
05-09-25 หยิบดัชนี SET มาส่องด้วยหลักการ Fibonacci Time&Price ของ Robert Minor
หยิบ Price หรือ ราคามาดูก่อน เราจะพบว่าจาก
Hi@1506.82 ของวันที่ 18-10-2024 ลงมายัง
Lo@1053.79 ของวันที่ 23-06-2025 ตรงนั้น Pbv = 1
ฟื้นตัวมาทดสอบแนว 50%@1280.30 ค่าจริง 1283.55 ของวันที่ 14-08-25
จากนั้นหมดแรง ลงมากอง "SIDEWAY" ในกรอบ 50 จุด 1229.33-1280.30 ตามภาพ คำว่า SIDEWAY คือ ไม่ไปไหน เดินทางในกรอบ แกว่งขึ้นๆ ลงๆ เราอาจได้ยินนักวิเคราะห์แนะนำว่า ก็ขึ้นขาย ลงซื้อไงล่ะ...แต่เอาจริงๆ พอขึ้นเค้าให้เราไล่ซื้อ พอแดงเค้าก็อ่านว่าลง ไปเสียนั่นล่ะครับ
หยิบ Time หรือ เวลามาดู เราจะพบโซนเวลาสำคัญ
8.8 คือ Time Projection ที่ 161.8% ก็คือ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ใน SET จะเห็นไม่ชัดเท่า SET50&S50U25 คุฯจะเห็นว่า Hi เกิดตรงนั้นพอดีแล้วหมดแรงขึ้น
9.9 คือ Time Projection ที่ 261.8% ก็คือ 9 กันยายน ที่กำลังจะมาถึง ตามความหมายของ Fibonacci Time แล้ว มักจะมี EVENT สำคัญๆเกิดขึ้นในช่วงนั้น ไม่ในประเทศ ก็ ต่างประเทศ ก็ลองไปตรวจสอบกันดูครับว่ามีเหตุการณ์อะไรบ้าง
แล้วต้องทำอะไรยังไง? ก็ขึ้นขาย-ลงซื้อแบบที่เค้าชอบพูดกันก็พอทำได้ โดยเฉพาะการเทรดฟิวเจอร์
ส่วนหุ้นนั้นรอตลาดพักตัวก่อนดีกว่าจะเข้าไปซื้อๆขายๆ
________________________________________
ขอเล่าเรื่อง Fibonacci Time & Price ของ Robert Minor แถมท้าย ดังนี้ครับ
Fibonacci Time & Price คืออะไร?
Fibonacci Time & Price ของ Robert Minor เป็นแนวคิดการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ อัตราส่วน Fibonacci (0.382, 0.50, 0.618, 1.0, 1.618, 2.618 ฯลฯ) เพื่อทำนายจุดกลับตัว (reversal points) ของราคาและเวลาในตลาดการเงิน แนวคิดนี้เชื่อว่าตลาดเคลื่อนไหวเป็นวงจรและมีความสัมพันธ์กับลำดับ Fibonacci ทั้งในมิติของราคาและเวลา
โดยทั่วไปแล้ว นักวิเคราะห์มักใช้ Fibonacci Retracement และ Extension เพื่อหาเป้าหมายราคา แต่ Minor ได้ขยายแนวคิดนี้ไปสู่การวิเคราะห์เวลาด้วย เขาเชื่อว่าเมื่อราคาถึงระดับ Fibonacci สำคัญแล้ว เวลาที่ใช้ในการเคลื่อนไหวจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งก็มักจะเป็นไปตามอัตราส่วน Fibonacci ด้วยเช่นกัน
หลักการสำคัญ
- Fibonacci Price Retracements & Extensions
หลักการนี้ใช้เพื่อหาจุดเป้าหมายราคา โดยลากจากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุด (หรือกลับกัน) เพื่อหาแนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ เช่น เมื่อราคาปรับตัวลงมา 38.2% หรือ 61.8% ของการเคลื่อนไหวครั้งก่อนหน้า มักจะเป็นจุดที่ราคาจะกลับตัว
- Fibonacci Time Retracements & Extensions
นี่คือส่วนที่แตกต่างจากแนวคิดทั่วไป Minor ใช้หลักการเดียวกันกับราคา แต่เปลี่ยนมาใช้กับ เวลา แทน โดยนับจำนวนแท่งเทียน (candlesticks) หรือช่วงเวลาที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของราคา แล้วคำนวณอัตราส่วน Fibonacci เพื่อหาจุดที่คาดว่าจะเป็นจุดกลับตัวทางเวลา เช่น ถ้าราคาใช้เวลา 21 วันในการขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป 34 วัน (ตามลำดับ Fibonacci) อาจเกิดการกลับตัวของแนวโน้ม
การนำไปใช้ร่วมกัน (Fibonacci Time & Price)
แนวคิดของ Minor คือการ รวมการวิเคราะห์ทั้งราคาและเวลาเข้าด้วยกัน เพื่อหาจุดที่น่าเชื่อถือที่สุดในการเข้าหรือออกจากการซื้อขาย โดยหาจุดที่ทั้ง Price Retracement และ Time Retracement มาบรรจบกัน (convergence)
ตัวอย่าง:
- ถ้าราคาปรับตัวลงมาที่ 61.8% ของ Fibonacci Price Retracement
- และในขณะเดียวกัน เวลาที่ผ่านไปก็ตรงกับ 61.8% ของ Fibonacci Time Retracement จากจุดเริ่มต้น
- จุดที่ทั้งสองปัจจัยมาบรรจบกันนี้จะถือเป็น จุดกลับตัวที่แข็งแกร่ง และมีความน่าเชื่อถือสูง
แนวคิดนี้ไม่ได้ใช้เพื่อทำนายอนาคตแบบแม่นยำ 100% แต่เป็นการเพิ่มความน่าจะเป็นในการตัดสินใจซื้อขาย ทำให้เทรดเดอร์สามารถวางแผนการเข้า-ออกได้แม่นยำขึ้น โดยใช้การวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือประกอบการตัดสินใจครับ