สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (19 สิงหาคม 2568)-------- บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน เตรียมเปิด “เซ็นทรัล พาร์ค” ศูนย์การค้าลำดับที่ 43 พื้นที่อาคารรวม (GBA) 130,000 ตร.ม. เป็นส่วนหนึ่งของโครงการมิกซ์ยูสคุณภาพระดับโลก ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มูลค่าโครงการรวม 46,000 ล้านบาท ที่รวมศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม และที่พักอาศัย เพื่อปั้นแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ พลิกโฉมธุรกิจรีเทลด้วยแรงบันดาลใจจากภาพอนาคตของเมือง พร้อมเผยกลยุทธ์การสร้าง “ศูนย์การค้าแห่งอนาคต” รองรับไลฟ์สไตล์ใหม่ของคนเมืองครบทุกมิติที่สุด และยกระดับกรุงเทพฯ สู่มหานครระดับโลก เปิดเฟสแรก 4 ก.ย. 68 ภายใต้คอนเซปต์ ‘Here for all of you’ โดยแบรนด์ เซ็นทรัล พาร์ค ประกอบด้วย ศูนย์การค้า และอาคารสำนักงาน รับชมวิดีโอเซ็นทรัล พาร์ค คลิก: https://youtu.be/ZtPy9k4clqE
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า
“ตลอด 45 ปีที่ผ่านมา เซ็นทรัลพัฒนาได้สร้างปรากฏการณ์บุกเบิกวงการรีเทลมาอย่างต่อเนื่อง การเปิดตัวของศูนย์การค้า ‘เซ็นทรัล พาร์ค’ ในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่วงการรีเทลไทย พร้อมผลักดันศักยภาพกรุงเทพฯ ในการเป็นมหานครและเมืองน่าอยู่ระดับโลก โดยสืบสานความเป็น Legendary Landmark ของที่ดินผืนนี้ ที่ผสานพื้นที่สีเขียวกับวิถีชีวิตคนเมือง เช่นเดียวกับ Central Park ในนิวยอร์ก หรือ Hyde Park ในลอนดอน ภายใต้แนวคิด Design for the Future with Respect for Legacy ด้วยจุดแข็งในการ Integrate Park Life & Urban Life ที่ไม่เคยมีมาก่อน สร้าง Roof Park 7 ไร่ พื้นที่สีเขียวใจกลางเมือง ใหญ่ที่สุดในไทย เห็นวิวสวนแบบ 180 องศา เป็น Extension ของสวนลุมฯ บนพื้นที่กว่า 360 ไร่ สร้าง Sport & Well-being Lifestyle ให้ครบหลากหลายมิติ อีกทั้ง เป็น Mixed-use เดียว ที่อยู่บน Prestigious address และเป็น Super core CBD หนึ่งเดียวของกรุงเทพฯ การเดินทางที่สะดวกไร้รอยต่อ และเชื่อมโยงวัฒนธรรมและ City Soul ผ่าน Curated Happening ตลอดทั้งปี โดยตั้งเป้าดึงดูดคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกกว่า 25 ล้านคนต่อปี”
Central Park: ‘The Evolution of Retail Experiences’ พลิกโฉมวงการรีเทลไทย
