21 ส.ค. 2568 10:46:01 82
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(21 สิงหาคม 2568)-------------บีโอไอ ผนึกกำลังเอกชนและวิชาการ จัด Forum ถกกลยุทธ์ ผลักดันไทยชิงโอกาสเป็นผู้นำฐานผลิตอิเล็กทรอนิกส์ภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ และ PCB ขั้นสูง ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงกติกาการค้าและซัพพลายเชนโลก ชูความพร้อมระบบนิเวศการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ในอาเซียน มุ่งสร้างมาตรการดึงดูดการลงทุนต้นน้ำ-ปลายน้ำ พัฒนาคนรองรับอุตสาหกรรมอนาคต เผยยอดลงทุน PCB กว่า 2 แสนล้านบาท เอกชนขานรับคลื่นลงทุนครั้งใหญ่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จัดเวทีใหญ่ BOI Forum ในงาน Thailand Electronics Circuit Asia 2025 (THECA 2025) เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ ภายใต้หัวข้อ "Building the Future: Investment Policies Shaping Thailand's Advanced Electronics and Semiconductor Ecosystem" โดยมีภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการร่วมแสดงวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์การผลักดันอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทยสู่ฐานการผลิตระดับภูมิภาค นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวในหัวข้อ "Vision for Thailand: Becoming a Regional Hub for Smart Electronics Production" ว่าคลื่นการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงในประเทศไทย ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2565 - มิถุนายน 2568 มีการลงทุนรวมกว่า 500 โครงการ มูลค่าลงทุนกว่า 7 แสนล้านบาท เฉพาะกลุ่มแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (Printed Circuit Board: PCB) มี 180 โครงการ มูลค่าลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท นับเป็นคลื่นการลงทุนครั้งใหญ่ของ PCB ที่ผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกให้ความเชื่อมั่นและตัดสินใจเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตใหญ่ในประเทศไทย ทำให้เกิดเป็นคลัสเตอร์อุตสาหกรรมใหม่ที่จะสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจไทยในระยะยาว ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลกขยายตัวสูง คือ การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะดิจิทัล และ AI ที่เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมและความต้องการสินค้าของผู้บริโภคภาคอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น ยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท แบตเตอรี่ ดาต้าเซนเตอร์ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ซึ่งทำให้ความต้องการชิปและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มสูงขึ้นมาก ตลอดจนปัจจัยด้านสงครามการค้าโลกและสงครามเทคโนโลยี (Trade War & Tech War) ทำให้อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กลายเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของโลก ที่มีผลต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ หลายประเทศแย่งชิงการลงทุน ในขณะที่หลายบริษัทต้องปรับห่วงโซ่อุปทานเพื่อกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ โดยเป็นโอกาสของไทยที่จะช่วงชิงการลงทุนในกลุ่มนี้ ซึ่งจะนำไปสู่การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมครั้งใหญ่ที่จะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศในระยะยาว ทั้งนี้ ประเทศไทยมีจุดแข็งหลายด้านที่สามารถเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง รวมทั้ง PCB ได้ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งน้ำ ไฟฟ้าที่มีความเสถียร พลังงานสะอาด นิคมอุตสาหกรรม ระบบโลจิสติกส์ และซัพพลายเชนครอบคลุมต้นน้ำถึงปลายน้ำ และการสนับสนุนจากภาครัฐ ทำให้ไทยกลายเป็นแหล่งลงทุนที่โดดเด่นในภูมิภาค และมีศักยภาพที่จะเป็นฐานผลิตอันดับต้น ๆ ของโลก "บีโอไอและหน่วยงานภาครัฐมีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง โดยมีการตั้งบอร์ดเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ เป้าหมายที่ชัดเจน การพัฒนาบุคลากรทักษะสูงรองรับอุตสาหกรรม การออกมาตรการสนับสนุนที่ตรงจุด และการปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ ให้เอื้อต่อภาคธุรกิจ ซึ่งแผนยุทธศาสตร์ที่บีโอไอทำร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกและคณะผู้เชี่ยวชาญใกล้เสร็จ พร้อมนำเสนอบอร์ดภายใน 1-2 เดือนนี้ ยุทธศาสตร์ใหม่นี้จะช่วยตอกย้ำว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลก ไทยมีความพร้อมที่จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงอย่างครบวงจร ซึ่งไม่ใช่แค่ฐานผลิต แต่รวมถึงการเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนา ศูนย์กลางการพัฒนาบุคลากรทักษะสูง และซัพพลายเชนหลักของภูมิภาค" นายนฤตม์ กล่าว รัฐและเอกชนขานรับพร้อมลงทุน นายนัยวุฒิ วงษ์โคเมท ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการบริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ผู้ออกแบบชิป (IC Design) กล่าวว่า หากอุตสาหกรรม IC Design ได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสมจากภาครัฐ ภายในปี 2573 ประเทศไทยน่าจะมีบริษัท IC Design ทั้งไทยและต่างชาติเพิ่มได้อีก 5 ราย และอีก 10 ราย ภายในปี 2578 ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดที่ภาครัฐควรเร่งสนับสนุน