Today’s NEWS FEED

News Feed

8 โบรกมั่นใจ “NER” แข็งแกร่ง - ผลประกอบการโต

75

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(26 สิงหาคม 2568)--------บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน)

ภาพรวมยอดขายในปี 25 นี้มีโอกาสสูงที่จะไม่ถึง 500,000 ตัน ตามที่ผู้บริหารเคยตั้งเป้าไว้ตอนต้นปี โดยตัวเลขที่มีความเป็นไปได้คือ 470,000 ตัน (1H25 ทำได้ประมาณ 238,973 ตัน) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของปริมาณขายในช่วง 3Q25 เป็นตันไป อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะกดดันคือราคาขายที่มีแนวโน้มลดลงตามทิศทางตลาดโลก สำหรับผลกระทบจากเหตุไฟไหม้ทางบริษัทมีการทำประกันวงเงินครอบคลุมความเสียหายทั้งหมด ส่วนผลกระทบจากอัตราภาษีของสหรัฐฯ เบื้องต้นคาดว่าไทยยังมีภาษีดีกว่าในเรื่องวัตถุดิบ แต่ต้องติดตามถึงเงื่อนไขเรื่อง Transshipment ว่าจะโดนหรือไม่อีกที ทั้งนี้เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 6.25บาท ด้วยประเด็นผลตอบแทนเงินปันผลที่คาดว่าทั้งปีจะสูงถึง 8-9%

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
รายงานกำไรปกติ 2Q25 ที่ 489 ลบ. (-17.7% QoQ, -0.6% YoY) ใกล้เคียงกับที่คาด


โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ 554 ลบ. เนื่องจากมีกำไรจากอนุพันธ์และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 65 ลบ. รายได้หลักอยู่ที่ 7,585 ลบ. ลดลง 12.8% QoQ จากปริมาณขายที่ลดลง 12.0% แต่รายได้เพิ่มขึ้น 30.6% จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 23.7% YoY โดยปริมาณขายอยู่ที่ 1.11 แสนตัน (คาด 1.15 แสนตัน) และ ASP อยู่ที่ 67.7 บาท/กก. (คาด 68.0 บาท/กก.) ลดลง 0.6% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 5.9% YoY GPM อยู่ที่ 10.5% ทรงตัว QoQ แต่ลดลงจาก 12.4% ใน 2Q24 เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น SG&A/Sales อยู่เพียง 2.0% ทรงตัว QoQ และ YoY แม้ว่าจะมีค่าระวางเรือสูงขึ้น เพราะรายได้จากการส่งออกลดลง 42.9% QoQ เนื่องจากมียอดขายบางส่วนส่งออกไม่ทันในช่วงปลาย 2Q25 ทำให้เลื่อนมาส่งมอบได้ใน 3Q25 แทนเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนตู้ขนส่งชั่วคราว
• งบดุลยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ DE Ratio อยู่ที่ราว 1.2 เท่า ลดลงจากสิ้นปี 2024 ที่ 1.3 เท่า โดยหนี้สินทรงตัว แต่ส่วนของผู้ถือหุ้นสูงขึ้นตามทิศทางผลประกอบการที่ยังมีกำไรต่อเนื่อง
• ประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 1H25 ที่ 0.05 บาท เท่ากับที่คาด ให้ผลตอบแทน 1% ขึ้น XD วันที่ 22 ส.ค.
ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 6.20 บาท

 

 

บริษัท หลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
NER 2Q68 รายงานกำไรเพิ่มขึ้น y-y


2Q68 กำไรเพิ่มขึ้น y-y โดยหลักหนุนจากปริมาณขายใน 2Q68 เพิ่มขึ้น y-y เป็นไปตามคาด รายได้จากการขายรวมเพิ่มขึ้น y-y แบ่งเป็นรายได้ขายในประเทศสัดส่วน 80% และรายได้ขายต่างประเทศสัดส่วน 20% ผู้บริหารเผยช่วง 2H68 โมเมนตัมดีต่อเนื่อง ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.05 บาท/หุ้น เราคาดกำไรปี 68 โต y-y หนุนจากคำสั่งซื้อล่วงหน้า และแนวโน้ม Demand เร่งตัวขึ้น ยังแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 6.05 บาท


