ภาวะตลาด : SET Index วานนี้แกว่งลง ปิดที่ 1235.76 ลดลง -6.55 จุด (-0.53%) มูลค่าซื้อขาย 3.9 หมื่นลบ. โดยตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ขณะเดียวกันความไม่แน่นอนทางการเมืองมีน้ำหนักกดดันตลาดมากขึ้น หุ้นใหญ่ที่กดตลาดนำ โดย DELTA, PTT, ADVANC, PTTEP, THAI ฯลฯ นักลงทุนสถาบันในปท.ขายสุทธิต่อ -1.09 พันลบ. นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ -416 ลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ: ติดตามถ้อยแถลงนายพาวเวล ประธานเฟด ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐและแนวทางการลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งตลาดประเมินว่าน่าจะแข็งกร้าวขึ้น เนื่องจากเป็นการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งสุดท้ายของนายพาวเวลในการประชุมประจา ปีธ.กลางสหรัฐเพราะเขาจะสิ้นสุดวาระการดา รงดา แหน่งประธานเฟดในเดือนพ.ค.2026
• แบบจำลอง GDPNow เฟดแอตแลนตาระบุจีดีพี 3Q25 เติบโต 2.3% ชะลอลงจาก 3.0% ใน 2Q25 สำหรับตัวเลขเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนก.ค.ออกมาเติบโต 5.2% แต่การอนุญาตสร้างบ้านลดลง 2.8% สู่ 1.354 ล้านยูนิต ต่ำสุดในรอบ 5 ปี
• ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน รอฟังถ้อยแถลงปธ.เฟดหลังประชุมประจาปีเฟดที่แจคสัน โฮล และมีแรงขายหุ้นเทคโนโลยี หลังแซม อัลต์แมน ซีอีโอของบริษัท OpenAI ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ข่าว The Verge ว่าหุ้นกลุ่มนี้กำลังอยู่ในภาวะฟองสบู่
• สัญญาน้ำมันดิบ WTI & Brent ร่วงลงสู่ 62-65 US$/bbl ประเมินว่าการเจรจายุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน อาจนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ทำให้รัสเซียจะส่งออกน้ำมันได้เพิ่มขึ้น ด้านสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ (API) ลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล
• สัญญาทองคำส่งมอบธ.ค.ดิ่งลง -19.3 US$ เป็น 3,358.70 US$/ออนซ์ โดยดัชนีค่าเงิน US$ แข็งขึ้น 98.4 เงินบาทอ่อนเป็ น 32.57 Bt/US$ ส่วน US bond yield 10 ปีทรงที่ 4.3% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ทรงที่ 111.1 ดัชนี Baltic Dry Index อ่อนสู่ 1,964 (high อยู่ที่ 2258)

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• DBS Group Research ปรับเพิ่มคาดการณ์ศก.ไทยปี 25 เป็นเติบโต 2.1% (เดิม 1.8%) โดยปรับเพิ่มส่งออกเป็นโต 5% (เดิม 1%)
• ครม.วานนี้อนุมัติร่างจัดตั้งสถาบันค้าประกันเครดิตแห่งชาติ (NaCGA) ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังข้อมูลหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยทาง NaCGA จะออกหนังสือค้ำประกันให้กับ SME เพื่อนำไปกู้เงินกับสถาบันการเงิน
• เปิดให้แรงงานต่างชาติเข้าทำงานในไทยเพิ่ม วานนี้ครม.อนุมัติการเปิดให้แรงงานชาวศรีลังกาเข้ามาทำงานในประเทศไทย 10,000 คน และเปิดตลาดแรงงานจากเนปาล บังกลาเทศ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เข้ามาทำงานในประเทศไทยได้ 2 ปี และต่ออายุได้อีก 2 ปี
• ติดตามการเมืองไทย: สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา, ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาทักษิณคดีม.112 วันที่ 22 ส.ค.นี้, ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจาและลงมติวินิจฉัยคดีคลิปเสียงแพทองธาร-ฮุนเซนในวันที่ 29 ส.ค.25 (มีกระแสข่าวนายกฯแพทองธารจะลาออกก่อนศาลฯตัดสิน)
• ตลาดหุ้นไทย : หุ้นที่น่าสนใจช่วงตลาดพักฐาน- Defensive Play- High Dividend Yield Play- Investment Play หุ้นเด่นเป็น ADVANC, TRUE, CPALL, COM7, CK, STECON, AMATA, WHA, SCB, KBANK, TTB, FTREIT

กลยุทธ์ : สัญญาณทางเทคนิคระยะสั้นเป็นลบ มีโอกาสแกว่งลงต่อ หรือดีสุดแกว่งตัวออกด้านข้าง...ดัชนีมีโอกาสถอยลงไปยังแนวรับ 1230, 1215-1210, 1200 ตามลำดับ ส่วนแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1250+/-, 1260-1270, 1280

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : COM7 – โดยปกติไตรมาส 3 เป็นช่วง low season แต่ในปีนี้มีโอกาสที่จะดีกว่าปกติ ผู้บริหารระบุว่ารายได้ใน 3Q25-QTD ยังแข็งแกร่งและเติบโต in line กับเป้าหมายที่ 10% ในปีนี้ โดยยอดขายสินค้าไอทียังไปได้ดี ยอดให้เช่ารถแท็กซี่ EV ดีกว่าคาด ด้าน UFund (ธุรกิจผ่อนชำระสินค้า) และธุรกิจ iCare Insurance เติบโตเร็ว คาดการณ์กำไรสุทธิปี 25F-26F ขยายตัว +17% และ +11% แนะนำ ซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 30 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829