AT THE OPEN (#ATO)
SET Index วันนี้ผันผวนสูงขึ้น
เลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว
Market Strategy
SET Index วันนี้คาดผันผวนตามกรอบ 1235-1255 จุด จากประเด็นการเมืองที่วันนี้การตัดสินคดี ม.112 คุณทักษิณ ผสานกับการกล่าวสุนทรพจน์ประธาน FED ในการประชุม Jackson Hole คืนนี้ ที่ตลาดจับตาการส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ด้านข้อตกลงสหรัฐฯ-อียู มองหนุนกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ แต่ภาพรวม Fund Flow ยังชะลอตัวอยู่ วันนี้เลือกเก็งกำไร KCE และยังชอบ TRUE

วันนี้ศาลฯตัดสิน คุณทักษิณคดี ม.112 เริ่มตั้งแต่ 10.00 น. ซึ่งเราเชื่อว่าผลที่ออกมาจะสร้างความผันผวนต่อทิศทางตลาด โดยหากผลออกมาเป็นลบอาจจะสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นจากความกังวลต่อเสถียรภาพของพรรคเพื่อไทย แต่อย่างไรก็ตามก็ยังสามารถอุทธรณ์ได้ต่อ ขณะที่ออกมาเป็นบวกน่าจะจังหวะรีบาวน์ได้บ้างแต่ Upside ไม่มาก เนื่องจากสัปดาห์หน้าวันศุกร์ที่ 29 ส.ค. ยังมีคดีศาลฯ ตัดสินคดีนายกฯ รออยู่ ภายใต้ความไม่แน่นอนข้างต้นมองหุ้นกลุ่ม ICT กลุ่มโรงพยาบาล ในฐานะ Defensive Play ซึ่งเราชอบ TRUE BH

ฝั่งสหรัฐฯ วันนี้ช่วงติดตามการส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงินของประธาน FED ในการกล่าวสุนทรพจน์ในประชุม Jackson Hole (ช่วง 21.00 น.) ซึ่งโทนก่อนการประชุมตลาดเพิ่มระมัดระวังมากขึ้น สะท้อนจากการลดโอกาสลดดอกเบี้ยฯในเดือน ก.ย. เหลือ 75% จากต้นสัปดาห์ก่อนอยู่สูงกว่า 90% ภายใต้สภาพแวดล้อมข้างต้นทำให้ Fund Flow อยู่ในภาวะชะลอต่อไป

สหรัฐฯ-อียู มีข้อตกลงเพิ่มเติม โดยสหรัฐฯ จะเก็บภาษีในส่วนเซมิคอนดักเตอร์ ยา ไม้แปรรูป ที่อยู่ในส่วน Sectoral Tariff ไม่เกิน 15% ด้านภาษีรถยนต์จะเก็บในอัตรา 15% (จากปัจจุบันถูกเก็บในอัตรา 27.5%) แต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขที่อียู ไม่เก็บภาษีสินค้าอุตสาหกรรม เปิดตลาดอาหารทะเล และสินค้าเกษตรสหรัฐฯ เพิ่มเติม เป็นต้น เรามองความชัดเจนที่เพิ่มขึ้นเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ที่มีสัดส่วนรายได้ฝั่งยุโรป อย่าง KCE (รายได้ยุโรปคิดเป็น 50% ของรายได้รวม) HANA (รายได้ยุโรปทั้งทางตรงและทางอ้อมคิดเป็นสัดส่วนราว 30-40%)