คุณคุณายุธ เดชอุดม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสินทรัพย์ เซ็นทรัล พาร์ค บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เซ็นทรัล พาร์ค สร้าง ‘นิยามใหม่ของการใช้ชีวิต’ สู่การเป็น Curated Platform for Diverse Urban Communities สุนทรียภาพแห่งการใช้ชีวิตที่ถูกคัดสรรมาครบทุกมิติที่สุด อย่างไม่เคยมีมาก่อน เพราะอนาคตของชีวิตเมืองไม่ได้เป็นเพียง “พื้นที่” แต่คือ “พื้นที่ที่เข้าใจคนเมือง” ศูนย์การค้าจึงไม่ได้เป็นเพียง One-stop Shopping และ Lifestyle Destination เท่านั้น แต่เป็นการมอบ The Future of Lifestyle ที่หลากหลายและให้ความสำคัญกับ Well-being, Diversity, Community และ Sustainability ให้เกิดขึ้นจริงกับคนกรุงเทพฯ และเราพร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 4 ก.ย. 2568 นี้ ภายใต้คอนเซปต์ ‘Here for all of you’ โดยได้รวมที่สุดแห่งรสชาติระดับโลก เป็น Culinary Landmark แห่งใหม่ของเอเชีย สร้างวิถีชีวิตเมืองผ่านร้านอาหารระดับโลก กิจกรรมศิลปะและแฟชั่น และพื้นที่สำหรับ Curated Happening สร้างเทรนด์การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ๆ ตลอดปี”
แนวคิดการออกแบบผสานชีวิตเมืองกับธรรมชาติอย่างกลมกลืนนี้ สะท้อน The Future of Lifestyle ที่ครบมิติ สมดุลและยั่งยืน โดยมี People of Central Park เป็นแรงบันดาลใจ ทำให้เราสร้างพื้นที่ที่เชื่อมต่อชีวิตทุกช่วงเวลา ตั้งแต่เช้าวิ่งที่สวนลุม แวะจิบกาแฟบน Roof Park พักกลางวันกับ Michelin Guide ช่วงบ่ายที่ Take Home Zone และปิดท้ายด้วย Rooftop Bar กับเพื่อน ทั้งหมดนี้คือวิสัยทัศน์ในการสร้างศูนย์การค้าที่เติบโตไปพร้อมกับเมือง และเป็นต้นแบบของชีวิตเมืองในอนาคต”
เผย 4 ไฮไลต์ เซ็นทรัล พาร์ค ตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพฯ
1. Nature พื้นที่สีเขียวที่มีชีวิตแห่งใหม่ใจกลางเมือง ด้วย Roof Park สวนลอยฟ้า 7 ไร่ ใหญ่ที่สุดในไทย ที่เชื่อมทุกยูสของโครงการ ทั้งศูนย์การค้า ออฟฟิศ โรงแรม และที่พักอาศัยอย่างแท้จริง ออกแบบเพื่อตอบเทรนด์ชีวิตเมืองในอนาคต ทั้ง Well-being, Longevity และการใช้ชีวิตอย่างสมดุล พร้อมจุดเด่นอย่าง Infinity Skyline จุดชมวิวพาโนรามาเส้นขอบฟ้ากรุงเทพฯ, Natural Walk Trail เส้นทางเดินออกกำลังกาย 750 เมตร, Kids Park, Pets Park, Amphitheatre สำหรับกิจกรรมชุมชน และ Happening ด้าน Art & Culture ที่สร้างสีสันให้ชีวิตเมือง
2. Connectivity เชื่อม 4 ย่านเศรษฐกิจสำคัญบนทำเล Prestigious Address หัวมุมถนนสีลมและพระราม 4 ใจกลาง Super Core CBD ที่รวมเมืองเก่าและเมืองใหม่เข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน เป็นจุดบรรจบของ 4 ย่านหลัก ได้แก่ CBD ดั้งเดิมของไทย คือ สีลม สาทร, New CBD และ Embassy Zone คือ สุขุมวิท เพลินจิต ราชประสงค์ Creative District & Riverside คือ เจริญกรุง และ Cultural Core & Chinatown หรือ เยาวราช เดินทางสะดวกที่สุดด้วยการเชื่อมต่อ BTS - MRT - Skywalk รองรับ Commuter กว่า 70,000 คนต่อวัน หรือมากกว่า 25 ล้านคนต่อปี
