Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

87

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 1 ก.ย.68 ปิด +7.87 จุด อยู่ที่ 1,244.48 จุด มูลค่าการซื้อขาย 35,696 ลบ. ต่างชาติซื้อ 347 ลบ. สถาบันซื้อ 633 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 369 ลบ. และรายย่อยขาย 612 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 668 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น PTT,KTB,CPALL,AOT,ADVANC และยอดขายหุ้น SCB,DELTA,KBANK,TTB,OR มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,488 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ SIRI,CPAXT,SPRC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 10,144 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 91,833 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,375 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปิดตลาดในวันแรงงาน สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับตลาดแรงสหรัฐ เช่น ADP ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน, การจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราว่างงานสหรัฐ ส.ค. ก่อนการประชุมเฟดวันที่ 16 – 17 ก.ย. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.23% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอวกาศ & ปัองกันประเทศ และกลุ่มบริการสุขภาพ +0.27% นำโดย Novo Nordisk +1.8%
  • Market View
  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปิดในวันแรงงาน สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีหุ้นสหรัฐปรับลดลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี สาเหตุมาจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมชิป AI หลังมีข่าว Alibaba สามารถผลิตชิป AI ของตนเองได้ ขณะที่ประเด็นการค้านั้น ศาลอุทธรณ์การค้าของสหรัฐมีมติชี้คำสั่งปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของ ปธน.ทรัมป์ เป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต กม. ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนของข้อตกลงการค้าที่สหรัฐได้ทำกับประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ในการเก็บภาษีอัตรา 10 – 50% ซึ่ง ปธน.ทรัมป์ได้อุทธรณ์ต่อไปในชั้นศาลฎีกาในช่วงกลาง ต.ค. นี้ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตาม PMI/ ISM ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐ ส.ค. และวันศุกร์ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ส.ค. คาดเพิ่มขึ้น 75,000 & ก.ค.73,000 ราย, อัตราว่างงาน ส.ค. คาด 4.3% & ก.ค. 4.2%
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ +0.23% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มป้องกันประเทศ นำโดย Roll-Royce, Rheinmetall หลัง ปธ. EC เผยเตรียมส่งกองกำลังเข้าไปยูเครน เพื่อรักษาความมั่นคงหลังสงครามยุติ ขณะที่กลุ่มบริการสุขภาพปรับขึ้น นำโดย Novo Nordisk +1.8% หลัง Wegovy ยาลดความเสี่ยงหัวใจวายมีประสิทธิภาพดีกว่ายาของคู่แข่ง Eli Lilly ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจ PMI ภาคการผลิตยูโรโซน ส.ค. อยู่ที่ 50.7 & ก.ค. 49.8 ปรับขึ้นอยู่ในโซนขยายตัวครั้งแรกนับตั้งแต่กลางปี 2565 และค่ำวันนี้ติดตาม CPI ยูโรโซน ส.ค. คาดทรงตัวที่ 2.0% YoY       
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.46% หลังข้อมูล RatingDog PMI ภาคการผลิตจีน ส.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 50.5 & ก.ค. 49.5 ขยายตัวมากสุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่ฮั่งเส็งปิด +2.15% นำโดย Alibaba +18.5% หลังรายงานกำไร Q2/68 ดีกว่าคาด สาเหตุมาจากรายได้ในกลุ่ม Cloud Computing, E-Commerce ที่ขยายตัวดี ส่วนดัชนีนิเกอิปิด -1.24% ต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ จากแรงขายกลุ่มผลิตชิป เช่น Tokyo Electron, Advantest หลังมีข่าว Alibaba สามารถผลิตชิป Ai ของตนเองได้ บ่งชี้ภาวะการแข่งขันในตลาดชิป AI อยู่ในระดับสูง
  • SET +0.64% ปริมาณการซื้อขาย 56 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 347 ลบ. สถาบันซื้อ 633 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 369 ลบ. และรายย่อยขาย 612 ลบ. โดยสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันหลังศาล รธน.มีคำวินิจฉัยให้คุณสมมัติของนายก ฯ แพรทองธารสิ้นสุดลง ทางพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทยกำลังเจรจาขอเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชน เพื่อโหวตนายก ฯ ท่านใหม่ ซึ่งพรรคประชาชนมีเงื่อนไข 3 ประการ คือ 1) รัฐบาลใหม่จะต้องยุบสภา ฯ ภายใน 4 เดือน 2) จัดให้มีการลงประชามติเพื่อแก้ไข รธน.ผ่านทาง สสร. 3) พรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมบริหารกับรัฐบาลใหม่ โดยอยู่ระหว่างการประชุมเพื่อขอมติพรรคว่าจะสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ อย่างไรก็ตามหากการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลใหม่ไม่สำเร็จ รักษาการนายก ฯ คุณภูมิธรรมอาจยื่นกฤษฎีกาขอยุบสภา ฯ ได้ ซึ่งจะต้องจัดเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 – 60 วัน จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนยัง Wait & See รอมติของพรรคประชาชน ว่าจะสามารถเปิดโหวตนายกใหม่ในวันศุกร์ที่ 5 ก.ย. ได้หรือไม่

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,230 – 1,240 แนวต้าน 1,250 – 1,260 คาดดัชนีผันผวนรอมติของพรรคประชาชนว่าจะสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคเพื่อไทยในการโหวตนายก ฯ ใหม่ รวมถึงยังมีทางเลือกของการยุบสภา ฯ หากไม่สามารถสรรหานายก ฯ ใหม่ ดังนั้นจึงแนะนำทยอยซื้อาหุ้นกลุ่มปลอดภัย เช่น GULF,GPSC,BH,CPF และกลุ่มที่จ่ายเงินปันผลสูง เช่น SCB, kBANB, TISCO, ICHI, SIRI, PTTEP / กลุ่มค้าปลีก & โฆษณา เช่น CPALL,CRC,HMPRO,DOHOME,PLANB จะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินที่หมุนเวียนในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง
  • PRM* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.30 บาท) จากการประชุมนักวิเคราะห์ แนวโน้มผลประกอบการ 3Q68 คาดกำไรปกติดีขึ้น QoQ, YoY เนื่องจากจำนวนเรื่อที่เพิ่มขึ้นใน 1H68 โดยเรือ FSU ลำใหม่ที่รับมาจะให้บริการได้เต็มไตรมาส ด้วย Utilization rate และอัตราค่าเช่าที่สูง ส่วนแนวโน้ม 4Q68 กำไรอาจจะลดลง QoQ เนื่องจากมีเรือ VLCC ที่เข้า Dry Dock แต่จะโต YoY ได้ตามกำลังการให้บริการที่เพิ่มขึ้น โดยธุรกิจ OSV มีปัจจัยหนุนจากเรือ Crew Boat ที่ทำสัญญากับลูกค้ารายใหม่ในเดือน ต.ค.และ ธ.ค.ส่วนแผนการลงทุนในการจัดกาเรือใหม่เพื่อทดแทนเรื่อที่มีอายุมาก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและได้อัตราค่าเช่าสูงขึ้น และสนใจลงทุนในเรือ Anchor Handling Tug ที่สนับสนุนกิจกรรมการสำรวจปิโตรเลียมซึ่งมีค่าบริการที่สูง ทั้งนี้ในปี 68-69 ตลาดคาดการณ์กำไรที่ 4 พันล้านบาท (+14%YoY) และ 2.5 พันล้านบาท (+3%YoY) valuation ไม่แพงด้วย PER’25 ที่ 6.7 เท่า และ Div.Yield 8%
  • ITC* (ซื้อเก็งกำไร/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 16.37 บาท)กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 696 ลบ.(-31%YoY, +3%QoQ) QoQ มีแรงหนุนในเชิง Volume ตามฤดูกาลและต้นทุนปลาทูน่าที่ปรับลดลง แต่ YoY กดดันจากรายได้ที่อ่อนตามบาทที่แข็งค่า, Product Mix ที่มีสัดส่วนสินค้าPremium ลดลง, และค่าใช้จ่ายที่ปรึกษา อย่างไรก็ตาม ปัจจัยกดดันอย่างภาษีทรัมป์มีความเสี่ยงลดลง ขณะที่ 3Q68 คาดว่าว่ารายได้ยังอยู่ในทิศทางที่ดีต่อจากยังเป็นฤดูกาลขาย มูลค่าการส่งออกของไทยก.ค.68(หน่วย usd) อาหารสุนัขและแมว +9%YoY, +14%MoM ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ ITC* จะอยู่ที่3,065 ลบ.(-15%YoY) และ 3,375 ลบ.(+10%YoY)

 

Daily Key Factors

Oil Update(0) สัญญาน้ำมันดิบวานนี้ปิดทำการในวันแรงงานสหรัฐ โดยนักลงทุนรอผลการประชุมโอเปกพลัสในสัปดาห์นี้ว่าจะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตใน ต.ค. หรือไม่ รวมถึงสถานการณ์สงครามรัสเซีย – ยูเครน

 

Gold Update(+) Gold Spot เช้านี้ +0.58% อยู่ที่ $3,495.34 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจากคาดการณ์ผลการประชุมเฟดวันที่ 17 ก.ย. มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ย

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -122.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +10.74 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -130.89 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -2.59 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 32.26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.247 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -1 อยู่ที่ 2,024

(+) BitCoin เช้านี้ +0.88% อยู่ที่ 109,138 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

สัปดาห์ที1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย

 

ต่างประเทศ

01 ก.ย.     US วันแรงงาน-วันหยุด

02 ก.ย.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ส.ค.) 

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ส.ค.)

03 ก.ย.     US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS ( ก.ค.)

04 ก.ย.     US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(ส.ค.)

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ส.ค.)) 

05 ก.ย.     US อัตราการว่างงาน ( ส.ค.)

                US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) ( ส.ค.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง,  Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง    

 

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

 

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

 

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

 

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

 

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

 

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio September 2025: KLINIQ, ITC*, PTTGC*, GULF*, TIDLOR*

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

การเมืองแบบไทย ไทย By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ละครการเมืองไทย ก็เป็นการเมืองแบบไทย ไทย ฝั่งกระดานหุ้นไทย นักลงทุน ก็เล่นตาม....

TPCH คว้าคะแนน AGM Checklist "ดีเยี่ยม"

TPCH คว้าคะแนน AGM Checklist "ดีเยี่ยม"

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้