สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 3 กันยายน 2568)-------นายแอนโทนิโอ ฮาง ตัท ชาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคดับบลิวไอ จำกัด (มหาชน) KWI เปิดเผยเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทฯกับ สถาบันการเงิน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
บริษัทฯ มีภาระหนี้คงค้าง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 จำนวน 1,010.18 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) วงเงิน กู้ยืมระยะสั้นกับ สถาบันการเงินแห่งหนึ่ง จำนวน 215.00 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.425 ต่อปี (วงเงินที่บริษัทฯผิดนัดชำระหนี้) 2) วงเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง รวม 89.49 ล้านบาท ซึ่งมี อัตราดอกเบี้ย MLR + ร้อยละสอง ต่อปี (วงเงินที่บริษัทฯผิดนัดชำระหนี้) แบ่งเป็นส่วนที่จะครบกำหนดชำระ ภายใน 1 ปี จำนวน 1.56 ล้านบาท และส่วนที่ต้องชำระเกิน 1 ปี จำนวน 87.93 ล้านบาท 3) เงินกู้ยืมจาก กรรมการ 85.01 ล้านบาท มีกำหนดชำระคืนเมื่อทวงถาม และ 4) เงินกู้ยืมกิจการที่เกี่ยวข้องกัน 620.68 ล้านบาท มีกำหนดชำระคืนเมื่อทวงถาม
ทั้งนี้บริษัทฯ มีแหล่งเงินทุนในการชำระคืน ได้แก่ 1. รายได้จากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นแหล่ง รายได้ประจำ (Recurring Income) 2. รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นรายได้ไม่ประจำ (NonRecurring Income) อีกทั้งอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทครอบครองมีราคาสูงจึงส่งผลให้การขายในแต่ละครั้งสามารถ ทำให้บริษัทได้รับกระแสเงินสดที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตามด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมถึงการเติบโตของ อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในไทยที่ชะลอตัวส่งผลให้บริษัทเผชิญความท้าทายในการขายอสังหาริมทรัพย์ ดังกล่าวออกไป
จากสถานการณ์ที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขการชำระหนี้ได้ทัน ภายในสิ้นไตรมาสที่2 ของปี 2568 และนำมาสู่การผิดนัดชำระหนี้ในไตรมาส 3 ของปี 2568 ซึ่งสถาบันการเงิน ขอให้บริษัทฯ ชำระคืนยอดหนี้ทั้งหมด โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อหาแนวทางแก้ไข รวมถึงเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินทั้งสองแห่ง
ทั้งนี้การผิดนัดชำระหนี้ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัทฯ แต่อย่างใด เนื่องจาก บริษัทฯ ยังคงมีแหล่งเงินทุนหมุนเวียนจากการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจได้รับผลกระทบในด้านการ ดำรงอัตราส่วนทางการเงินบางประการ แต่ด้วยความคืบหน้าในการเจรจาที่กำลังดำเนินไปอย่างราบรื่นและมี แนวโน้มจะบรรลุข้อตกลงในเร็ววัน บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถคลี่คลายประเด็นดังกล่าวได้โดยเร็ว
บริษัทฯ ขอยืนยันว่า บริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยมุ่งมั่นสร้างคุณค่าและประโยชน์สูงสุด แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน บริษัทฯ จะติดตามความคืบหน้าในกระบวนการดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และจะแจ้ง ให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทราบเป็นลำดับต่อไป