ภาพตลาดและแนวโน้ม

สรุปภาพตลาดวานนี้

ฝรั่งกลับมาซื้อต่อ ดันหุ้นไทยบวก หลังประเด็นการเมืองดูมีทิศทาง โดย DELTA มีอิทธิพลสูงสุดก็จริง แต่พบการขยับตัวพร้อมปริมาณการซื้อขายเพิ่มของหุ้นใหญ่กลุ่มต่างๆ อย่าง PTT CPALL CPAXT GULF AOT BJC OR KTC THAI เป็นต้น ขณะที่ฝั่งถูกขายส่วนมากเป็นกลุ่มแหล่งพักเงิน คือ ไอซีที และกองอิฟาร์ฟันด์-รีท ส่วนปิโตรเคมีก็มีการล็อคกำไรสั้นๆ ออกมา แต่ตัวหลักลงไม่แรง

แนวโน้มตลาดวันนี้
สะสมหุ้นเมื่อย่อ (เล่นรอบ)
เราคงมุมมอง ตามกลยุทธ์ประจำสัปดาห์ว่าตลาดหุ้นไทยจะมี Downsides จำกัด (คาด 1230 เอาอยู่) ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองในประเทศเป็นตัวแปรกดดันภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่เราคงกลยุทธ์...แบ่งกลุ่มหุ้นออกเป็น 2 ช่วงจังหวะในการเลือกซื้อตอนตลาดหุ้นปรับฐาน
ระยะที่ 1 สูญญากาศการเมือง เน้นเล่นหุ้น Global play: อิงรายได้จากต่างประเทศ, หุ้นปันผลสูง ปิโตรฯ โรงกลั่น ส่งออก ฯลฯ
ระยะ 2 ช่วงที่ได้ รบ.ชั่วคราวและเพื่อเดินหน้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง เริ่มโหลดหุ้น Big Cap ใหญ่ในกลุ่มธนาคาร สินเชื่อ ค้าปลีก เก็งกำไรหุ้นเชื่อมโยงสื่อโฆษณารับป้ายหาเสียงเลือกตั้ง

โดยช่วงจังหวะเวลาทั้ง 2 ช่วง เราคาดตลาดจะเริ่มมองไปข้างหน้า...มองถึง Upside แนวโน้มกำไร บจ.ไทยปีหน้า, มองถึงการใส่ความคาดหวังเชิงบวกจัดเลือกตั้ง กลุ่มเด่นคาด หุ้นเชื่อมโยง การบริโภคในประเทศ อาหาร ท่องเที่ยว หุ้นส่งออก (บาทอ่อน) และเก็งกำไรหุ้นสื่อโฆษณา

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ ถือหุ้นปันผล สะสมหุ้นเมื่อราคาย่อลงมาตามแนรับ เน้นไปที่หุ้นผลตอบแทนเงินปันผลระหว่างกาลสูง, หุ้นที่มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไร

วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET ทะลุกรอบสามเหลี่ยม “Bullish triangle” ได้สำเร็จ! โมเมนตัม RSI & Volume หนุนภาวะกระทิง จุดกลับตัวกลับใจเปลี่ยนเป็นขึ้น ending corrective wave จบ คลื่นย่อยขาลง เริ่มต้นนับ 1 2 3 ขณะที่ตำแหน่งตัวเลข Fibonacci retracement 38.2% และ 50% ชี้จุดแนวรับ-ต้าน แม่นยำ ที่ 1,230 และ 1,280 (เป้าหมายรายเดือน) หากมองภาพระยะยาว Fibo 61.8% เคยให้เป้าหมายปลายปีนี้ที่ 1,330 คลื่น Impulse Wave 3 จะขึ้นได้แรงที่สุด ลุ้นกันยาวๆ...เงื่อนไขผิดทางห้ามหลุด low ต่ำกว่า 1,230 จุด
ไฮไลท์หุ้นแนะนำ: CPALL breakout ต้านใหญ่! ตามแผน / BH ขึ้นแรง สลับย่อเบาๆ! ขอยึดพื้นที่ 190 / GLOBAL Cup and Handle pattern….แม่นยำ! / PTTGC ขอเปลี่ยนเลข 3 นำหน้า / CPAXT Breakout…จ่อทะลุต้าน!…ติดตามแผนการเทรดในหน้าเลือกหุ้นเด่นครับ

What to watch
FTSE จะปรับหุ้นใหม่ มีผล 19 ก.ย. ลด CPAXT ไปกลุ่ม MID Cap, BGRIM SAWAD ลดไปกลุ่ม Small Cap และ มีหุ้นถอดออกจาก Small Cap ได้แก่ BEC BSRC FORTH PSH SINGER SUPER THANI TKN TQM
ศาลฏีกาได้นัดฟังคำสั่ง คดี “ทักษิณรักษาตัวชั้น 14” วันที่ 9 ก.ย. เวลา 10 น.
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 91.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย.นอกจากนี้ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือน ธ.ค.

