AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ความผันผวนสูง
เลือกหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว

Market Strategy
SET Index วันนี้คาดผันผวนสูงกรอบ 1235-1265 จุด ตามคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญกรณีคลิปเสียงนายกฯ ด้านปัจจัยต่างประเทศ ติดตามตัวเลข Core PCE หุ้นวันนี้เลือก MTC และ WHA

ประเด็นการเมืองในประเทศต่อคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญกรณีคลิปเสียงนายกฯ (ตั้งแต่ 15.00 น. เป็นต้นไป) จะเป็นปัจจัยที่มีน้ำหนักในการขับตลาดวันนี้ จากอดีต 2 รอบที่ผ่านมาของนายกฯประยุทธ์ (ผลคำตัดสินไม่ผิดต่อคำร้องวาระ 8 ปีการเป็นนายกฯ) และนายกฯเศรษฐา (ผลคำตัดสินผิดต่อการตั้งคุณพิชิตเป็น รมต.) พบว่าทิศทาง SET Index มีจุดคล้ายกันคือ วันที่ศาลฯ ตัดสินหุ้นปรับลงเฉลี่ย 0.3% ก่อนที่จะฟื้นตัวในระยะ 1-2 สัปดาห์ถัดมาและปรับขึ้นเฉลี่ย 6% ในระยะเวลา 1 เดือน

หากเทียบเคียงกับรอบนี้ เราแบ่งผลตัดสินออกมาเป็น 2 ฉากทัศน์ 1) กรณีเป็นบวกกับนายกฯ ความกังวลสถานะรัฐบาลลดลงช่วงสั้นหนุน SET Index ฟื้นตัว แต่ระยะกลาง-ยาว ผันผวนไปตามความเสี่ยงฟ้องร้องคดีอื่นๆ รวมถึงความร้อนแรงต่อกระแสการเมืองนอกสภา 2) กรณีเป็นลบกับนายกฯ ส่งผลนายกฯ และรัฐมนตรีพ้นตำแหน่ง จากนั้นเข้าสู่กระบวนการเลือกนายกฯ และจัดตั้ง ครม.เราเชื่อว่าสุดท้ายคุณชัยเกษมเป็นนายกฯ และแกนนำรัฐบาลจากพรรคเพื่อไทย ผลต่อ SET Index คาดผันผวนช่วงแรก แต่ Downside จำกัด (ไม่หลุดโซน 1200-1230) จากความกังวลต่อสุญญากาศทารเมือง ก่อนฟื้นตัวเมื่อมีความชัดเจนเรื่องการเลือกนายกฯ ในเชิงกลยุทธ์จาก 2 ฉากทัศน์ข้างต้นที่สุดท้าย SET Index จะต้องฟื้นตัวหลังมีความชัดเจนต่อคำตัดสิน จึงแนะนำย่อเป็นจังหวะซื้อ โดยหุ้นที่ฟื้นตัวได้เร็วกว่าตลาดหลังการเมืองคลี่คลาย มักเป็นกลุ่ม Domestic Play อย่างไฟแนนซ์ (ชอบ MTC SAWAD) นิคม (WHA) รับเหมาฯ (CK) และท่องเที่ยว (ERW)

ประเด็นต่างประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ฟื้นตัวบางๆ 0.3% หนุนจากรายงาน GDP2Q68 ครั้งที่ 2 ขยายตัว 3.3% QoQ Annualized ดีกว่าคาด 3.1% ส่วนวันนี้ ติดตามรายงาน Core PCE เดือน ก.ค. คาดขยายตัว 2.9%YoY

