Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

90

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 4 ก.ย.68 ปิด -6.76 จุด อยู่ที่ 1,252.55 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,813 ลบ. ต่างชาติขาย 1,781 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 700 ลบ. สถาบันซื้อ 1,019 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,462 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 2,048 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น THAI,GPSC,COM7,GULF,MTC และยอดขายหุ้น DELTA,ADVANC,AOT,TRUE,CPN มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,710 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TDEX,RATCH,MEGA โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 22,066 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 62,926 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 195 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.77%, S&P500 +0.83%, Nasdaq +0.98% นำโดยสินค้าฟุ่มเฟือย +2.25%, บริการสื่อสาร +1.12% ขณะที่สาธารณูปโภค -0.16% หลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานและการจ้างภาคเอกชนสหรัฐชะลอตัว ส่งผลให้เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุม 17 ก.ย. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.61% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสื่อสาร +1.9% จากคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ย
  • Market View
  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่ม Growth หลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 8,000 อยู่ที่ 237,000 สูงกว่าคาดที่ 231,000 ราย และ ADP เผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ ส.ค. เพิ่มขึ้น 54,000 น้อยกว่าคาดที่ 75,000 ตำแหน่ง ซึ่งบ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐมีสัญญาณชะลอตัว ดังนั้น CME FedWatch คาดมีโอกาส 99.4% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17 ก.ย. ขณะที่ราคาหุ้น Broadcom ช่วงปิดตลาด +4.78% หลังกำไร Q3/68 ดีกว่าคาด จากยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ +57% YoY และยอดขายโครงข่ายซอฟท์แวร์ +17% YoY โดยบริษัทคาดกำไร Q4/68 ยังเติบโตดีตามอุตสาหกรรม AI ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ส.ค. คาดเพิ่มขึ้น 74,000 & ก.ค.73,000 ราย, อัตราว่างงาน ส.ค. คาด 4.3% & ก.ค. 4.2%
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ +0.61% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสื่อสาร +1.9% หลัง Bond Yield เยอรมัน, ฝรั่งเศส อายุ 30 ปีลดลงอยู่ที่ 3.343% และ402% ตามลำดับ กอปรตลาดคาดเฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ขณะที่กลุ่มปรับลดลง คือ สินค้าหรูหรา -1.24% และสันทนาการ -0.8% หลัง กลต.จีนเตรียมออก ม.ลดความร้อนแรงของตลาดหุ้นจีน อาจส่งผลลบต่อกำลังซื้อของลูกค้าจีน สัปดาห์หน้าวันที่ 8 ก.ย. ติดตามการลงมติไม่ไว้วางใจนายก ฯ ฝรั่งเศส นายฟรองซัวร์ บายรู หลังพยายามผลักดันแผนลดงบประมาณปี 69 อาจส่งผลลบเสถียรภาพการเมืองในฝรั่งเศส    
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ +1.53% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี & AI ปรับขึ้นตาม Nasdaq จากคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. กอปรหุ้น Toyota Motor ปรับขึ้นรับข่าการเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่โรงงานในสาธารณรัฐเช็ก ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ปิด -1.25% หลังคณะกรรมการ กลต.จีนกำลังพิจารณาใช้ ม.ควบคุมความร้อนแรงของตลาดหุ้นที่ ส.ค. ปรับขึ้น +10% MoM ซึ่งบ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไป
  • SET -0.54% ปริมาณการซื้อขาย 4 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 1,781 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 700 ลบ. สถาบันซื้อ 1,091 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,462 ลบ. โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงขายทำกำไรในกลุ่มอิเล็ก ฯ, ปิโตรเคมี, ไอซีที และพลังงาน หลังวันก่อนปรับขึ้นรับข่าวบวกพรรคประชาชนสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยในการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อบริการราชการชั่วคราวก่อนจะยุบสภา ฯ ภายในระยะเวลา 4 เดือน ขณะที่พรรคเพื่อไทยมีมติเสนอชื่อคุณชัยเกษม เพื่อโหวตนายก ฯ แข่งกับคุณอนุทิน ในวันนี้ โดยมีข้อเสนอจะยุบสภา ฯ ทันที หากได้เสียงสนับสนุนจากทางพรรคประชาชน ส่งผลให้นักลงทุนเลือกขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์การเมืองคาดคุณอนุทินมีโอกาสได้เสียงสนับสนุนราว 289 เสียง เพื่อดำรงตำแหน่งนายก ฯ คนที่ 32 โดยนักลงทุนรอดูรายชื่อ รมว.คนนอกที่จะเข้ามาบริหาร ก.คลัง, พาณิชย์ และต่างประเทศ หากได้รายชื่อบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ ก็จะเป็นปัจจัยบวกเชิง Upside ต่อดัชนี SET ในระยะถัดไป

