GLOBAL GEM: XPENG / XIAOMI80 PRIME PICK: CPALL / BDMS / PTTEP
ตลาดหุ้น เดือน ก.ย. เดือด (ปุดปุด)

HORIZON MARKET VIEW
•เดือน ก.ย. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เฉลี่ยมักลบเกิน -2% แต่ประเทศอื่นๆ ลดลง -0 ถึง -1%กว่าๆ หากดูเป็นรายประเทศ ส่วนใหญ่เดือน ก.ย. หุ้นก็ตกอยู่ในระดับ 1 –3 อันดับแรก
• ขณะที่วานนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดทำการวันแรกของเดือน ร่วงลงไปราว -0.6% ถึง -0.8% สวนทางกับราคาน้ำมันดิบ BRENT ดีดตัว +1.5% ทะลุ 69 เหรียญฯ / บาเรลสะท้อนเม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง และไหลเข้าสินค้า COMMODITY
• ด้วยแรงกดดันจากหลากหลายปัจจัย เริ่มจากการปรับตัวของหุ้นกลุ่มเทคฯ ที่มีSENTIMENT เชิงลบจากประเด็นสหรัฐเพิกถอนยกเลิกสิทธิพิเศษ (VEU) ของ TSMC ส่งอุปกรณ์ผลิตชิปไปจีน รวมถึงประเด็นความกังวลจากภาคการผลิตสหรัฐฯ ที่หดตัวต่อเนื่อง 6 เดือน

REGION RALAR
• ณ ส.ค. 68 รถ EV ค่าย BYD ถูกแย่ง MARKET SHARE จากคู่แข่งอย่าง XIAOMI และ XPENG มี MARKET SHARE เพิ่มโดดเด่น เป็น3.0% (เติบโต 233% จากเดิม ธ.ค. 67 ที่ 0.9%) และ XPENG มีMARKET SHARE 3.4% (เติบโต 183% จากเดิม ธ.ค. 67 ที่1.2%)
• ขณะเดียวกันยอดส่งมอบรถยนต์ในเดือน ส.ค. ภาพรวมยังมีการเติบโตต่อเนื่อง นำโดย XPENG168%YOY, XIAOMI159%YOY จึงแนะนำเก็งกำไรหุ้น XPENG และ XIAOMI (DR: XIAOMI80)

THAI FOCUS
• การเมืองไทย ณ 3 ก.ย.68 กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนผ่านอำนาจ การตัดสินใจของพรรคประชาชนจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งมติพรรคเลือกโหวตอนุทินนั่งนายกฯ
• การจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่พึ่งพาเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชนภายใต้เงื่อนไขการยุบสภาและแก้รัฐธรรมนูญ อาจเป็นเพียงรัฐบาล "เฉพาะกาล" ที่มีอายุสั้น เพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้งใหม่ในที่สุด

SYNAPSE STRATEGY
• ตลาดหุ้นโลกผันผวน จากประเด็น DE-GLBALIZATION ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนเสถียรภาพเศรษฐกิจสหราชอนาจักรขณะที่ในประเทศยังมีความไม่แน่นอนเรื่องการเมือง จากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นหาก พรรคเพื่อไทยยุบสภา
• กลยุทธ์การลงทุนหลบความผันผวน แนะเอนเอียงตลาดหุ้นมาในฝั่งเอเชีย เลือกหุ้น EV จีนมี MARKET SHARE เพิ่ม XPENG /XIAOMI80และหุ้นอิงราคา COMODITY PTTEP, OIL03, GOLD19และหุ้น DOMESTIC ผันผวนต่ำ CPALL, BDMS

HORIZON MARKET VIEW
เริ่มต้นเดือนกันยายน กับอารมณ์ที่ย่ำแย่
เดือน ก.ย. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เฉลี่ยมักลบเกิน -2%แต่ประเทศอื่นๆ ลดลง -0 ถึง -1% กว่าๆ หากดูเป็นรายประเทศส่วนใหญ่เดือน ก.ย. หุ้นก็ตกอยู่ในระดับ 1 –3 อันดับแรก

ขณะที่วานนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดทำการวันแรกของเดือน ร่วงลงไปราว -0.6% ถึง -0.8% สวนทางกับราคาน้ำมันดิบ BRENT ดีดตัว +1.5% ทะลุ 69 เหรียญฯ / บาเรล สะท้อนเม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง และไหลเข้าสินค้า COMMODITYด้วยแรงกดดันจากหลากหลายปัจจัย เริ่มจากการปรับตัวของหุ้นกลุ่มเทคฯ ที่มี SENTIMENT เชิงลบจากประเด็นสหรัฐเพิกถอนยกเลิกสิทธิพิเศษ (VEU) ของ TSMC ส่งอุปกรณ์ผลิตชิปไปจีน มีผล 31 ธ.ค. 68 ซึ่งจะทำให้ซัพพลายเออร์ต้องยื่นขอใบอนุญาตทุกครั้ง เพื่อส่งอุปกรณ์ไปยังโรงงานในจีน (สหรัฐฯ พยายามปิด “ช่องโหว่” ของกฎควบคุมการส่งออก)

