AT THE OPEN (#ATO)
SET Index คาดขยับขึ้น

เลือกหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว
Market Strategy

SET Index คาด Sideway Up ตามกรอบ 1245-1265 จุด ตอบรับความชัดเจนทางการเมืองต่อการเลือกนายกฯ คนใหม่ ผสานปัจจัยต่างประเทศที่ยังมีแรงสนับสนุนจากดอกเบี้ยฯ ขาลง ชอบ MTC TTB

ประเด็นการเมืองในวันนี้ (5 ก.ย.) โฟกัสหลัก คือ การเลือกนายกฯ คนที่ 32 ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันแคนดิเดทนายกฯ จะเป็นคุณอนุทินและคุณชัยเกษม โดยหากฝ่ายไหนได้เสียงเกิน 247 เสียงจะได้เป็นนายกฯ คนที่ 32 ซึ่งโอกาสโน้มเอียงไปที่คุณอนุทินจะเป็นฝ่ายเข้าเส้นชัย หากเกิดขึ้น กระบวนการถัดไปจะเข้าสู่การเตรียมเข้าสู่การตั้ง ครม. -> นำ ครม. ใหม่เข้าถวายสัตย์ -> แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถือเป็นการนับหนึ่งการเริ่มรัฐบาลใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนจากนี้ ภายใต้สถานการณ์การเมืองที่มีความชัดเจนตามลำดับ เราคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุน SET Index ให้ขยับกรอบขึ้น โดยกลุ่ม Domestic Play เป็นกลุ่มที่ Outperform ตลาดเช่น กลุ่มไฟแนนซ์ ชอบ MTC SAWAD กลุ่มรับเหมาฯ CK STECON เป็นต้น

ประเด็นต่างประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ ดัชนี S&P500 ปรับขึ้น 0.8% จากความคาดหวังต่อ FED ลดดอกเบี้ยฯ ในเดือน ก.ย. มีมากขึ้นเป็น 99% แล้วหลังจากการรายงานตัวเลข ADP Employment เดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 5.4 หมื่นตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาด 6.8 หมื่นตำแหน่ง และการรายงาน Initial Jobless Claim เพิ่มขึ้น 2.37 แสนตำแหน่ง อ่อนแอกว่าตลาดคาดเพิ่มขึ้น 2.30 แสนตำแหน่ง ขณะที่วันนี้ ติดตามการรายงาน NFP และอัตราการว่างงานเดือน ส.ค. ส่วนบ้านเรา การรายงานเงินเฟ้อเดือน ส.ค. -0.79%YoY กดดันจากราคาพลังงาน/ค่าไฟฟ้า ต่ำกว่าคาด -0.7%YoY ด้านเงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวก +0.8%YoY แต่ก็ต่ำลงจากเดือนก่อนที่ +0.9%YoY จึงคาดการประชุม กนง. เดือน ต.ค. จะลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งมาที่ 1.25% ภายใต้วงจรดอกเบี้ย ขาลงทั้งไทยและต่างประเทศดีต่อกลุ่มไฟแนนซ์ MTC SAWAD และกลุ่มโรงไฟฟ้า ชอบ GPSC CKP BCPG

Market Summary
SET Index ปรับลง 6.76 จุด กดดันจากกลุ่มพลังงาน PTTEP -1.7% BCP -1.5% PTT -0.8% จากราคาน้ำมันดิบ ที่ปรับลงจากความกังวล OPEC+ เพิ่มกำลังการผลิต กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ DELTA -3.6% กลุ่ม Domestic ช่วงบ่าย มีแรงขายทำกำไรจากข่าวพรรคเพื่อไทยเสนอพรรคประชาชนโหวตสนับสนุนเลือกคุณชัยเกษมเป็นนายกฯ พร้อมกับยุบสภาทันที กดดันกลุ่มค้าปลีก -0.6% กลุ่มไฟแนนซ์ลดช่วงบวก 1.1% (จาก +3% ทำจุดสูงสุดของวัน)

DAILY Stock Pick
MTC
แนวโน้มกำไรเติบโตดี
อย่างมีคุณภาพ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 45.00 บาท
คาดว่ากำไรปีงบการเงิน 68/69 จะเติบโต 12%/8% ได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของสินเชื่อ คุณภาพสินทรัพย์ที่มั่นคง และการควบคุมต้นทุนที่ดี ต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (credit cost) ลดลง
ระยะสั้นยังได้ Sentiment บวกจากความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ และการประชุม กนง. ที่คาดว่าจะปรับลดอกเบี้ยฯ ใน ต.ค. 68 ลงอีก 1 ครั้งมาที่ 1.25%

WEEKLY Stock Pick
TTB
เราคาด ปันผล 1H68 สูงที่สุดในกลุ่ม
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 2.00 บาท
เราคาดว่า TTB จะประกาศจ่ายปันผล 0.065 บาทต่อหุ้น ใน 1H68 หรือคิดเป็นอัตราเงินปันผล 3.4% สูงที่สุดในกลุ่มที่จ่ายปันผลเฉลี่ย 1.8% ในช่วงเวลาเดียวกัน
กำไรในปี 69-70 เราคาดเติบโตเฉลี่ย 5% จากทั้งรายได้ที่มาจากดอกเบี้ยและไม่ใช่ดอกเบี้ย ส่วนกำไรใน 2H68 เติบโต HoH เนื่องจาก Credit cost ที่ลดลง

KEY FACTOR
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ส.ค. ของไทยปรับตัวลง -0.79%YoY และ -0.01%MoM (ปรับตัวลดลงมากกว่าที่ Consensus คาดการณ์ -0.70% YoY และ +0.2% MoM) สะท้อนแรงกดดันด้านราคาที่ผ่อนคลายลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่มอาหารสด เช่น ผัก (-14.9%YoY), ผลไม้ (-13.3%YoY) และไข่ไก่ (-3.7%YoY) รวมถึงราคาพลังงานที่ลดลงตามทิศทางตลาดโลกและมาตรการตรึงค่าไฟฟ้าของภาครัฐ แต่อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ปรับตัวขึ้น +0.81%YoY และ +0.11%MoM (พลิกแรงกว่าที่ Consensus คาดการณ์ไว้ +0.78%) สะท้อนว่าความต้องการบริโภคในประเทศยังทรงตัว ขณะที่แรงกดดันด้านราคาส่วนใหญ่มาจากฝั่งต้นทุนบริการ มากกว่าจะมาจากหมวดพลังงานหรืออาหารสดที่มีความผันผวนสูง

EYES ON
5 ก.ย. การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ, ประชุมสภาฯ วาระโหวตเลือกนายกฯ

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