัณฑิตได้ใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจทางการเงิน ด้วยการพิจารณาข้อมูลที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญ มากกว่าการพิจารณาจากอารมณ์ความต้องการ ซึ่งอาจเกิดความเสี่ยงได้มากกว่า
 
บรรยากาศช่วงถาม–ตอบ น้องๆ ให้ความสนใจการประยุกต์ความรู้สายวิศวะต่อยอดสู่เส้นทางอาชีพด้านการเงิน การวิเคราะห์ข้อมูล และการพัฒนาแอปพลิเคชันด้านการลงทุน เพื่อช่วยวางแผนและกำกับวินัยการออม–ลงทุนอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ นิสิตบางส่วนยังอยากทราบมุมมองเชิงลึกของ "โมเดลธุรกิจ" และอนาคตของธุรกิจดั้งเดิมในไทย—ตั้งแต่ค้าปลีก สื่อดั้งเดิมไปจนถึงบริการการเงินแบบเก่า ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่รวดเร็ว รวมทั้งแนวทางการปรับตัวของธุรกิจอย่างยั่งยืน สะท้อนว่านิสิตไม่ได้สนใจเพียงการเงินส่วนบุคคล แต่ยังให้ความสำคัญกับพลวัตเศรษฐกิจและการแข่งขันทางธุรกิจระยะยาว ซึ่งแสดงถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของคนรุ่นใหม่ที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรม พัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ และเสริมความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจไทยก้าวทันโลกในอนาคต"