Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

83

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 22 ส.ค.68 ปิด +8.60 จุด อยู่ที่ 1,253.39 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,999 ลบ. สถาบันซื้อ 890 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 87 ลบ. รายย่อยซื้อ 723 ลบ. และต่างชาติขาย 1,700 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 99 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น DELTA,HANA,BDMS,CPAXT,ADVANC และยอดขายหุ้น HMPRO,THAI,KTC,TTB,IVL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,296 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ SIRI,CENTEL,AP โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 10,205 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 117,488 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 768 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ +1.89%, S&P500 +1.52%, Nasdaq +1.88% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย +3.1%, ดัชนีกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ +2.7% และกลุ่มคริปโทฯ Coinbase +6.5% หลังเจอโรม พาวเวลส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.40% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเหมืองแร่ +1.6%, ยานยนต์ +1.4% และท่องเที่ยว & สันทนาการ +1.3% ตอบรับสัญญาณลดดอกเบี้ยของเฟด
  • Market View
  • DJIA +1.53%, S&P500 +0.27%, Nasdaq -0.58% WoW โดยนักลงทุนได้สลับเม็ดเงินลงทุนจากกลุ่มเทคโนโลยีที่มีมูลค่าแพง ข้าสู่กลุ่ม Value และ Small Cap. เพื่อลดความเสี่ยงก่อนการประชุมที่แจ็คสัน โฮล ซึ่ง ปธ.เฟดเผยอัตราว่างงานสหรัฐอยู่ระดับต่ำ แต่นโยบายการเงินยังคงเข้มงวด ดังนั้นเฟดจำเป็นต้องเปลี่ยนจุดยืน ส่งผลให้ CME FedWatch ชี้มีโอกาส 3% จากสัปดาห์ก่อนที่ 75% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 16 – 17 ก.ย. และเม็ดเงินไหลกลับลงทุนกลุ่มเทคโนโลยี, สินค้าฟุ่มเฟือย และกลุ่มคริปโทฯ ข้อมูลเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ วันพฤหัสรายงาน US GDP Q2/68 ครั้งที่ 2 คาด 3.1% & ครั้งแรก 3.0% QoQ, วันศุกร์ US Core PCE ก.ค. คาด 2.9% & มิ.ย. 2.8% YoY เป็นดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อสหรัฐก่อนการประชุม ก.ย.
  • Stoxx600 ยุโรป+4% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มยานยนต์, เหมืองแร่ จากความหวังเชิงบวกต่อข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย - ยูเครน กอปรกับสหรัฐยืนยันเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรปที่อัตรา 15% ต่ำกว่าอัตราที่ ปธน.ทรัมป์ได้ขู่ไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจนั้น CPI ยูโรโซน ก.ค. ทรงอยู่ที่ 2.0% YoY ตามคาดการณ์ ขณะที่ GDP เยอรมัน Q2/68 หดตัว -0.3% & คาด -0.1% QoQ ส่งผลให้ ECB ยังจำเป็นต้องใช้ ม.ผ่อนคลายทางการเงิน ข้อมูลเศรษฐกิจสัปดาห์นี้วันศุกร์ติดตาม CPI เยอรมัน, ฝรั่งเศส ส.ค.
  • MSCI Asia Pacific Index -0.56% WoW ถูกกดดันจากดัชนีนิเกอิ -1.7%, Kopsi เกาหลีใต้ -1.8%, ไต้หวัน -1.5% WoW ปรับลดลงตามกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐที่มูลค่าตลาดอยู่ระดับสูง กอปรกังวลรัฐบาลสหรัฐอาจเข้าแทรกแซงบริษัทผู้ผลิตชิปด้วยการเข้าถือหุ้นบริษัทผู้ผลิตชิป ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +3.5% WoW หลังตัวเลขว่างงานของประชากรวัยหนุ่มสาวของจีน ก.ค. +17.8% สูงสุดในรอบ 11 เดือน ดังนั้นรัฐบาลจีนยังจำเป็นต้องออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจ สัปดาห์นี้วันพุธติดตามกำไรภาคอุต ฯ จีน ก.ค., วันศุกร์ Tokyo Core CPI ส.ค.
  • SET -0.48% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 18 หมื่น ลบ. -28.4% WoW ต่างชาติขาย 6,135 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 275 ลบ. สถาบันซื้อ 278 ลบ. และรายย่อยซื้อ 6,132 ลบ. WoW ดัชนีถูกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศ ระหว่างรอศาลอาญา ฯ พิจารณาคดี ม.112 ของคุณทักษิณ และรอผลการประชุมเฟดที่แจ็คสัน โฮลในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา โดย Sector ที่ปรับลดลงแรง คือ ขนส่ง -9.0% WoW นำโดย THAI ที่ถูกแรงขายทำกำไร หลังมูลค่าทางปัจจัยพื้นฐานสูงเกินค่าเฉลี่ยกลุ่มสายการบินที่เทรดบน P/E 10 – 11 เท่า แต่ช่วงกลางสัปดาห์ดัชนี SET ก็ได้แรงหนุนจากกลุ่มปิโตรเคมี,วัสดุและบรรจุภัณฑ์ หลังรัฐบาลเกาหลีใต้สั่งให้บริษัทปิโตรฯ 10 แห่งลดกำลังการผลิตปิโตรเคมี & นาฟทาลง 25% ของกำลังการผลิตรวม ซึ่งเป็นผลบวกต่อราคาสเปรดปิโตรเคมีของไทย เช่น SCC,PTTGC,IVL ส่วนแนวโน้มดัชนี SET เช้านี้คาดได้ปัจจัยหนุนจาก ปธ.เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ซึงเป็นผลบวกต่อ Fund Flow ในตลาดเกิดใหม่ แต่ Upside ของดัชนียังถูกจำกัด โดยวันศุกร์นี้ศาล รธน.จะอ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงนายก ฯ กับฮุนเซน ว่าจะเข้าข่ายผิดจริยธรรมหรือไม่ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจเข้านี้ติดตามตัวเลขส่งออกไทย ก.ค.คาด +9.6% & มิ.ย. +15.5% YoY