• 2Q68 รายงานกำไรเพิ่มขึ้น y-y: กำไร 2Q68 เท่ากับ 554 ลบ. เพิ่มขึ้น 16.9% y-y โดยหลักหนุนจากปริมาณขายใน 2Q68 เท่ากับ 111,883 ตัน เพิ่มขึ้น 23.7% y-y ซึ่งเป็นไปตามคาด สำหรับรายได้จากการขายรวม 7,585 ลบ. เพิ่มขึ้น 30.6% y-y โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายในประเทศ 6,088 ลบ. เพิ่มขึ้น 29.1% y-y หรือคิดเป็นสัดส่วน 80.27% ของยอดขายรวม และรายได้จากการขายต่างประเทศ 1,497 ลบ. โต 36.7% y-y หรือคิดเป็นสัดส่วน 19.73% ของยอดขายรวม
• คาดกำไรปี 68 โต y-y: เราคาดกำไรปี 68 โต y-y หนุนจากคำสั่งซื้อล่วงหน้า และแนวโน้ม Demand เร่งตัวขึ้น ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมยางล้อจีน นอกจากนี้มองว่า NER รับ Sentiment เชิงบวกจากข่าวอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยไปสหรัฐฯ จาก 36% มาอยู่ที่ 19%

บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด
Q2 ออกมาดี แต่ช่วงปลาย Q3 - ต้น Q4 รับผลกระทบชะลอสั่งซื้อจากภาษีสหรัฐฯ ทำให้ทั้งปีต่ำกว่าเป้าที่
5 แสนตัน


• งวด 2Q68 บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 554 ล้านบาท (+15.7%) หรือ NPM ที่ 7.3% โดยเป็นรายได้จากการขาย 7,585 ล้านบาท (+30.6%) ปริมาณขาย 111,883 ตัน (+23.7%) และระดับ GPM ที่ 10.5%
• ผู้บริหารมีการปรับเป้าปริมาณการขายในปีนี้ลงจากเดิม 5 แสนตัน ยอดขาย 3.4 หมื่นล้านบาท มาอยู่ที่ 4.7 แสนตัน ยอดขาย 3.25 หมื่นล้านบาท จากผลกระทบมาตรการภาษีสหรัฐฯ
• ประเด็นไฟไหม้โกดังที่เก็บสินค้ามูลค่า 200 -400 ล้านบาท มีประกันเต็มทั้งโครงสร้างและสินค้า บันทึกความเสียหายช่วง Q3 และคาดว่าจะบันทึกประกันช่วง Q4
• คงประมาณการณ์รายได้ที่ 3.17 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.92 พันล้านบาท
• คงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 6.00 (ไม่เปลี่ยนแปลง)

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน)
กำไรปกติ 2Q25 ทรงตัว y-y ลดลง q-q ตามคาด


คงคำแนะนำ “Buy” TP 5.85 บ. โดยเรามีมุมมอง Neutral ต่อกำไรปกติ 2Q25 ของ NER ที่อยู่ 489 ลบ. (ทรงตัว y-y, -18%q-q) ใกล้เคียงกับที่เราและตลาดคาด ปัจจัยกดดันจากต้นทุนยางพาราเพิ่มขึ้นทำให้ GPM ลดลง y-y, q-q อย่างไรก็ตาม ปริมาณการขายและราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น y-y สามารถชดเชยกับราคาต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ทำให้กำไรสามารถทรงตัวได้ y-y แต่ปริมาณและราคาขายลดลง q-q ก็ทำให้กำไรปกติลดลง q-q สำหรับโมเมนตั้ม 3Q25F คาดกำไรปกติเพิ่มขึ้น y-y แต่ลดลง q-q เนื่องจากเป็นไตรมาสที่คาดว่าจะมี GPM ต่ำที่สุดของปีตามปัจจัยฤดูกาล พร้อมกันนี้มีปันผลระหว่างกาล 0.05 บ./หุ้น (yield 1.1%) XD 22 ส.ค. 25
• กำไรปกติ 2Q25 เป็นไปตามคาด

บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด
2Q25 กำไรเป็นไปตามคาด


• 2Q25 กำไรตามคาด ปริมาณขายและราคาขายเพิ่ม แต่อัตรากำไรขั้นต้นลดลง
• รายการพิเศษจากเหตุไฟไหม้จะเริ่มบันทึกใน 3Q25 แต่คาดจะได้เงินคืนภายในปีนี้ จึงน่าจะไม่กระทบเงินปันผลงวด 2H25
• ยังคงแนะนำซื้อ ราคาที่เหมาะสม 5.70 บาท
2Q25 กำไรสุทธิ 554 ลบ. เป็นไปตามคาด เติบโต +16% y-y แต่หด -9% q-q
• ยอดขาย อยู่ที่ 7,585 ลบ. +31% y-y ปริมาณขาย 111,883 ตัน +24% y-y ราคาขายเฉลี่ย 67.8 บาท/ กก. เพิ่ม +6% y-y หากเทียบ q-q พบว่ายอดขายหดตัว -13% q-q ปริมาณขาย -12% q-q ราคาขาย -1% q-q โดยสัดส่วนยอดขายในประเทศ 75% และส่งออก 25%
• อัตรากำไรขั้นต้น อยู่ที่ 10.5% ลดเล็กน้อยจาก 10.6% ใน 1Q25 แต่ลดแรงจาก 12.4% ใน 2Q24 ขณะที่ค่าใช้จ่ายขายและบริหารเพิ่ม +41% y-y จากปริมาณขายเพิ่มขึ้นส่งผลให้ค่าสงเคราะห์เพิ่ม, ค่าขนส่งเพิ่ม
และยังมีค่ากิจกรรม CSR อีก 15 ลบ. และมีดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มตามเงินกู้เพิ่มขึ้น อีกทั้งมีรายการพิเศษ 65 ลบ. (กำไรอัตราแลกเปลี่ยน และการป้องกันความเสี่ยง)

