Equality for All
OSP : บมจ.โอสถสภา

2Q25 กำไรสุทธิ 1,010 ลบ. +67% y-y แต่ -20% q-q : หากดูเฉพาะการดำเนินงานปกติพบว่า ทำได้ตามคาด +10% y-y และ +4% q-q เนื่องจาก 2Q24 มีขาดทุนจากการปรับโครงสร้าง -319 ลบ. ขณะที่ 1Q25 มีรับรู้กำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้าง +295 ลบ. เข้ามา โดยกำไรปกติที่ยังโตได้ y-y หลัก ๆ จากการควบคุมประสิทธิภาพการผลิต แม้ยอดขายรวมจะอยู่ที่ 6,807 ลบ. หดตัว -7% y-y และ -0.4% q-q ก็ตาม แยกตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังนี้

กลุ่มเครื่องดื่ม : (84%) ยอดขาย 5,697 ลบ. หดตัว -7% y-y และ -2% q-q โดยยอดขายในปท. อยู่ที่ 3,686 ลบ. หด -13% y-y จากการปรับโครงสร้างการขายและการจัดจำหน่ายตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2024 - เม.ย. 2025 แต่ขยายตัวได้ +4% q-q หลังปรับโครงสร้างแล้วเสร็จในเม.ย. ที่ผ่านมา ส่วนตลาดต่างประเทศยอดขายอยู่ที่ 2,011 ลบ. +9% y-y จากการเติบโตของยอดขายใน CLMV โดยเฉพาะเมียนมาร์ และ สปป.ลาว รวมถึง ตอ.กลาง แต่ยอดขายหด -11% q-q ตามปัจจัยฤดูกาล

กลุ่มของใช้ส่วนบุคคล : (11%) ยอดขาย +2% y-y +9% q-q เติบโตจากแบรนด์เบบี้มายด์ที่มีการขยายกลุ่มผู้บริโภค รวมถึงการขยายตลาดส่งออก รวมถึงการออกสินค้าใหม่ของทเวลฟ์พลัส

อื่น ๆ : (5%) ยอดขายหด -27% y-y แต่เพิ่ม +12% q-q จากการลดสัดส่วนการผลิต OEM และเน้นการผลิตให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ของ OSP

ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร ยังควบคุมได้ดีและใช้อย่างเหมาะสมทำให้ค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขายลงเหลือ 24.4% จาก 24.8%

ส่วนแบ่งตลาดเดือน ก.ค.ฟื้นตัว m-m : จากข้อมูล AC Nielsen แจ้งมูลค่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเดือน ก.ค. หดตัว -0.1% y-y ขณะ ส่วนแบ่งตลาดเดือน ก.ค. กลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังของ OSP อยู่ที่ 45.2% +0.9% m-m และ +0.7% จากสิ้นปี 2024 เป็นการเพิ่มขึ้นของยอดขายทั้งกลุ่ม MT และ TT

ส่วน CBG หด -0.4% m-m อยู่ที่ 26.1% เป็นการลดลงของภาคกลางที่เป็นตลาดหลัก รวมถึงไม่มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายใน MT ขณะที่อีสานโตตามตลาดที่ดีขึ้น
สินค้าอื่น ๆ ที่ OSP ดำเนินธุรกิจอยู่พบว่า ส่วนใหญ่ลดลงแต่หากเทียบกับตลาดพบว่าลดลงมากกว่า OSP (รูปที่ 1)

ปรับประมาณการขึ้น 12% : แนวโน้มครึ่งปีหลังคาดจะอ่อนกว่าครึ่งปีแรก เพราะปกติ 3Q จะกระทบจากยอดขายต่างประเทศที่ลดลงตามฤดูกาล แต่จะกลับมาใน 4Q โดยเฉพาะในส่วนของใช้ส่วนบุคคล

เราปรับลดยอดขายลงเหลือ 26,814 ลบ. ลดลงเล็กน้อย -1% y-y จากความกังวลต่อกำลังซื้อมากขึ้น แต่เราปรับอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นเป็น 40.0% จากอัตรากำไรที่ดีกว่าคาดแม้ครึ่งปีหลังจะอ่อนลงตามยอดขายที่ลดลงก็ตาม และปรับกำไรสุทธิก่อนรายการพิเศษเพิ่มเป็น 3,519 ลบ. +16% y-y และปรับกำไรสุทธิเพิ่มเป็น 3,814 ลบ. เติบโต +133% y-y จากปีก่อนมีรายการปรับโครงสร้าง -1,400 ลบ. ส่วนราคาเหมาะสมเพิ่มเป็น 23.25 บาทอิง P/E 20.0x

ไตรมาส 3 ดี ยังชอบต่อไป
“เป็นหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่มที่เรายังชอบต่อ แม้ว่ายอดขายอาจหดตัว แต่การควบคุมต้นทุนทำได้ดีทำให้อัตรากำไรขั้นต้นทำสถิติสูงสุดได้ ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดเริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้น m-m ทำให้แนวโน้มการดำเนินงาน 3Q25 ยังโตได้ y-y
ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E25E ที่ 13.0x ไม่แพงหากเทียบกับกลุ่ม และผลตอบแทนเงินปันผล 6.0% ต่อปี ขณะที่แนวโน้มกำไรกลับมาเติบโตอีกครั้ง ทยอยสะสมได้ ”

นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th