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,240 – 1,250 แนวต้าน 1,260 – 1,270 คาดได้แรงหนุนจากสัญญาณเฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. แต่ Upside ของดัชนียังถูกจำกัด ระหว่างรอศาล รธน.วินิจฉัยคดีคลิปเสียงนายก ฯ ในวันศุกร์นี้ แนะนำทยอยซื้อ GULF,GPSC,BGRIM,PTTGC,ADVANC,AAV เป็นกลุ่มที่ประโยชน์หากเฟดลดดอกเบี้ย ส่งผลให้ภาระดอกเบี้ยเงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐลดลง
  • SGC* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Consensus N.A.บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q68 ที่ 104 ล้านบาท +47%QoQ, +174%YoY หนุนจากการเติบโตของยอดการปล่อยสินเชื่อ Lock Phone ทดแทนรายได้ที่ลดลงของสิ้นเชื่อรถทำเงิน C4C รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารและต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใน 2Q68 บริษัทมีรายได้รวม 737 ล้านบาท +10%QoQ, +67%YoY ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่รวมของบริษัทอยู่ที่ 2,128 ล้านบาท และงวด 1H68 ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่สะสมอยู่ที่ 3,908 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ 95% มาจากสินเชื่อ Lock Phone สำหรับแนวโน้ม 2H68 ผู้บริหารตั้งเป้าหมายยอดปล่อยสินเชื่อใหม่รวมทั้งปี 2568 ไว้ที่ 8,000 ล้านบาท และมีเป้าหมายในการขยายเครือข่ายร้านค้าพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการ Lock Phone เป็น 7,000 แห่งทั่วประเทศ การปล่อยสินเชื่อผ่าน digital platform SG FINANCE+ หนุนยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ต่อเดือน (เดือน ก.ค.ปล่อยได้ 800-900 ล้านบาท new high) เบื้องต้นกำไรปี 68 น่าจะแตะ 400 ล้านบาท จากปีก่อนที่กำไร 163 ล้านบาท
  • SYNEX* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 176 บาท) กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 190 ลบ.(+19%YoY, +1%QoQ) มีแรงหนุนยอดขายสินค้า Apple และสมาร์ทโฟน รวมถึง Nintendo Switch2 ที่เปิดตัวในช่วงเดือนมิ.ย.68 ส่วนภาพรวม คาดว่ากลุ่มสินค้าไอทียังมีปัจจัยบวกจากDemand การเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ให้ทันกับเทคโนโลยี(4g>5g>AI) รวมถึงการใช้งาน cloud/อุปกรณ์IoT ที่แพร่หลายขึ้น นอกจากนี้ การสนับสนุนสําหรับ Windows 10 ก็จะถูกยกเลิก หลังวันที่ 14 ต.ค.68 ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68และ69 กำไรสุทธิของ SYNEX* จะอยู่ที่ระดับ 686 ลบ.(+9%YoY) และ 765 ลบ.(+12%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ต.ค.+$0.14 อยู่ที่ $63.66 / บาร์เรล, Brent ต.ค. +$0.06 อยู่ที่ $67.73/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากความหวังเชิงบวกต่อโอกาสการเจรจาสันตภาพระหว่างรัสเซีย - ยูเครน กอปร EIA เผยสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 6 ล.บาร์เรล

 

Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$36.90 อยู่ที่ $3,418.50 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.92% อยู่ที่ 97.716 หลังเจอโรม พาวเวล ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ในการประชุมที่แจ็คสัน โฮล

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ขายสุทธิ -48.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -189.1 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +168.0 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -27.1 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าอยู่ที่ 32.38 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.266 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +51 จุด อยู่ที่ 1,944

(-) BitCoin เช้านี้ -2.46% อยู่ที่ 112,539 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

27 ส.ค.     รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ฉบับย่อ

29 ส.ค.     ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สัปดาห์ที5 สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

 

ต่างประเทศ

25 ส.ค.     US อดขายบ้านใหม่ ( ก.ค.)

26 ส.ค.     US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี ( ส.ค.)

28 ส.ค.     US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 2) 

29 ส.ค.     US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ( ก.ค.)

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง,  Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง    

 

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

 

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

 

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

 

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

 

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

 

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio August 2025: KLINIQ, CPN*, PTTGC*, GULF*, TIDLOR*

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

LEO ร่วมงาน TILOG – LOGISTIX 2025 โชว์บริการโลจิสติกส์ครบวงจร

LEO ร่วมงาน TILOG – LOGISTIX 2025 โชว์บริการโลจิสติกส์ครบวงจร

SET และ APM เข้าเยี่ยมชมธุรกิจ บจก.เกษตรพัฒนาอุตสาหกรรม

SET และ APM เข้าเยี่ยมชมธุรกิจ บจก.เกษตรพัฒนาอุตสาหกรรม

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้