นอกจากนี้ยังความกังวลจากภาคการผลิตสหรัฐฯ ที่หดตัวต่อเนื่อง 6 เดือน โดยล่าสุด PMIMANUFACTURING สหรัฐฯ เดือน ส.ค. 68 อยู่ที่ระดับ 48.7 จุด ซึ่งยังอยู่ในโซนซบเซา (PMI < 50) และยังต่ำกว่าตลาดคาดที่ 49จุด

EGION RADAR
ผู้นำในกลุ่ม EV อย่าง BYD เริ่มถูกคู่แข่งในตลาดแย่ง MARKET SHARE ชอบ XIAOMI, XPENGณ ส.ค. 68 XIAOMI และ XPENG มี MARKET SHARE จากรถ EV เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดย XIAOMI มีMARKET SHARE ณ เดือน ส.ค. 68 อยู่ที่ระดับ 3.0% (จากเดิม ธ.ค. 67 ที่ 0.9%) และ XPENG มี MARKETSHARE ที่ 3.4% (จากเดิม ธ.ค. 67 ที่1.2%) คิดเป็นการเติบโตจากปลายปีที่แล้ว233% และ 183% ตามลำดับขณะที่ผู้นำ EV อย่าง BYD มี MARKET SHARE ที่ลดลงอยู่ที่ระดับ 26.7% (จากเดิม ธ.ค. 68 ที่32.6%) จากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรม

ขณะเดียวกัน ยอดส่งมอบรถยนต์ EV ในเดือน ส.ค. 68 ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง นำโดย GEELY AUTO มียอดส่งมอบที่ระดับ 250,167 คัน +173% YOY, XPENG มียอดส่งมอบอยู่ที่ 37,709 คัน +168% YOY ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังได้รับแรงหนุนจากความต้องการของรถยนต์รุ่น MONA M03 และ P7 อีกทั้ง XIAOMI มียอดส่งมอบมากกว่า 30,000 คันเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน +159% YOY ขณะที่ LI AUTO มียอดส่งมอบอยู่ที่28,529 คัน -41% YOY

ดังนั้นหุ้น EV เด่น ที่น่าลงทุนในช่วงนี้ทั้งประเด็น ยอดส่งมอบ EV เดือน ส.ค. เด่น + การแย่งส่วนแบ่งการตลาดปีนี้โดดเด่น + ใกล้เปิดตัวมือถือใหม่ แนะนำเก็งกำไร XPENG และ XIAOMI (DR: XIAOMI80, XIAOMI01,XIAOMI13)

THAI FOCUS
สถานการณ์การเมืองไทยมีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆสถานการณ์ทางการเมืองไทยอยู่ในจุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่จำเป็นต้องพิจารณาอย่าง
รอบคอบถึงเสถียรภาพ ประสิทธิภาพ และความชอบธรรม โดยพรรคประชาชนมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเลือกนายกรัฐมนตรี โดยให้ข้อเสนอ 3 ประการ คือ 1. ยุบสภาภายใน 4 เดือน 2.จัดให้มีการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3.พรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ โดยพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทยต่างยอมรับเงื่อนไขเหล่านี้อย่างไรก็ตามความไม่น่าเชื่อถือของคำมั่นสัญญาทางการเมือง และความเสี่ยงที่ข้อตกลงดังกล่าวอาจไม่ได้รับการปฏิบัติตาม ยังแสดง ความกังวลของประชาชน ต่อการรวมพรรคและการไม่เชื่อมั่นในพรรคการเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเรื่อง คดีเขาพระวิหาร การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-5 ก.ย.68 โดยมีอนุทิน ชาญวีรกูล และชัยเกษม นิติสิริเป็นผู้สมัครหลัก ซึ่งการตัดสินใจของพรรคประชาชน ณปัจจุบัน ลงมติหนุนอนุทินนั่งนายกฯคนที่ 32
ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่พึ่งพาเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชนภายใต้เงื่อนไขการยุบสภาและแก้รัฐธรรมนูญ อาจเป็นเพียงรัฐบาล "เฉพาะกาล" ที่มีอายุสั้น เพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้งใหม่ในที่สุด ที่สำคัญต้องติดตามพรรคเพื่อไทยที่มีตำแหน่งนายกฯรักษาการว่าจะตัดสินใจยุบสภาในทันทีหรือไม่ ซึ่งไม่ดีต่อตลาดหุ้นเพราะจะเกิด OVERHANG จากการรักษาการ ไปอีกระยะหนึ่ง

SYNAPSE STRATEGY
แนะหุ้น 3 กลุ่ม หลบตลาดหุ้นร้อน
ตลาดหุ้นโลกผันผวน จากประเด็น DE-GLBALIZATION ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนเสถียรภาพเศรษฐกิจสหราชอนาจักร หลัง BOND YIELD 30 ปี ขึ้นสูงสุดในรอบ 27 ปีขณะที่ในประเทศยังมีความไม่แน่นอน
ประเด็นการเมือง จากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น หากพรรคเพื่อไทยมีการประกาศยุบสภา
กลยุทธ์การลงทุนหลบความผันผวน
▪ เลือกหุ้น EV จีนมี MARKET SHARE เพิ่ม และเตรียมเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ : XIAOMI80
▪ หุ้นอิงราคา COMODITY : PTTEP, OIL03, GOLD19
▪ หุ้น DOMESTIC ผันผวนต่ำ : CPALL, BDMS

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์