ภาพตลาดและแนวโน้ม
Highlights:
การประกาศปลด Lisa Cook บน Truth Social โดยประธานาธิบดีทรัมป์อาจดูเหมือนเป็นเพียงดราม่าทางการเมือง แต่เบื้องหลังคือกลยุทธ์เชิงโครงสร้างในการเปลี่ยนดุลอำนาจภายใน Fed โดยอาศัยข้อกล่าวหาทางจริยธรรมเพื่อผลักดันบุคคลของตนเข้าสู่บอร์ดกลาง
แม้ Federal Reserve Act ระบุว่าการปลดกรรมการต้องมีเหตุอันควร (for cause) แต่ทรัมป์พยายามใช้ข้อหา mortgage fraud ที่ยังไม่ได้รับการยืนยันในกระบวนการยุติธรรมเพื่อสร้างเงื่อนไขการปลด ซึ่งจะเปิดทางให้เขาเสนอชื่อใหม่ผ่านวุฒิสภารีพับลิกันที่ครองเสียงข้างมาก
เป้าหมายคือการครอบงำเสียงใน Fed Board ด้วยเสียงสนับสนุน 4 ใน 7 เสียง เพื่อกำหนดทิศทางนโยบายการเงินที่เอื้อต่อการลดดอกเบี้ย แม้เงื่อนไขเศรษฐกิจจะไม่เอื้อก็ตาม
ความเคลื่อนไหวนี้ไม่ใช่เพียงแค่การตั้งคน แต่คือความพยายามบั่นทอนความเป็นอิสระของ Fed ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดโลกในฐานะที่ Fed เป็นเสาหลักของ Global Risk-Free Rate
สำหรับนักลงทุน โครงสร้างกรรมการ Fed กำลังกลายเป็นปัจจัยชี้ทิศทางดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะหลังไตรมาส 4/2025 ที่อาจไม่สะท้อนภาวะเศรษฐกิจ หากแต่สะท้อนเจตจำนงทางการเมืองที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังอำนาจประธานาธิบดี
(โปรดติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม)
สรุปภาพตลาดวานนี้
SET ยังแกร่ง ยืนปิดแดนบวกต่อวานนี้ โดยกลุ่ม Global Play บวกนำ (จาก Sentiment การลดกำลังการผลิตในภูมิภาค) และพบกลุ่มค้าปลีกบวกขึ้นมาเด่นต่อ (หลัง สว. ผ่านงบฯ) และหุ้นเด่นอื่นวานนี้ BH เก็งต่างชาติกลับมา
แนวโน้มตลาดวันนี้
สะสมหุ้นเล่นรอบ
เราคงมุมมอง ตามกลยุทธ์ประจำสัปดาห์ว่าตลาดหุ้นไทยจะมี Downsides จำกัด (คาด 1230 เอาอยู่) ทั้งนี้แนวโน้มการรีบาวด์จะเกิดขึ้นได้ต่อเนื่อง เมื่อการเมือง ในประเทศชัด โดยระหว่างทางที่ตลาดหุ้นกำลังรอปัจจัยการเมืองในประเทศ คาดว่าหุ้น Global play ยังคงแข็งกว่าตลาด เสริมด้วยหน้าหุ้นที่จะเล่นดักทาง แนวโน้มการเมืองชัด เช่น เมื่อวานเล่น สินเชื่อ SAWAD MTC TIDLOR บวกดีกว่าตลาด...
