สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(3 กันยายน 2568)---------บอร์ด บมจ.เด็มโก้ (DEMCO) ไฟเขียวแจกวอร์แรนต์ผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 187,744,664 หน่วย ในอัตรา 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ ราคาใช้สิทธิ 2 บาท/หุ้น ระดมทุนรองรับแผนขยายธุรกิจ ฟากซีอีโอ "ณัฐพงศ์ กอร่ม" มั่นใจปี 68 ธุรกิจโตต่อเนื่อง รับดีมานด์งาน EPC สถานีไฟฟ้า–สายส่ง และแผนลงทุนพลังงานทดแทน โชว์งานในมือกว่า 3,180 ล้านบาท เร่งต่อยอดสู่ Smart Grid , ระบบกักเก็บพลังงานและระบบจัดการพลังงานสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เสริมการเติบโตยั่งยืน หลังโชว์กำไรไตรมาส 2/68 พุ่ง 471%
นายณัฐพงศ์ กอร่ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) (DEMCO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (วาระพิเศษ) ครั้งที่ 7/2568 มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 8 (DEMCO-W8) จำนวน 187,744,664 หน่วย โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยไม่มีการคิดมูลค่า ขณะที่ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย สามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้ 1 หุ้น ในราคาใช้สิทธิหุ้นละ 2 บาท โดยอายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 ปี 6 เดือน นับจากวันที่ออก และสามารถใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคม, มิถุนายน, กันยายน และธันวาคมตลอดอายุของวอร์แรนต์ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อรองรับแผนการลงทุนในอนาคตและเพิ่มฐานเงินทุนของบริษัท
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการยังมีมติอนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 876,413,101 บาท ให้เหลือ 750,978,655 บาท จากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 750,978,655 บาท เป็น 938,723,319 บาท เพื่อรองรับการแปลงสภาพ DEMCO-W8
"แผนการดำเนินงานในครึ่งหลังของปี 2568 บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (EPC) งานสถานีไฟฟ้าและสายส่ง ซึ่งถือเป็นความเชี่ยวชาญหลัก พร้อมขยายการลงทุนด้านพลังงานทดแทนและสาธารณูปโภคต่อเนื่อง โดยมองโอกาสจากเมกะโปรเจคด้านไฟฟ้าและพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นแผนพัฒนาพลังงานทดแทน (ปี 2564–2573), แผนลงทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รวมถึงโครงการ Private PPA และโรงไฟฟ้าชุมชน มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท"
ปัจจุบัน DEMCO มีมูลค่างานในมือ (Backlog) ประมาณ 3,180 ล้านบาท แบ่งเป็นงานภาครัฐ 1,600 ล้านบาท (50.3%) และเอกชน 1,580 ล้านบาท (49.7%) โดยงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 77.1% และจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องจนถึงปี 2570
นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่ ๆ ได้แก่ Smart Grid , ระบบกักเก็บพลังงานและระบบจัดการพลังงานสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มช่องทางรายได้และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 บริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 598.94 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 24.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 471% จากช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุนสุทธิ 6.50 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากรายได้ EPC ที่เติบโตแข็งแกร่ง ควบคู่การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