สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 22 สิงหาคม 2568 )----- บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน)TPIPL แจ้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ด้วยเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ศาลแพ่งได้อ่านคำพิพากษาศาศาลฎีกาที่1329-1330/2568 (รวมการพิจารณาคดี) เกี่ยวกับคดีพิพาทตามที่อ้างถึงข้างต้น โดยพิพากษาให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ซึ่งพิพากษาให้บริษัทฯ ดังนี้

สำนวนคดีแรก พิพากษาให้บริษัทฯ นำแร่หินหินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ จำนวน 31,522,374.26 เมตริกตัน ไปถมกลับคืนยังพื้นที่เดิมที่ทำเหมืองแร่พิพาท พร้อมฟื้นฟูสภาพพื้นที่ทำเหมืองที่เอาแร่ไปให้กลับคืนดีดังเดิม หรือให้ชำระเงินเป็นจำนวน3,782,684,911.20 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันพบการลักลอบทำเหมืองวันที่ 24 กรกฎาคม 2557 ถึงวันฟ้องเป็นเวลา 350 วัน และศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากมาแก้เป็นว่า การคิดดอกเบี้ยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ตั้งแต่วันที่ 1 บมนายน 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้ใช้อัตราร้อยละ 5 ต่อปี หรือปรับเปลี่ยนลดลงหรือเพิ่มขึ้นตามพระระราชกฤษฎีกา ซึ่งตราขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 7 ที่แก้ไขใหม่ บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละสองต่อปี แต่ต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามที่ขอ นอกจากที่แก้ไขให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และ

สำนวนคดีที่สอง พิพากษาให้บริษัทฯ นำแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ จำนวน 2,447,906.76 เมตริกตัน ไปถมกลับคืนยังพื้นที่เดิมที่ทำเหมืองแร่
พิพาท พร้อมฟื้นฟูสภาพพื้นที่ทำเหมืองที่เอาแร่ไปให้กลับคืนดีดังเดิม หรือให้ชำระเงินเป็นจำนวน 293,748,811.20 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันพบการลักลอบทำเหมืองแร่ วันที่ 31 สิงหาคม 2558 จนถึงวันฟ้องเป็นเวลา 207 วัน และศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า การคิดดอกเบี้ยตามคำพิพากมาศาลชั้นต้นตั้งแต่วันที่ 11 เมพาชน 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้ใช้อัตราร้อยละ 5 ต่อปี หรือปรับเปลี่ยนลดลงหรือเพิ่มขึ้นตามพระราชกฤษฎีกา ซึ่งตราขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 7 ที่แก้ไขใหม่ บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละสองต่อปี แต่ต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามที่ขอ นอกจากที่แก้ไขให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โดยยกคำขอของโจทก์ที่เรียกให้จำเลยชำระค่าภาคหลวงแร่ทั้งสองสำนวน และให้จำเลยใช้ค่าทนายความในชั้นฎีกาแก่โจทก์ทั้งสองสำนวนรวม 200,000 บาท แทนโจทก์

ปัจจุบันบริษัทฯ ได้เริ่มปฏิบัติการชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลโดยการนำแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ไปถมกลับคืนยังพื้นที่พิพาทเดิม หลังจากศาลในคดีนี้ได้เคยมีคำพิพากษา ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานตามปกติหรือฐานะทางการเงินของบริษัทฯแต่อย่างใด

อ้างถึง คดีหมายเลขดำที่ สว.4/2559 (คดีหมายเลขแดงที่ สว. 7/2562) และคดีหมายเลขดำที่สว. 6/2559 (คดีหมายเลขแดงที่ สว. 8/2562) ของศาลแพ่ง ระหว่าง กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ("กพร.") โจทก์ และบริษัททีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน)("บริษัทฯ") จำเลย