---สินเชื่อเดือนก.ค.ยังหดตัวต่อ---
สินเชื่อลดลงต่อเนื่องในเดือนก.ค. โดยสินเชื่อ7ธ.พ.ที่เราวิเคราะห์ หดตัว-0.7%MoM, -1.8%YoY และ-1.9%YTD ด้านเงินฝากขยายตัว +0.1%MoM, +0.2%YoY และ +0.1%YTD ขณะที่การกู้ยืมเพิ่มขึ้น +3.0%YTD แต่ลดลง -0.4%MoM และ-6.4%YoY อัตราส่วน LDR + borrowings ลดลงมาอยู่ที่ 81.5% สิ้นเดือนก.ค. (เทียบกับ 83.3% สิ้นเดือนธ.ค.2024) สะท้อนการเติบโตของสินเชื่อที่ยังคงชะลอตัว

สินเชื่อรายใหญ่และ SME นำการหดตัวในเดือนก.ค. โดยลูกค้ารายใหญ่มีการชำระคืนหนี้มากกว่ากู้ใหม่ จะมีเพียง SCB ที่มีสินเชื่อรายใหญ่เติบโต MoM ด้านสินเชื่อ SME ยังลดลงในทุกธนาคาร ยกเว้น KKP ที่เติบโต MoM สำหรับสินเชื่อรายย่อยลดลง ทั้งสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อไม่มีหลักประกันลดลง แต่สินเชื่อที่อยู่อาศัยของธ.พ.ส่วนใหญ่ขยายตัว MoM ในเดือนก.ค.

สินเชื่อ SCB ขยายตัวได้ MoM ขณะที่สินเชื่อธ.พ.อื่นๆหดตัว เนื่องจากปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ได้เพิ่มขึ้น หากเทียบรายดี พบว่าสินเชื่อ KTB เติบโตมากสุด หนุนโดยสินเชื่อภาครัฐ ส่วนใน YTD สินเชื่อ TISCO ขยายตัวดีที่สุดและเติบโต YoY มาจากสินเชื่อรายใหญ่ที่เพิ่มขึ้น

ยังคงให้ น้ำหนักลงทุน Neutral กลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยให้ SCB, TTB เป็นหุ้นเด่น ทั้งนี้คาดว่าสินเชื่อในปี 2025 ยังมีความท้าทายและเติบโตจำกัด เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว และธนาคารเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ด้าน NIM มีแนวโน้มแคบลง ตามทิศทางดอกเบี้ยขาลง และยังคงมีต้นทุนเครดิตสูง แต่ก็พยายามควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ส่วน Upside risk คือ กำไรจากการตีมูลค่าเงินลงทุนในตลาดทุนและตลาดเตราสารหนี้ ซึ่งมีโอกาสจะกำไรเมื่อพิจารณาจากระดับดัชนีตลาดหุ้นไทยและอัตราดอกเบี้ยขาลง

ส่วนปัจจัยหนุน คือ การบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง และ Valuation ไม่แพง โดยหุ้นเด่น SCB นั้นมีคุณภาพสินทรัพย์ที่บริหารได้และจ่ายปันผลสูง ด้าน TTB ก็มี คุณภาพสินทรัพย์ที่ควบคุมได้พร้อมกับผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นที่น่าพอใจ

นักวิเคราะห์ : ธนินี สถิรเรืองชัย : thaninees@dbs.com : Tel. 02 857 7837