Central Park Offices พื้นที่แห่งอนาคตเพื่อคนทำงานยุคใหม่
ออกแบบเพื่อคนทำงานยุคใหม่ที่ต้องการ Future Work-Life Balance อย่างแท้จริง พัฒนาภายใต้มาตรฐานระดับโลกทั้ง WELL, LEED และ Wired Score ตอบโจทย์ทั้งบริษัทระดับโลกและคนรุ่นใหม่ที่มองหาพื้นที่ทำงานเชื่อมกับไลฟ์สไตล์ พร้อมวิวจากออฟฟิศที่ดีที่สุดในประเทศไทย ที่มองเห็นทั้ง Roof Park และมหานครกรุงเทพฯ แบบพาโนรามา อาคารสำนักงานสูง 43 ชั้น บนพื้นที่อาคาร (GBA) 130,000 ตร.ม. ถือเป็นอาคารแห่งที่ 11 ของเซ็นทรัลพัฒนาที่ดีที่สุดและครบวงจรที่สุด
3. Culture สะท้อนวิถีชีวิตเมืองแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ผ่าน Curated Experiences ที่โอบรับความหลากหลาย (Diversity) และตอบโจทย์ผู้คนทุกเจนเนอเรชัน บนพื้นที่ศูนย์การค้า GBA กว่า 130,000 ตร.ม. รวมแบรนด์ดังกว่า 550 แบรนด์ ยกระดับเป็น Culinary Landmark แห่งเอเชีย ที่รวมที่สุดแห่งรสชาติจากทั่วโลกไว้ในที่เดียว
• First-time in Thailand ร้านดังครั้งแรกในเมืองไทย เช่น คิวามิยะ ร้านเทปันยากิที่มีสเต็กวากิว ต้นตำรับจากญี่ปุ่น, โควไบ พรีเมียมชาบู, Long Jing อาหารจีนฟิวชันจากหางโจว, Super Matcha ชาเขียวพรีเมียมสุดฮิตจากเกาหลี, CHEONGDAM GARDEN (KOREAN GRILL) เป็นต้น
• ร้านดังคอนเซ็ปต์ใหม่ อาทิ MAGURO KAPPOU, GRILL YAMAYA, SUN MOULIN, CHAGEE, BAR B Q PLAZA, NOSE TEA, CHONGDEE, KOI THE’, POTATO CORNER SHAKES & FRIES, CHA TRA MUE, KAO SOY PRIN, MENSHO, TP TEA, สมานฉันท์
• ร้านดังคิวยาว อาทิ HIKINIKU TO COME, KATSU MIDORI, SHABU BARU, FORTUNE COOKIE EXPRESS, KAM’S ROAST, BEAUTY IN THE POT, KATSUKURA, อีกา, UNATOTO, SALADSTOP!, คำพูน, PRIME BURGER, OMAKASE DON, MOZZA BY COCOTTE, NAPHA, WHITE STORY เป็นต้น
• แบรนด์อาหารดังมายก Group อาทิ เครือไอเบอรี่กรุ๊ป: บุรามาลี ร้านอาหารไทยในโรงน้ำชา, โต๊ะคิม, ทองสมิทธ์, ฟ้าปลาทาน, MAISON RORU, Maguro Group: KIWAMIYA, MAGURO KAPPOU, HITORI SHABU, Meation Group: SAEMAEUL EXPRESS, BHC CHICKEN, SOLSOT
• รวม Michelin Guide และสตรีทฟู้ด 70 ร้านดัง กว่า 1,000 เมนู เยอะที่สุดในกรุงเทพฯ – ที่ชั้น LG Parkside Market - Food destination concept ใหม่ อาทิ เบญจรงค์ปาย, ก๋วยเตี๋ยวอัญชัน, ขาหมูโบราณกะทู้ ภูเก็ต, ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกคุณประนอม, ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อตุ๋น - หมูตุ๋น ราชารส, นายอ้วนเย็นตาโฟบะเต็งเสาชิงช้า, ราดหน้ายอดผักสูตร 40ปี (ศาลเจ้าพ่อเสือ), ข้าวมันไก่โกยี, สุกี้เมาเวอริค, หมี่บ้านเอง by บ้านนอกเข้ากรุง, คนชง คนปรุง, เกตุโอชา, เปลว ก๋วยเตี๋ยวต้มยำโบราณนครปฐม, แอน ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่, อองตองข้าวซอย, กล้วยทอดพระราม5, ขนมเบื้องหวานผึ้งน้อย เป็นต้น
