Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

91

Market Wrap-Up

·      SET วันที่ 2 ก.ย.68 ปิด +4.30 จุด อยู่ที่ 1,248.78 จุด มูลค่าการซื้อขาย 34,424 ลบ. สถาบันซื้อ 1,886 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 483 ลบ. ต่างชาติขาย 751 ลบ. และรายย่อยขาย 650 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 482 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น ADVANC,PTTEP,TIDLOR,KTC,BDMS และยอดขายหุ้น OR,SCC,KBANK,PTTGC,HMPRO มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,617 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ CPAXT,TDEX,MEGA โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 9,952 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 86,881 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,402 ลบ.

·      ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.55%, S&P500 -0.69%, Nasdaq -0.82% จากแรงชายกลุ่มอสังหา ฯ -1.74%, อุต ฯ -1.06% หลังศาลอุทธรณ์ชี้คำสั่งขึ้นภาษีศุลกากรของ ปธน.ทรัมป์เข้าข่ายใช้อำนาจเกินขอบเขตของ กม. ส่วนข้อมูล ISM ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐ ส.ค. อยู่ที่ 48.7 ต่ำกว่าคาดที่ 49.0 และอยู่ในโซนหดตัว ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -1.50% หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมัน & ฝรั่งเศสอายุ 30 ปีปรับขึ้น จากความกังวลปัญหาสถานะการคลังของยุโรป 

·       Market View

·      ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี, เซมิคอนดักเตอร์ โดยกลับมาพักเงินในกลุ่มปลอดภัยและพลังงาน หลังศาลอุทธรณ์การค้าของสหรัฐมีมติ 7 – 4 ชี้ ปธน.ทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบข่าย กม.ในการปรับขึ้นภาษีศุลกากร ซึ่งยังต้องต่อสู้คดีต่อในชั้นศาลฎีกาในช่วงกลาง ต.ค. ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนต่อนโยบายการค้าของสหรัฐ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ JOLTs จะรายงานตัวเลขเปิดรับสมัครงานสหรัฐ ก.ค. คาด 7.39 ล.ตำแหน่ง & มิ.ย. 7.437 ล.ตำแหน่ง และวันศุกร์ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ส.ค. คาดเพิ่มขึ้น 74,000 & ก.ค.73,000 ราย, อัตราว่างงาน ส.ค. คาด 4.3% & ก.ค. 4.2%   

·      ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลง นำโดย DAX -2.29%, CAC-40 -0.70% ถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมัน & ฝรั่งเศสอายุ 30 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.414% และ 4.50% ตามลำดับ จากความกังวลต่อฐานะทางการคลังของยุโรปที่ต้องพันธบัตรวงเงิน 1 แสน ล.ยูโรในช่วง ก.ย. – ต.ค. นี้ กอปรปัจจัยเสี่ยงการเมืองของฝรั่งเศสสูงขึ้น หลังพรรคฝ่ายค้านเตรียมยื่นมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 8 ก.ย. ส่วนข้อมูล CPI ยูโรโซน ส.ค. อยู่ที่ 2.1% ใกล้เคียงกับเป้าหมาย ส่งผลให้การประชุม ECB วันที่ 11 ก.ย. มีโอกาสคงดอกเบี้ยเงินฝากที่ 2.0%      

·      ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ทรงตัว โดยดัชนีนิเกอิ +0.29% ได้แรงหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่า ซึ่งส่งผลบวกต่อกลุ่มส่งออกยานยนต์ ขณะที่เลขา ฯ พรรค LDP เผยพร้อมลาออก เพื่อรับผิดชอบจากการแพ้เลือกตั้ง สว.ใน ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งอาจส่งผลลบต่อเสถียรภาพรัฐบาล ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.45%, ฮั่งเส็ง -0.47% จากแรงชายหุ้นกลุ่ม AI , เซมิคอนดักเตอร์, อสังหาฯ และสินค้าอุปโภคบริโภค โดยอยู่ระหว่างรอข้อมูลตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ 

·      SET +0.35% ปริมาณการซื้อขาย 3.4 หมื่น ลบ. สถาบันซื้อ 1,886 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 483 ลบ. ต่างชาติขาย 751 ลบ. และรายย่อยขาย 650 ลบ. โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มปิโตรเคมี +2.77% นำโดย SCC,PTTGC ตอบรับข่าวบริษัทปิโตรเคมีรายใหญ่ของญี่ปุ่น 3 แห่ง เตรียมปรับลดกำลังการผลิต Ethylene ในปี 2573 สอดคล้องกับโรงงานปิโตรเคมีของจีน & เกาหลีใต้ที่ได้ประกาศลดกำลังการผลิตก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลบวกต่อสเปรดผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโอเลฟินล์ ส่วนกลุ่มค้าปลีก, ไฟแนนท์ และไอซีที ยังมีแรงซื้อเก็งกำไรต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นกลุ่มที่คาดจะได้ประโยชน์จากการจับใช้จ่ายของผู้บริโภค หากมีการเลือกตั้งใหม่ในช่วงต้นปีหน้า โดยนักลงทุนยังรอมติพรรคประชาชนว่าจะสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคเพื่อไทยในการจัดตังรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อรอการยุบสภาใน 4 เดือนข้างหน้า และการแก้ไข รธน.ผ่านการจัดตั้ง สสร. ซึ่งหากพรรคประชาชนมีมติไม่สนับสนุนพรรคใดเลย ทางออกอาจเป็นการยุบสภาเพื่อจัดเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 – 60 วัน 