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,240 – 1,50 แนวต้าน 1,270 – 1,280 คาดดัชนีจะปรับขึ้นหลังมีความชัดเจนในการเสนอชื่อคุณอนุทิน ขึ้นเป็นนายก ฯ คนที่ 32 เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชา แนะนำซื้อ CPALL,BJC,CRC,CPN,MTC,TIDLOR,JMT,PLANB คาดได้ประโยชน์จากเม็ดเงินในช่วงก่อนเลือกตั้ง / นิคม ฯ AMATA,WHA/ เก็งกำไร SAV,OR,CBG,OSP จากปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชามีแนวโน้มดีขึ้น
  • SYNEX* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.90 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 190 ล้านบาท +1QQoQ, +19%YoY, หนุนจากรายได้รวม +17%YoY อยู่ที่ 17 หมื่นล้านบาท มาจากการเพิ่มขึ้นของสินค้ากลุ่ม smartphone และ Apple ที่เติบโตสูง +47%YoY และ 21%YoY รับรู้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ NCAP ส่วนแนวโน้ม 2H68 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องเพราะเป็น high season ของธุรกิจได้รับแรงหนุนจากเทรนเทคโนโลยี AI รวมถึงสินค้านวัตกรรมใหม่ที่จะทยอยเปิดตัว โดยกลุ่ม smartphone (Android, HarmonyOS) เติบโตต่อ สินค้า Apple เปิดตัวรุ่นใหม่เดือน ก.ย. กลุ่ม Commercial มีดีมานด์อัปเกรดสู่ Windows 11 กลุ่ม Consumer อัปเกรดอุปกรณ์รองรับฟีเจอร์ AI และชิปกราฟิกรุ่นใหม่ กลุ่ม Gaming&gadget หนุนจาก Nintendo Switch 2 (เปิดเดือน มิ.ย.ขายไป 1 หมื่นเครื่องใน 2Q68 สินปี 68 ตั้งเป้าขาย 1 แสนเครื่อง) ทั้งนี้อิงจาก Consensus ตลาดคาดกำไรสุทธิในปี 68-69 ที่ 688 ล้านบาท +10%YoY และ 759 ล้านบาท +10%YoY
  • TEGH* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมายIAA Consensus 4.95 บาท)กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 211 ลบ.(+110%YoY, +20%QoQ) แม้จะมีแรงกดดันจากธุรกิจยางที่อ่อนตัว QoQ บ้างจากราคาขายที่ลดลง แต่มีแรงหนุนจากFx Gain และธุรกิจปาล์ม(ตามSeasonal Effect, มีการติดตั้ง Boiler ลูกใหม่/ Sterilizer ทำให้ประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น)ส่วนการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง แม้มีโอกาสชะลอตัวจากฐานสูงในช่วงครึ่งแรก แต่ภาพรวมคาดจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีตามการเพิ่มสัดส่วนยางEUDR นอกจากนี้ TEGH* ยังมี Story จากการ Spinoff TEBP (ธุรกิจจัดการกากอินทรีย์, Biogas, ไฟฟ้า)ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68และ69 กำไรสุทธิของ TEGH* จะอยู่ที่ 711 ลบ.(+28%YoY) และ 836 ลบ.(+18%YoY)

 

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ต.ค.-$0.49 อยู่ที่ $63.48/บาร์เรล, Brt พ.ย. -$.0.61 อยู่ที่ $66.99/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 2.4 ล.บาร์เรล สวนทางคาดจะลดลง 2 ล.บาร์เรล และรอผลการประชุมโอเปกพลัสวันที่ 7 ก.ย.ว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตใน ต.ค. หรือไม่

 

Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค. -$28.80 อยู่ที่ $3,606.70 /ออนซ์ ถูกแรงชายทำกำไร หลังสัญญาทองคำปรับขึ้นจากคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17 ก.ย. และรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในช่วงค่ำวันนี้

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -77.85ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -55.12 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -18.57 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -4.16 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าอยู่ที่ 32.23 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.154 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +23 อยู่ที่ 1,963

(-) BitCoin เช้านี้ -1.20% อยู่ที่ 110,593 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

สัปดาห์ที2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

อัพเดตสถานการณ์ลงทุน

ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่น

หอการค้าไทย

สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

 

ต่างประเทศ

05 ก.ย.     US อัตราการว่างงาน ( ส.ค.)

                US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง ( ส.ค.)

10 ก.ย.     US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ( ส.ค.)

11 ก.ย.     EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (ก.ย.)

EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป

US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ( ส.ค.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง,  Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง    

 

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

 

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

 

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

 

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

 

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

 

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio September 2025: KLINIQ, ITC*, PTTGC*, GULF*, TIDLOR*

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง,  Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง    

 

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

 

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

 

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

 

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

 

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

 

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio September 2025: KLINIQ, ITC*, PTTGC*, GULF*, TIDLOR*

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ตามการเมือง By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม มองช่วงสั้นหุ้นไทยคงผันผวนไปตามสถานการณ์การเมือง วันนี้ชาวหุ้นทุกคนรวมถึงนายกล้วยหอมจับตาการโหวตนายกฯ....

ยังเขียว By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ หุ้นไทยยังเขียว ประเด็นการเมืองแลดูมีทิศทางที่ชัดเจน ล่าสุดสภาฯ บรรจุระเบียบวาระเลือกนายกฯ...

มัลติมีเดีย

MAGURO เปิดเกมรุกไตรมาส 3 ปี 2568 มั่นใจดันผลประกอบการปีนี้เติบโตสวนทางเศรษฐกิจ มากกว่า 30%

MAGURO เปิดเกมรุกไตรมาส 3 ปี 2568 มั่นใจดันผลประกอบการปีนี้เติบโตสวนทางเศรษฐกิจ มากกว่า 30%

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้