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 2 จุดหรือ 0.2% กลุ่มที่ Outperform คือ กลุ่มโรงไฟฟ้า BGRIM +10% GPSC +5% กลุ่มไฟแนนซ์ +0.6% นำโดย SAWAD +3% จากประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง กลุ่มขนส่ง BEM +4.9% BTS +1.2% ฟื้นตัวหลังสภาผู้แทนราษฎรผ่านร่าง พรบ. รฟม.และ พรบ.ตั๋วร่วมในวาระ 2-3 ลำดับถัดไปพิจารณาชั้น ส.ว. และ THAI +5.7% กลุ่มธนาคาร KKP +4.8% จากการประกาศเงินปันผล 1.5 บาทพร้อมซื้อหุ้นคืน ส่วนกลุ่มที่ Underperform กลุ่มอิเล็คฯ DELTA -2.6% จาก Sentiment ลบของ NVIDIA ที่ถูก Sell on Fact หลังรายงานงบใกล้เคียงคาด

DAILY Stock Pick
MTC
โตแบบมีคุณภาพ
การลดดอกเบี้ยหนุน
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 45.00 บาท
หลังจาก กนง. ลดดอกเบี้ยเมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ Bond yield 10 ปีของไทย ปรับตัวลดลง 11 bps ลงมาอยู่ในระดับ 1.31% ในปัจจุบัน การลดลงดังกล่าวสะท้อนการปรับลดดอกเบี้ยของ กนง. ในรอบถัดไป เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในครึ่งปีหลัง หนุนให้ cost of fund ปรับตัวลดลง
เราคาดว่ากำไรของ MTC เติบโต 12%/8% ในปี 68-69 หนุนจากการเติบโตของสินเชื่อ และคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี อีกทั้งบริษัทเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นของราคารถยนต์มือสอง หนุนให้การขาดทุนรถยึดลดลงเทียบกับปี 67

WEEKLY Stock Pick
WHA
สถิติหุ้นเข้าร่วม Thailand Focus มัก outperform
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 4.00 บาท
จากสถิติ 4 ปีย้อนหลัง พบว่าหุ้นที่เข้าร่วมงาน Thailand Focus มักมีแนวโน้ม Outperform ตลาด โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +3.9% เทียบ SET index +3.5% ในช่วงเวลา ก่อนงานเริ่ม 3 วันทำการ (วันที่ 25 ส.ค. 68) และขายหลังงานจบ 5 วัน (5 ก.ย.68) ในปีนี้ WHA ยังคงเข้าร่วมในงาน ซึ่งเราคาดว่าจะเป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจบน theme China+1
WHA YTD -34.2% เทียบกับ SET Index -10.4% ในช่วงเวลาเดียวกัน ยังคง underperformed SET ถึง 23.8% โดยบริษัท รายงาน Backlog รวม JV ในงวด 2Q68 ที่ 1.5 พันไร่ (ไม่ถูกกระทบจากมาตรการภาษี) เทียบกับเป้ายอดขายที่ 2.4 พันไร่ WHA ตั้งเป้าในปี 68

KEY FACTOR
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ 2Q68 ขยายตัวแข็งแกร่งกว่าคาดGDP ปรับตัวเพิ่มขึ้น +3.3% QoQ จากเดิมที่รายงานครั้งแรกไว้ที่ +3.0% หนุนโดยการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวสูงถึง +5.7% และการส่งออกสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากผ่านพ้นช่วงการเร่งนำเข้าในช่วง 1Q68 อย่างไรก็ตามแม้ตัวเลขจะออกมาดีกว่าคาด แต่ภาพรวมเศรษฐกิจยังเผชิญความเสี่ยงจากนโยบายภาษีของทรัมป์ที่กดดันฝั่งต้นทุน ทำให้มุมมองตลาดยังให้น้ำหนักโอกาส Fed ลดดอกเบี้ยเฉลี่ยทรงตัวประมาณ 2.2 ครั้ง ในช่วงที่เหลือของปีนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ Consensus คาด PCE +0.2% MoM ชะลอลงจาก +0.3%MoM ในเดือน มิ.ย. ส่วน Core PCE Consensus คาด +0.3%MoM เท่ากับเดือนที่ผ่านมา แต่ +2.9% YoY สูงขึ้นเล็กน้อยจาก +2.8% YoY ในเดือน มิ.ย.

EYES ON
29 ส.ค. PCE เดือน ก.ค. ของสหรัฐฯ

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