Daily Strategy

·       ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,230 – 1,240 แนวต้าน 1,250 – 1,260 คาดดัชนีผันผวนรอมติของพรรคประชาชนว่าจะสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคเพื่อไทยในการโหวตนายก ฯ ใหม่ ดังนั้นจึงแนะนำทยอยซื้อาหุ้นกลุ่มปลอดภัย เช่น  GULF,GPSC,BH,CPF และกลุ่มที่จ่ายเงินปันผลสูง เช่น  KBANK, TISCO, ICHI, SIRI, PTTEP, PRM / กลุ่มค้าปลีก & ไฟแนนท์ เช่น CPALL,CRC,HMPRO,MTC,TIDLOR จะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินที่หมุนเวียนในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง / เก็งกำไร PTTGC, TOP, IRPC มีสัญญาณบวกทางเทคนิค

·       ADVICE* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 6.50 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q68 ที่ 75 ล้านบาท เติบโต +19%QoQ, +23%YoY หนุนจากรายได้กลุ่มสินค้า Apple ที่ปรับตัวขึ้นตามการเปิดร้าน iStore ขณะที่กลุ่มสินค้า IT จะมาจากการ์ดจอและแล็ปท็อป ประกอบกับการควบคุมค่าใช้จ่าย SG&A ได้ดีโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการตลาด แนวโน้ม 2H68 คาดรายได้เติบโต YoY จากการเร่งเปิดสาขา iStore ควบคู่กับร้าน Advice เพื่อให้เกิดโอกาสในการขายมากขึ้น รองรับการเปิดตัว iPhone รุ่งใหมในเดือน ก.ย. โดยบริษัทมีเป้าหมายขยายสาขา Advice iStore ให้ครบ 22 สาขาภายในปี 68 และ 70 สาขาในปี 69 ตั้งเป้ารายได้ +20%YoY ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68 อยู่ที่ 274 ล้านบาท +18%YoY และปี 69 ที่ 311 ล้านบาท +14%YoY

·       CPN* (ซื้อ / ราคาเป้าหมายBloomberg Consensus 67.33 บาท) กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 4,305 ลบ.(-6%YoY, +2%QoQ) โดยธุรกิจให้เช่าศูนย์การค้ายังดูโตได้ แต่กดดันจากธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอสังหาฯที่พักอาศัยอย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสที่จะฟื้นตัวจากครึ่งแรก หนุนด้วย 1.โมเมนตัมธุรกิจให้เช่าฯ ตามกลยุทธ Retail-Led Mixed-Use Development/เปิด Central Park, Central กระบี่2.ปัจจัยหนุนจาก”เที่ยวไทยคนละครึ่ง”/ปัจจัยตามฤดูกาลในQ4 และ 3.ยอดโอนคอนโดกลับมา/เปิดโครงการแนวราบใหม่ๆ ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68และ69 กำไรสุทธิของCPN* จะอยู่ที่ 17,241 ลบ.(+3%YoY) และ 18,817 ลบ.(+9%YoY)

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ต.ค.+$1.58 อยู่ที่ $65.59/บาร์เรล, Brt ต.ค. +$.0.99 อยู่ที่ $69.14/บาร์เรล หลังกระทรวงการคลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรเครือข่าย บ.ขนส่งและเดินเรือสัญชาติอิรักที่ลักลอบส่งออกน้ำมันอิหร่าน ส่งผลให้การเจรจาข้อตกนิวเคลียร์อิหร่านอาจต้องยุติ โดยนักลงทุนรอผลการประชุมโอเปกพลัสวันที่ 7 ก.ย.ว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตใน ต.ค. หรือไม่

 

Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค. +$76.10 อยู่ที่ $3,592.20 /ออนซ์ ปรับขึ้นทำจุดสูงสุด โดยสัญญาทองคำได้แรงหนุนจากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17 ก.ย. โดยทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -49.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -23.18 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -20.15 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -6.42 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 32.34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.281 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -38 อยู่ที่ 1,986

(+) BitCoin เช้านี้ +1.51% อยู่ที่ 110,971 ดอลลาร์สหรัฐ

(0)RatingDog PMI ภาคบริการจีน ส.ค. คาด 52.4 & ก.ค. 52.6

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

สัปดาห์ที1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย

 

ต่างประเทศ

01 ก.ย.     US วันแรงงาน-วันหยุด

02 ก.ย.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ส.ค.) 

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ส.ค.)

03 ก.ย.     US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS ( ก.ค.)

04 ก.ย.     US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(ส.ค.)

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ส.ค.)) 

05 ก.ย.     US อัตราการว่างงาน ( ส.ค.)

                US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) ( ส.ค.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง,  Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง    

 

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

 

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

 

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

 

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

 

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

 

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio September 2025: KLINIQ, ITC*, PTTGC*, GULF*, TIDLOR*

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

กาแฟพันธุ์ไทย ผนึกกำลัง ม.นเรศวร หนุนเยาวชนไทย สร้างสรรค์นวัตกรรมเครื่องดื่มจากวัตถุดิบท้องถิ่น

กาแฟพันธุ์ไทย ผนึกกำลัง ม.นเรศวรหนุนเยาวชนไทย สร้างสรรค์นวัตกรรมเครื่องดื่มจากวัตถุดิบท้องถิ่น

มัลติมีเดีย

PTG จับมือ ไปรษณีย์ไทย - ทาโร - SLEEK EV เปิดแคมเปญ ‘ทาโร รักษ์โลก โชคเด้ง’

PTG จับมือ ไปรษณีย์ไทย - ทาโร - SLEEK EV เปิดแคมเปญ ‘ทาโร รักษ์โลก โชคเด้ง’

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้