• Coffee Tea & Sweet Lover กว่า 50 แบรนด์ดัง อาทิ % ARABICA, 32BAR X, BEANS COFFEE ROASTER, BOTTOMLESS COFFEE ROASTERS, BOOST JUICE, BRASSICA DOUGHNUTS, BRIOCHE FROM HEAVEN, CHA TRA MUE, CHAGEE, CHONGDEE, CIOCCOLATITALIANI, SOURI x COSIE , CULT SMOOTHIE BAR, ERIC KAYSER X ANONYMOUS COFFEE, EVIE’S COOKIE, FASTFOOT, GOOD CHOOSE LEMONADE, HATCH BY HAAB, JÉRÔME CHEESECAKE, KAEW BOUTIQUE, KAO NOM, KIKI MATCHA, KOI THE, KSANA MATCHA, MATCHA EKI, MOLLY TEA, NOSE TEA, ONIBUS, PASH, PRALET, RAWMAT COFFEE, RINTARO, RISE COFFEE, SCRUMP GELATO, SOFT SPOT, STARBUCKS, THE ROLLING PIN, THE SUMMER COFFEE, VE/LA, YOLE, YOLK, ZUS COFFEE เป็นต้น
• พร้อมด้วย TOPS FOOD HALL ซูเปอร์มาร์เก็ต ที่เปิดให้บริการ 8.00 – 22.00 น., Take Home Zone รวมของอร่อยย่านดังในที่เดียว ในรูปแบบ Grab & Go
สำหรับแบรนด์แฟชั่น และไลฟ์ไสไตล์ดังมากมายจากทั่วโลก นำโดยแบรนด์แฟชั่นระดับโลกของ Inditex group ทยอยเปิดแบรนด์ในเครือตั้งแต่สิ้นปี 68 เป็นต้นไป อาทิ ZARA, BERSHKA, OYSHO, PULL & BEAR พร้อมด้วย Prestige Cosmetic Brands อาทิ BURBERRY, CLE DE PEAU BEAUTE, GUCCI BEAUTY, KIEHL’S, JUNG SAEM MOOL, LANCOME, NARS, YSL BEAUTY และแบรนด์ดังอีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังมี High-Street & Bridge-Line Brands และ Sport Destination ที่แบรนด์ดังระดับโลกมาครบครัน ไม่ว่าจะเป็น First-time in Thailand ครั้งแรกในเมืองไทย อาทิ ADIDAS KIDS, IC! BERLIN, ICEBREAKER , FELLOW, LIVE!, SUNNIES WORLD, VIVAIA รวมทั้งแบรนด์ดังอีกมากมาย อาทิ ACME DE LA VIE, ADIDAS ORIGINALS, ALTRA, ANANTA, ASICS, B SA B, BATH & BLOOM, BEAUTRIUM, BENEUNDER, BIRKENSTOCK, BOYY, BONAVENTURA, CALVIN KLEIN, CHAMPION, COCCINELLE, COLE HAAN, COLUMBIA, COMMA &ND, CONTAINER, CRASH BAGGAGE, CRITICAL SLIDE, CROCS, DIVANA, DONNA CHANG, DYSON, GARMIN, HERSCHEL, HUG CRAFT, JD SPORTS, JIM THOMPSON, JOURNAL, KIRSH, LACOSTE, LOJEL, MARIMEKKO, MARITHÉ FRANÇOIS GIRBAUD, MARC JACOBS, MLAB, NATIONAL GEOGRAPHIC, NEW BALANCE, NEW ERA, NIKE, OAKLEY, ONITSUKA TIGER, ORI, PANDORA, PANPURI, PAUL SMITH, POLO RALPH LAUREN, POP MART, PUMA, RADO, RNG, SALOMON, SEPHORA, SKINLAB, SKONX, SMILEY, SMILEYHOUND, SPORTY & RICH , STANLEY, SWAROVSKI, THE ADJECTIVE, THE NORTH FACE, THE RECRAFTING, THULE, TIMBERLAND, TOMMY HILFIGER, TOPOLOGIE, TORY BURCH, TROPICFEEL, UNIQLO, WILSON, VICTORIA’S SECRET, VICTORINOX, YUGEN เป็นต้น