กลยุทธ์แนะนำแบ่งกลุ่มหุ้นออกเป็น 2 ช่วงจังหวะในการเลือกซื้อตอนตลาดหุ้น ปรับฐาน
ระยะสูญญากาศการเมือง (ระหว่างรอ ครม.ใหม่) เน้นเล่นหุ้น Global play: อิงรายได้จากต่างประเทศ, หุ้นปันผลสูง ปิโตรฯ โรงกลั่น ส่งออก ฯลฯ (เมื่อวาน TOP PTTGC SCC SPRC BCP ได้อานิสงส์ข่าวล่าสุดญี่ปุ่นวางแผนปรับลดกำลังการผลิตปิโตรฯ ต่อจาก เกาหลีใต้ และ จีน)
ระยะ 2 ช่วงจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล เริ่มโหลดหุ้น Big Cap ใหญ่ในกลุ่มธนาคาร สินเชื่อ เมื่อราคาหุ้นปรับฐาน (โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร หลังขึ้น XD ไปแล้วในช่วงต้นเดือน กย.โดยจังหวะช้อนจะเป็นช่วงครึ่งหลังเดือน กย.เป็นต้นไป)
และเมื่อได้โฉมหน้า ครม.ใหม่ คาดว่าตลาดจะเริ่มมองไปถึง Upside แนวโน้มกำไร บจ.ไทยปีหน้า, การใส่ความคาดหวังเชิงบวกจัดเลือกตั้งเร็วขึ้นกว่าเดิม กลุ่มเด่น หุ้นเชื่อมโยง การบริโภคในประเทศ อาหาร ท่องเที่ยว และ หุ้นส่งออก (บาทอ่อน)
กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ ถือหุ้นปันผล สะสมหุ้นเมื่อราคาย่อลงมาตามแนรับ เน้นไปที่หุ้นผลตอบแทนเงินปันผลระหว่างกาลสูง, หุ้นที่มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไร
วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET ฟื้นตัวกลับขึ้นมายืนเหนือเส้น EMA 25&200 วันได้สำเร็จ ทำให้โครงสร้างคลื่นขาลง corrective wave “c“ อาจมี downside risk เพียงแค่โซนรับ 1,230 จุด (ลงไม่ถึง 1,200 )จบคลื่นขาลงแบบสมบูรณ์ แล้วเริ่มต้นนับ 1 2 3 กันอีกครั้ง จับตาสำหรับเงื่อนไข SET ไปต่อหากทะลุกรอบสามเลี่ยมด้านบน 1,250 รูปแบบ “Bullish Pennant” สัญญาณขาขึ้นรอบใหม่ อย่างไรก็ตามหากดัชนีปรับหลุด low 1,230 จุด จะมีโอกาสลงมาที่แนวรับถัดไป 1,200 สัปดาห์นี้น่าจะได้รู้ผลลัพธ์…พร้อมกับประเด็นการเมือง!
สรุป: แนวโน้มตลาดระยะสั้นผันผวนหากปรับฐานมองย่อไม่ลึก เนื่องจากโครงสร้างระยะยาว ดัชนียังสามารถขึ้นได้อีก (Impulse wave 3) โดยมีเป้าหมายของรายเดือนอยู่ที่ 1,280 จุด แผนเทรด:ยังมองโอกาสซื้อหุ้นแบบ selective เลือกหุ้นแจ๋วๆ ก็มีโอกาสสร้างกำไรได้
ไฮไลท์หุ้นแนะนำ: “PTTGC” แรง! แซงทุกโค้ง / BH กลับมาลุย! ตามแผน/ SPRC “Double bottom”/ STECON “Reversal patten”/CPALL จ่อทะลุต้าน…...ติดตามการวางแผนในหน้าเลือกหุ้นเด่นประจำวันครับ
What to watch
FTSE จะปรับหุ้นใหม่ มีผล 19 ก.ย. ลด CPAXT ไปกลุ่ม MID Cap, BGRIM SAWAD ลดไปกลุ่ม Small Cap และ มีหุ้นถอดออกจาก Small Cap ได้แก่ BEC BSRC FORTH PSH SINGER SUPER THANI TKN TQM
ศาลฏีกาได้นัดฟังคำสั่ง คดี “ทักษิณรักษาตัวชั้น 14” วันที่ 9 ก.ย. เวลา 10 น.
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 91.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย.นอกจากนี้ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือน ธ.ค.