คือ การใช้ไมโครชิพของคนไทยทั้งในภาคการผลิตของเอกชนและการจัดซื้อภาครัฐ นอกจากนี้ ภาครัฐต้องเริ่มแผนลงทุน Wafer Fabrication ซึ่งมีความเป็นไปได้ 2 แบบ คือ โรงงานมาตรฐาน (Legacy Standard CMOS Fab) ใช้เงินลงทุนประมาณ 50,000 ล้านบาท และโรงงานอุปกรณ์พิเศษ เช่น Micro Electro-Mechanical Systems (MEMS), Power Devices, Photonics เงินลงทุน 10,000 – 20,000 ล้านบาท โดย Wafer Fabrication จะเป็นหัวใจช่วยเสริมความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมไทยอื่น ๆ ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน นายณัฏฐพงษ์ สุทธิวงศ์สุนทร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูแทค ไทย จำกัด ผู้ให้บริการประกอบชิป (IC Packaging) กล่าวว่า ประเทศไทยมีความพร้อมสำหรับการผลิตอุปกรณ์อัจฉริยะ ยูแทคมีความพร้อมในการผลิต MEMS ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Smart Devices และเซ็นเซอร์ขั้นสูง เช่น MEMS Accelerometer, Gyroscope, Pressure Sensor, Timing Devices และ Humidity Sensors จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เชื่อมั่นว่าไทยจะรองรับแนวโน้มการผลิตอุปกรณ์อัจฉริยะในอนาคตได้ นายปรอง กองทรัพย์โต Chief of Staff บริษัท ลูเมนตัม อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (EMS) กล่าวว่า การร่วมมือกันในรูปแบบของคลัสเตอร์ระหว่างผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์อัจฉริยะ กับซัพพลายเออร์จะมีความสำคัญมากใน Supply Chain ยุคปัจจุบัน ความสามารถทางเทคโนโลยีที่สูงขึ้น การนำระบบและเครี่องจักรอัตโนมัติมาใช้ และการมีความรู้เฉพาะเรื่องในสิ่งที่ตัวเองถนัดที่โดดเด่น จะสร้างโอกาสให้สามารถเข้าสู่ตลาดได้ นอกจากนั้น ความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว การมีวัฒนธรรมของ Zero Defect Quality และมีการควบคุมกระบวนการด้วยวิธีทางสถิติ รวมถึงมีการทดสอบตรวจวัดที่เที่ยงตรง ยิ่งจะเป็นจุดแข็งในการเข้าสู่ Supply Chain ในยุคปัจจุบัน นายวุฒินันท์ เจียมศักดิ์ศิริ นักวิจัยอาวุโส ศูนย์เทคโนโลยีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (TMEC) กล่าวว่า ไทยมีโอกาสชัดเจนในการเป็น Regional Hub สำหรับ Advanced Packaging และ Specialty Semiconductors โดยเฉพาะในยุค Physical AI และ Humanoid Robotics ที่กำลังเติบโต จุดแข็งของไทย คือ ฐานการผลิตอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ที่แข็งแกร่ง ประกอบกับการย้ายฐานผลิตจากความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องการการลงทุนมากขึ้น เพื่อรองรับความเสี่ยงในการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน นายพรพิสิทธิ์ นิติสุพรรัตน์ กรรมการบริหาร สมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทย กล่าวว่า ขณะที่ความต้องการตลาดโลกกำลังเปลี่ยนไป เช่น ความต้องการ PCB สำหรับ EV, AI Server หรืออุปกรณ์สื่อสารความเร็วสูง ผู้ผลิตบางรายอาจมีความจำเป็นต้องลงทุนเพิ่มเติมในเทคโนโลยีการผลิตใหม่ในบางส่วน เพื่อให้สามารถผลิตงานที่มีความต้องการที่สูงขึ้นได้ เช่น เครื่อง Direct Imaging, Laser Drill และเครื่อง Etching พิเศษ การปรับตัวนี้นับเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทยที่มีการขยายตัวของอุตสาหกรรม PCB อย่างรวดเร็วและตลาดใหม่มีความต้องการที่สูง จึงสามารถสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขาย ต่อยอดจากอุตสาหกรรมยานยนต์ นอกจากนี้ ในด้านบุคลากรจำเป็นต้องวางเป้าหมายการพัฒนาบุคลากรเชิงรุก โดยมีแผนผลิตและพัฒนาบุคลากรอย่างน้อย 80,000 คน ภายในระยะเวลา 5 ปี เพื่อป้อนเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรม เพื่อให้ไทยก้าวขึ้นมาเป็นฐานการผลิต PCB และ Advanced Electronics ที่ตอบโจทย์ตลาด EV, AI และ High-Speed Communication นายสุรินทร์ คำฝอย รองผู้อำนวยการ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (NXPO) กล่าวว่า การพัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงนั้นเกิดขึ้นรวดเร็วมาก การรอเวลาที่ "พร้อม" หรือ "เหมาะสม" อาจทำให้เราตามไม่ทันโลก เพราะเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นทุกวัน เราต้องสร้างความพร้อมขึ้นมาด้วยการเริ่มลงมือทำทันที ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรมบุคลากรปัจจุบัน การปรับหลักสูตรการศึกษา หรือการสร้างความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม ซึ่งกระทรวง อว. พร้อมสนับสนุนการก้าวไปข้างหน้าของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงของไทย จึงมีการกำหนดแผนการผลิตและพัฒนากำลังคน เพื่อรองรับอุตสาหกรรมนี้ โดยในระยะที่ 1 พ.ศ. 2569-2573 จะผลิตกำลังคนสมรรถนะสูงเข้าสู่อุตสาหกรรมราว 84,000 คน บุคลากรวิจัยเฉพาะทาง 1,700 คน และ Training Center อีก 6 แห่ง ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต "There is no right time. There is only right now"
: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์
เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ จะเล่นหุ้นในตลาดหุ้นไทย ก็ต้องเกาะกระแสหุ้นที่มีคลื่นเก็งกำไรสูง หุ้นในกระแส หุ้นที่...
Hooninside
สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้
ชื่อหรือรหัสของคุณไม่ถูกต้อง
Please, check your email format before submit.
Please, Enter you password.
Please, Enter minimum 3 character.
Please, Enter minimum 6 character.
กรุณากรอกอีเมล์ที่คุณใช้สมัครสมาชิกแล้วกดส่งเมล์