Market Summary
SET Index ปรับลง 3.3 จุด กดดันหลักจาก THAI -11% กดดันดัชนีไป 3.3 จุด ขณะที่ภาพรวมแต่ละกลุ่มถือว่าบวกลบกระจัดกระจาย โดยกลุ่มที่บวกเด่น กลุ่มปิโตรฯ หนุนจากข่าวเดิมที่เกาหลีใต้เตรียมลดกำลังการผลิตแนฟทาหนุน PTTGC +15% IVL +9% IRPC +7% SCC +5% ตามด้วยกลุ่มอิเล็คฯ HANA +7.9% จากแนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัว เช่นเดียว WHA +1.1% และ AMATA 0.6% ด้านกลุ่มที่ลงแรง SAPPE -14% จากแนวโน้มกำไรแย่กว่าคาดหลังกดดันจากกำลังซื้อของตลาดตะวันออกกลางและเอเซียที่อ่อนลง กลุ่มไฟแนนซ์ -1.4% จากแรงขายทำกำไร นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2.8 พันล้านบาท

DAILY Stock Pick
KCE เก็งกำไร US-EU
บรรลุดีลการค้า
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 33.00 บาท
สหรัฐกับสหภาพยุโรปบรรลุ ข้อตกลงการค้า โดยสหรัฐฯ จะเก็บภาษี 15% กับสินค้านำเข้าจาก EU รวมไปถึงรถยนต์ที่เก็บอัตราภาษีดังกล่าว หนุน Sentiment ให้บริษัทที่ส่งออกไปยุโรปอย่าง KCE คิดเป็น 51% ของรายได้งวด 2Q68
เราคาด 2H68 กำไรฟื้นตัว จากค่าใช้จ่าย One-time ที่ลดลง อีกทั้งรายได้ที่เพิ่มขึ้น จากการเริ่มรับรายได้จากลูกค้ารายใหม่ตั้งแต่ปี 2H68 เป็นต้นไป ณ ปัจจุบัน ถูกซื้อขายที่ PE’68 ที่ 23.8 เท่า (-1SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) ช่วยจำกัด Downside

WEEKLY Stock Pick
TRUE
Top pick กลุ่ม ICT ผสาน
กำไรฟื้น 3Q68
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 14.40 บาท
เบื้องต้นเราคาดกำไร 3Q68 ฟื้นตัว YoY และ QoQ จากทั้งรายได้ที่ฟื้นตัว และรายจ่าย OPEX ที่ลดลงผ่านการลดจำนวนเสา และ Cost Saving ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา
เราชอบ TRUE เนื่องจาก PE’69 อยู่ที่ 17 เท่า เทียบกับ ADVANC ที่ 19 เท่า ในขณะที่กำไรปี 69 TRUE เติบโต 18%YoY เทียบกับ ADVANC ที่เติบโตเพียง 8%YoY ในขณะที่ TRUE มี upside เพิ่มเติมจาก Cost saving

KEY FACTOR
ตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐสูงกว่าคาด โดยผู้ขอครั้งแรกเพิ่มขึ้น +2.35 แสนตำแหน่ง สูงกว่า consensus คาด 2.25 แสนตำแหน่ง ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่ตลาดนำมาตีความโอกาสว่า Fed อาจส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงิน ก่อนที่จะมีถ้อยแถลงของประธาน Fed ใน Jackson Hole คืนนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติพลิกเร่งขายในตลาดหุ้นไทย -2.81 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการขายติดต่อกันเป็นวันที่ 6 สะสม -5.54 พันล้านบาท สะท้อนมุมมองที่ระมัดระวัง ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยเผชิญความไม่แน่นอนจากทั้งปัจจัยต่างประเทศ และการเมืองภายในประเทศ ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญ เริ่มจากการไต่สวนนายกฯ คดีคลิปเสียง เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) ซึ่งมีกำหนดฟัง คำวินิจฉัยในวันที่ 29 ส.ค. รวมทั้งการตัดสินคดี ม.112 และ ชั้น 14 ของ คุณทักษิณ วันที่ 22 ส.ค. และ 9 ก.ย. ตามลำดับ

EYES ON
21 ส.ค. รายงานการประชุม FOMC เดือน ก.ค., S&P Global PMI ภาคการผลิตและบริการของสหรัฐฯ, HCOB PMI ภาคการผลิตและบริการของ Eurozone

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