สส.เพื่อไทยเข้าชื่อชงศาล รธน.วินิจฉัย ประเด็นตุลาการหมดวาระ ไม่สามารถลงมติวินิจฉัยคดี “แพรทองธาร” เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา
หุ้นแนะนำวันนี้
SCGP BLS Research ออกรายงาน Idea call แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายใหม่ 21 บาท
แนวรับ 17.4 ต้าน 18/18.5 Stop loss 16.6
รายงานพื้นฐานวันนี้
Wealth Insight
ปลดกรรมการ เปลี่ยนทิศดอกเบี้ย: เมื่อทรัมป์ท้าทายความเป็นอิสระของ Fed
การประกาศปลด Lisa Cook บน Truth Social โดยประธานาธิบดีทรัมป์อาจดูเหมือนเป็นเพียงดราม่าทางการเมือง แต่เบื้องหลังคือกลยุทธ์เชิงโครงสร้างในการเปลี่ยนดุลอำนาจภายใน Fed โดยอาศัยข้อกล่าวหาทางจริยธรรมเพื่อผลักดันบุคคลของตนเข้าสู่บอร์ดกลาง
แม้ Federal Reserve Act ระบุว่าการปลดกรรมการต้องมีเหตุอันควร (for cause) แต่ทรัมป์พยายามใช้ข้อหา mortgage fraud ที่ยังไม่ได้รับการยืนยันในกระบวนการยุติธรรมเพื่อสร้างเงื่อนไขการปลด ซึ่งจะเปิดทางให้เขาเสนอชื่อใหม่ผ่านวุฒิสภารีพับลิกันที่ครองเสียงข้างมาก
เป้าหมายคือการครอบงำเสียงใน Fed Board ด้วยเสียงสนับสนุน 4 ใน 7 เสียง เพื่อกำหนดทิศทางนโยบายการเงินที่เอื้อต่อการลดดอกเบี้ย แม้เงื่อนไขเศรษฐกิจจะไม่เอื้อก็ตาม
ความเคลื่อนไหวนี้ไม่ใช่เพียงแค่การตั้งคน แต่คือความพยายามบั่นทอนความเป็นอิสระของ Fed ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดโลกในฐานะที่ Fed เป็นเสาหลักของ Global Risk-Free Rate
สำหรับนักลงทุน โครงสร้างกรรมการ Fed กำลังกลายเป็นปัจจัยชี้ทิศทางดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะหลังไตรมาส 4/2025 ที่อาจไม่สะท้อนภาวะเศรษฐกิจ หากแต่สะท้อนเจตจำนงทางการเมืองที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังอำนาจประธานาธิบดี
Industrial Estate
ตัวเลข BOI พุ่ง แต่ขายที่ดินอาจไม่แรงตาม
AMATA และ WHA ปรับขึ้นตามกระแสข่าวการยื่นขอ BOI ใน 1H25 ที่พุ่งแรง แต่จากการศึกษาของเรา ตัวเลขดังกล่าวไม่ได้การันตีว่าการขายที่ดินจะออกมาแข็งแกร่งใน 2H25 ได้จริง เนื่องจากมาจากการลงทุน Data Center ที่เร่งยื่นขออนุมัติล่วงหน้า เพราะกังวลข้อจำกัดด้านไฟฟ้าและน้ำ ขณะที่อุตสาหกรรมอื่นๆ ส่วนใหญ่เริ่มถึงจุดสูงสุดแล้ว และสัดส่วน FDI ที่อยู่นอกนิคมก็เพิ่มขึ้น จึงทำให้ presales จากนี้อาจเพียงทรงตัว ไม่ได้เพิ่มขึ้น นั่นหมายถึง ตลาดกำลังมองสูงเกินจริง
อย่างไรก็ตาม ในระยะถัดไปยังเห็นมุมมองบวก โดยเฉพาะกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงที่มีโอกาสจะย้ายฐานการผลิตเข้ามาในปี 2026 เป็นต้นไป (แต่ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนในตอนนี้)
ทั้งนี้ เราปรับกำไร AMATA ขึ้น 28–34% และ WHA ขึ้น 1–16% ตามสมมติฐานการขายที่ดิน และคลายกังวลผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ทำให้ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 15.40 บาท สำหรับ AMATA และ 3.44 บาท สำหรับ WHA
Fundamental view: ในช่วงที่ราคาหุ้นตอบรับข่าวบวกนี้ เราให้แนะนำ “ขายล็อคกำไร” (แบบ Sell into strength) เพราะมองว่าตลาดประเมิน FDI ไหลเข้าระยะสั้นเกินจริงดังกล่าว
สรุปประเด็นจาก Quick take
Chemical
ผู้ผลิตเอทิลีนในญี่ปุ่นวางแผนลดการผลิต ในปี 2030
บริษัท Asahi Kasei, Mitsui Chemicals, และ Mitsubishi Chemical ตั้งเป้าหมายลดกำลังการผลิตเอทิลีนรวมราว 1.1 ล้านตัน/ปีในปี 2030 (คิดเป็น ~1% ของกำลังการผลิตเอทิลีนทั่วโลก)
View from fundamental: ข่าวนี้น่าจะเป็น positive sentiment ต่อกลุ่มปิโตรเคมีและโรงกลั่นที่มีปิโตรเคมี (IVL, PTTGC, SCC, IRPC, TOP) โดยมี PTTGC และ SCC เป็น preferred pick (น่าจะได้รับผลประโยชน์โดยตรงเนื่องจากเป็นผู้ผลิตเอทิลีน)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน