Company Note
MC Group
ผลประกอบการและเงินปันผลยังเป็นไปตามคาด

MC รายงานกำไรสุทธิ 135 ล้านบาท เป็นไปตามที่เราและตลาดคาดราว โดยมีรายได้ 907 ล้านบาท เติบโต 4% YoY โดยช่องทาง Online ที่ยังเติบโตเด่นสุด 76% YoY เป็น 181 ล้านบาท ตามพฤติกรรมผู้บริโภคและกลยุทธ์ในการทำตลาดบน TikTok (20% ของยอดขายรวม) ช่วยชดเชยการหดตัวของช่องทาง Free standing -6% YoY เป็น 570 ลบ. และ Department Store -3% YoY เป็น 145 ลบ. โดย SSSG -6.5% YoY ในขณะที่จำนวนสาขาอยู่ที่ 570 สาขา ส่วน GPM อยู่ที่ 62.5% เพิ่มขึ้น 20bps YoY จากโปรโมชั่นส่งเสริมการขายที่มีเพิ่มขึ้น ส่วนสัดส่วน SG&A to sales ยังควบคุมได้ดีทรงตัวที่ 45.0% ภาพรวมในปี 2024/25 มีกำไรสุทธิที่เติบโต 7% YoY เป็น 760 ล้านบาทจากการเติบโตของช่องทาง Online ที่เติบโตต่อเนื่องและมีต้นทุนต่ำในการดำเนินงานต่ำกว่ารวมถึงการบริหารภาษีจ่ายให้ลดลง เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมีราคาเป้าหมายที่ 12.6 บาท แนวโน้มการเติบโตในปี 2025/25F จะเติบโตจากการปรับ Layout สาขารวมถึงขยายพื้นที่สาขาให้มีขนาดเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 100-120 ตรม. (จากเดิม 50-80 ตรม.) สำหรับ Outlet และ Super Store (ใน Lotus, BigC) รวมถึงแผนออกสินค้าใหม่เพื่อเจาะกลุ่มตลาด Gen Y, Z และ Online Exclusive มากขึ้น โดย MC ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับ 2H อีก 0.41 บาท/หุ้น XD วันที่ 4 พ.ย. ทำให้ทั้งปียังจ่ายเงินปันผล 0.96 บาท/หุ้น คิดเป็น Payout Ratio ที่ 100%

แนวโน้ม 1Q25/26F ยังเติบโต YoY

แนวโน้มยอดขายรวมในเดือนก.ค. หดตัวราว 1-2% จากสภาวะเศรษฐกิจ แต่กลับมาเติบโตในระดับ HSD ในเดือนส.ค. จากการปรับ Layout สาขาและจำนวน SKUs ให้ตอบโจทย์มากขึ้นทำให้สามารถเพิ่มยอดขายต่อตรม.ได้ (รูปที่ 2) ในขณะที่ยอดขาย Online มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับ 28% โดยผู้บริหารตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2025/26F ที่ 5% YoY รวมถึงการรักษาระดับ GPM และ NPM ไว้ที่ 64% และ 18% ตามลำดับ ขณะที่ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้ายังไม่มีแนวโน้มการปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมจากช่องทาง e-Commerce แต่อย่างใด

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 12.6 บาท

เราประเมินมูลค่าปี 2025F ที่ 12.6 บาท โดยใช้ P/E ที่ 13.6x (-0.5 SD) ปัจจุบันราคาหุ้นยังมี Dividend Yield สูงที่ราว 9% p.a. จากกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและ Payout ratio ที่ใกล้เคียง 100% ในขณะที่ยังมีเงินสดสุทธิสูงถึง 1.8 พันล้านบาท ความเสี่ยงได้แก่ 1)กำลังซื้อผู้บริโภคอ่อนแอ 2)การควบคุมค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่แย่กว่าคาด