 

 


บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
2Q25 ใกล้เคียงคาด, แนวโน้ม 2H25E ชะลอ HoH จากผลกระทบ tariffs


เราคงคำแนะนำ “ถือ” และราคาเป้าหมาย 5.00 บาท อิง 2025E PER 5.5x (-0.5SD below 5-yr average PER) NER รายงานกำไรปกติ 2Q25 (ไม่รวมกำไร Fx) อยู่ที่ 489 ล้านบาท (-1% YoY, -18% QoQ) ใกล้เคียงตลาดและเราคาด กำไรปกติอ่อนตัว YoY เป็นไปตาม GPM ลดลง -190bps YoY จากต้นทุนยางเฉลี่ยสูงขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้นตามการออกหุ้นกู้ แต่ถูกชดเชยบางส่วนจากปริมาณขายขยายตัวจากฐานต่ำ ขณะที่กำไรปกติชะลอ QoQ กดดันโดยปริมาณขายโดยรวมลดลงจากปัจจัยฤดูกาล ทั้งนี้ปริมาณขาย 2Q25 อยู่ที่ 1.1 แสนตัน (+24% YoY, -12% QoQ)


เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2025E ที่ 1.7 พันล้านบาท (+1% YoY) สำหรับ 3Q25E เบื้องต้น คาดการณ์แนวโน้มกำไรปกติจะยังชะลอ QoQ จากราคาขายปรับตัวลงตามทิศทางราคายาง รวมถึงปริมาณขายมีโอกาสทรงตัว หลังก่อนหน้านี้ลูกค้าบางส่วนอาจมีการชะลอคำสั่งซื้อเพื่อรอดูสถานการณ์


ราคาหุ้น in line กับ SET ใน 1 เดือน แม้สถานการณ์นโยบาย tariffs ชัดเจนขึ้น แต่เราคงแนะนำ “ถือ” จาก 1) แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H25E กลับมาชะลอ HoH จากผลกระทบ tariffs ที่อาจเห็นมากขึ้นและราคาขายอ่อนตัวตามทิศทางราคายาง และ 2) ราคายางยังชะลอต่อเนื่อง โดยล่าสุดปรับตัวลงราว -13% YTD

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX)

แม้ไทยจะได้อัตราภาษีนำเข้าจากสหรัฐใกล้เคียงคู่แข่งทำให้ยังมีศักยภาพแข่งขัน แต่มีความเสี่ยงที่มาตรการภาษีของสหรัฐจะทำให้ผู้บริโภคชะลอซื้อหลังราคาสินค้าแพงขึ้นซึ่งจะกดดันยอดขายยางและศักยภาพทำกำไรให้ชะลอตัวลงได้ อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside ไม่จูงใจพอจากราคาเป้าหมายปี 2569 ที่หุ้นละ 5.00 บาท (EPS อิงจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากใช้สิทธิแปลงสภาพ NER-W2 ซึ่งมี 308 ล้านหน่วย และกำหนดให้ใช้สิทธิเท่ากัน 3 ครั้งในเวลาที่เหลือ 1.5 ปี พร้อมอิงค่าเฉลี่ย PER ที่ 6 เท่า) กลยุทธ์ลงทุนช่วงสั้นจึงคงแนะนำ Neutral เพราะมีจุดเด่นที่ปันผลสูง โดยคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2568 หุ้นละ 0.34 บาท คิดเป็น Div. Yield สูงปีละ 7.6% ซึ่งล่าสุดประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 หุ้นละ 0.05 บาท (XD 22 ส.ค.) คิดเป็น Div. Yield 1.1%

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

รอ By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้าวันนี้หุ้นพัก นักลงทุนรอจับตา ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีคลิปเสียงนายกฯ ใน 29 ส.ค. นี้...

SSP เตรียม COD โซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น Q4/68

SSP เตรียม COD โซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น Q4/68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้