หุ้นแนะนำวันนี้
SCGP BLS Research ออกรายงาน Idea call แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายใหม่ 21 บาท
แนวรับ 17.4 ต้าน 18/18.5 Stop loss 16.6

รายงานพื้นฐานวันนี้

Restaurant Sector

เริ่มเห็นการฟื้นตัวของบางกลุ่ม
แม้เราให้น้ำหนัก “น้อยกว่าตลาด” กลุ่มร้านอาหาร แต่มองผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q25 และแนวโน้ม 2H25 เริ่มฟื้นตัว แต่การฟื้นยังช้า และไม่เท่ากัน จึงแนะนำการลงทุนแบบ “Selective” สำหรับกลุ่มนี้
ผู้นำตลาดการฟื้นตัว : CENTEL, MINT, MAGURO โดยได้เปรียบจาก ขนาดธุรกิจ แบรนด์แข็งแรง และโปรโมชั่น ขยายแบรนด์ใหม่ที่ GM สูง และมีโอกาสโดดเด่นกว่ากลุ่มใน 2H25 ลงรายละเอียดแต่ ละตัว ดังนี้

CENTEL: SSS พลิกกลับมาเป็นบวก +5% YoY ส.ค.

MINT: SSS ประคองตัว YoY ได้ (ไม่ลง)

MAGURO (non-rated): SSS พลิกจาก -10% YoY ใน 2Q25 เหลือ -3% YoY ช่วงล่าสุด แต่เหนือกว่า SSS คือ การเติบโตจากแบรนด์ใหม่ๆ ที่มี GM สูงกว่าค่าเฉลี่ยเดิม ทำให้ได้แรงหนุนกำไร

M (non-rated): โดดเด่นจากกลยุทธ์ Buffet 299 บาท หนุน SSS พลิกกลับมาบวกต่อเนื่อง มิ.ย. และ +4% YoY ในก.ค. (vs. -10% YoY ก่อนหน้า) และการรุกเปิด Bonus Suki 10 สาขาปีนี้ จะช่วยหนุน Traffic ขณะที่ความกังวลเรื่อง Margin อาจน้อยกว่าที่ตลาดเคยคาด เพราะได้แรงจากปริมาณขาย และ M ยังจะมีการปรับ portfolio ของตัวเองและกลับมาอยู่ในกระแสผู้บริโภค

OKJ (แนะนำขาย) และ AU (non-rated) เป็นกลุ่มที่ดูฟื้นช้าสุด โดยยังเผชิญแรงกดดันจาก กำลังซื้ออ่อนแรงและการแข่งขันสูง ทำให้ Recovery ยังจำกัดเมื่อเทียบกับกลุ่ม

Fundamental view: โดยสรุป Top picks ในกลุ่มร้านอาหารสำหรับ 2H25 คือ CENTEL และ MAGURO จากการฟื้นตัวของ SSS ที่ชัดเจนและการมีแบรนด์ ที่หนุน Margin

Media Sector
ช่วงเลือกตั้งเป็นแรงหนุนเชิง Sentiment หรือ ของจริง
การเก็งกำไรหุ้นสื่อมักกลับมาในช่วงก่อนการเลือกตั้งจากความคาดหวังเรื่องการใช้จ่ายโฆษณาทางการเมือง การติดตามข่าวสารที่มากขึ้น และเงินหมุนเวียนจากทั้งนโยบายและการใช้จ่ายนอกระบบ
แต่ข้อเท็จจริงคือการโฆษณามีข้อจำกัดสูงและผลบวกมักอยู่เพียงระยะสั้น โดยข้อมูลจากการเลือกตั้ง 3 ครั้งหลัง (2014, 2019, 2023) ชี้ว่าการใช้จ่ายโฆษณารวมช่วง 3 เดือนก่อนเลือกตั้งเพิ่มขึ้นเพียง 2 จาก 9 เดือน ขณะที่ค่าเฉลี่ยกลับติดลบ -2% YoY สะท้อนว่าภาพรวมอุตสาหกรรมไม่ได้ได้แรงหนุนชัดเจน อย่างไรก็ดี โฆษณากลางแจ้งและสื่อนอกบ้านโดดเด่นสุด โดยโตเฉลี่ย +11%YoY เทียบกับทีวีที่หดตัวเฉลี่ย -3%YoY ด้านราคาหุ้นในช่วง 2 เดือนก่อนเลือกตั้ง พบว่า PLANB ให้ผลตอบแทนบวกทั้งสองรอบ (เฉลี่ย +5%)
Fundamental view: อย่างไรก็ตามสถานการณ์ปัจจุบันบังมีความไม่แน่นอนทางการเมืองสูง แบรนด์อาจจะมีการชะลอใช้จ่ายเพื่อรอความชัดเจน ซึ่งอาจทำให้การรีบาวด์ของหุ้นสื่อมีลักษณะเป็นเพียง “แรงเก็งกำไรระยะสั้น”

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน