สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(3 กันยายน 2568)------------XO ปักธงตลาดซอสส่งออกยังมีโอกาสอีกมาก รับเมกะเทรนด์อาหารไทยในตลาดโลก มองครึ่งปีหลังปี 68 แม้มีความท้าทาย แต่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว และยังคงตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 45% ได้ตามเป้าหมาย พร้อมจัดทัพขยายตลาด เตรียมออกงานแสดงสินค้าที่ยุโรปพบลูกค้าหลักตุลาคมนี้ ด้านบอร์ดตอบแทนผู้ถือหุ้นต่อเนื่อง ไฟเขียวจ่ายปันผลกลางปี 0.33 บาท/หุ้น กำหนดจ่าย 12 กันยายนนี้ ทีมผู้บริหารมั่นใจ เดินหน้าสร้างโอกาสเติบโตระยะยาว
นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติก ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO ผู้นำธุรกิจผลิตและส่งออกซอสพริกของไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมครึ่งปีหลัง 2568 แม้ยังมีความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจโลก และระดับสต๊อกสินค้าของลูกค้าหลักที่ยังอยู่ในเกณฑ์สูง แต่มองเป็นไซเคิลตามการบริหารจัดการสต๊อกของคู่ค้า และเริ่มเห็นทิศทางการฟื้นตัวที่จะสนับสนุนการเติบโตต่อเนื่องในระยะถัดไป โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากอาหารไทยยังคงเป็นเมกะฟู้ดส์เทรนด์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก XO มีความได้เปรียบด้วยการเป็น One Stop Brand ที่มีสินค้ากว่า 700 SKU ภายใต้ 3 ยี่ห้อหลัก มีสินค้ากลุ่มซอสเป็นสินค้ากลุ่มหลัก สัดส่วนสูงเกือบ 90% ของรายได้ และทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ดี รวมถึงการมีเครือข่ายจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง ผ่านดิสทริบิวเตอร์กว่า 70 ประเทศ ครอบคลุม 80 ประเทศทั่วโลก และโมเดิร์นเทรดกว่า 30,000 ร้านค้า
นอกจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับตลาดเป้าหมาย โดยในช่วงครึ่งปีแรก 2568 XO สามารถขยายฐานลูกค้าเข้าสู่ประเทศใหม่ ครอบคลุมหลายภูมิภาคทั่วโลก โดยสัดส่วนลูกค้าตามภูมิภาคในครึ่งปีแรก ตลาดยุโรปยังคงเป็นฐานลูกค้าหลัก คิดเป็นสัดส่วน 83.1% ของรายได้รวม ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตจากการบริโภคสินค้าเอเชียนฟู้ด และมีการกระจายตลาดไปยังภูมิภาคอื่น ได้แก่ เอเชีย 6.4% และ ออสเตรเลีย/โอเชียเนีย 6.2% อเมริกา 3.2% แอฟริกา 1.1%
ทั้งนี้ เป้าหมายปี 2568 จะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 45% คาดทำได้ตามที่วางไว้ เนื่องจาก ในครึ่งปีแรก XO มีอัตรากำไรขั้นต้นแล้วที่ 46.66% แม้สภาพตลาดครึ่งปีหลังยังมีความท้าทาย และเพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงให้แก่ผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปี 2568 ในอัตรา 0.33 บาท/หุ้น แบ่งเป็นการจ่ายจากกำไรสุทธิส่วนที่ไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (NON-BOI) 0.22 บาท/หุ้น และจากกำไรสุทธิส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) 0.11 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 กันยายน 2568
“ภาพรวมตลาดส่งออกไปยังอเมริกา XO เริ่มเห็นสัญญาณการกลับมาสั่งซื้อเพิ่มขึ้น หลังจากสต๊อกสินค้าที่สะสมในช่วงปลายปี 2566 ถึงต้นปี 2567 เริ่มทยอยหมดอายุ ทำให้ความต้องการฟื้นตัว ขณะที่แคนาดาและเม็กซิโกคาดว่าจะเริ่มสั่งซื้อเพิ่มเติมปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ด้าน ตลาดยุโรป แม้ในปีนี้ลูกค้ายังมีสต๊อกสินค้าสูง แต่คาดว่าจะเริ่มเห็นการพลิกกลับมาดีขึ้นตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปี 2569 โดยในเดือนตุลาคมปีนี้ XO เตรียมเข้าร่วมงานแสดงสินค้าใหญ่ระดับโลก ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญในการพบปะลูกค้าหลัก และตอกย้ำศักยภาพของบริษัทในการเป็นผู้นำตลาดซอสศรีราชาและอาหารไทยในเวทีโลก ขณะเดียวกัน XO ยังเดินหน้าขยายตลาดใหม่ และเริ่มกลับมาวางขายในเครือข่าย Tesco สหราชอาณาจักรแล้วกว่า 400 สาขา และมีแผนขยายต่อเนื่อง” นายจิตติพร กล่าว
สำหรับ ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้จากการขาย 607.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.56% จากไตรมาส 1/2568 (QoQ) สะท้อนสัญญาณการฟื้นตัว แม้ลดลง 13.81% จากงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) จากการชะลอตัวของยอดขายในยุโรป ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 170.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.21% QoQ จาก 113.19 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการบริหารจัดการต้นทุนและความแข็งแกร่งของธุรกิจท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิลดลง 31.84% YoY ตามรายได้ที่ลดลงและอัตราภาษีที่สูงขึ้น ส่งผลให้ งวด 6 เดือนแรกปี 2568 XO มีรายได้จากการขายรวม 1,091.37 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 283.21 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทได้รับผลกระทบจากการสิ้นสุดอายุบัตรส่งเสริมการลงทุน (BOI) บางส่วน ส่งผลให้อัตราภาษีที่แท้จริงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การได้รับบัตร BOI ใหม่สำหรับไลน์การผลิตล่าสุดที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2/2568 ช่วยให้อัตราภาษีในไตรมาสนี้ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า
และตอกย้ำความสามารถทำกำไรยังแข็งแกร่ง บริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ในระดับสูง โดยไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 46.80% และงวด 6 เดือนแรกที่ 46.66% แม้เผชิญความท้าทายจากคำสั่งซื้อของลูกค้าที่ผันผวน การเพิ่มกำลังการผลิต และผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่า บริษัทยังคงเดินหน้ารักษาอัตรากำไรตามเป้าหมาย