Lifestyle & Technology
APEX WELLNESS, ASIA BOOKS, BANANA, FELIZIA NAILS SPA & BEAUTY, JUNO HAIR, LET’S RELAX/STRETCH ME, M-SO CLINIC, MATSUKIYO, SAMSUNG, STUDIO 7, THE KLINIQUE WELLNESS CENTER, THE TOUCH WELLNESS, TRSC X BETTER VISION, TRUE/TRUESPHERE, WATSONS, XIAOMI, AIS / AIS SERENADE
เตรียมพบงานฉลองเปิดเต็มรูปแบบ ‘Here for Celebration’ ในเดือนพฤศจิกายน 2568 แบรนด์ดังทยอยเปิดตัวอีกมากมาย พร้อมด้วย The Glass House - Fine-Casual Dining บนสวนลอยฟ้า วิวสวนพาโนรามิกที่สวยที่สุด พบกันปลายปีนี้
สำหรับไฮไลต์กิจกรรมในวันที่ 4 ก.ย. นี้ เปิดโลกของ ‘Culture’ พบ Edible Exhibition ที่เปลี่ยนตึก Central Park ให้กลายเป็นนิทรรศการศิลปะกินได้ และ Neighborhood Soul - Line up happening ตลอดทั้งปีร่วมกับศิลปิน ชุมชน และแบรนด์ นอกจากนี้ ยังมีไฮไลต์ด้าน Wellness Curate Experiences อาทิ Vinyl Cardio เทรนด์ออกกำลังกายรูปแบบใหม่บน Roof Park ผสานเสียงเพลงจากดีเจชั้นนำ, Run Club Exercise คอลแลบกับ Run club ชื่อดัง สร้าง Running Routine ใหม่ทั้งแบบ Vertical และ Horizontal, Swing Rave การออกกำลังกายตอนเช้าพร้อมเพลง Swing และ Coffee Culture: Sunrise Coffee & Tea Rave ปาร์ตี้กาแฟ-ชา บน Roof Park พร้อมวิวพาโนรามา
เตรียมพบกิจกรรมที่ได้แรงบันดาลใจจากย่าน อาทิ “Neighborhood Soul” นำร้านดังในย่านมาคอลแลบกับร้านค้าในศูนย์ฯ สร้างประสบการณ์อาหารรูปแบบใหม่ สนับสนุนความยั่งยืนของชุมชนและสร้างความผูกพันกับพื้นที่โดยรอบ พร้อม Exclusive Privilege มอบส่วนลดพิเศษจากร้านค้าในศูนย์ฯ สำหรับคอมมูนิตี้ภายใต้แคมเปญ “Hello Neighbor!” ทั้งพนักงานออฟฟิศและผู้อยู่อาศัยในย่าน ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล โรงเรียน และผู้ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ BTS, MRT
4. Sustainability & Design for the Next generation เชื่อมชีวิตเมืองกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน เป็น Landmark ที่จะอยู่กับกรุงเทพฯ ไปอีกหลายรุ่น ออกแบบให้ยืดหยุ่นต่ออนาคต รองรับวิถีชีวิตเมือง โดยพื้นที่ทั้ง 4 ยูส — ศูนย์การค้า โรงแรม ออฟฟิศ และเรสซิเดนซ์ — เชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวทั้งหมด รวมถึง Roof Park ขนาด 7 ไร่ ที่ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 11 ตันต่อปี เทียบเท่าต้นไม้ใหญ่ 900 ต้น* พร้อม Central Park Offices ต้นแบบออฟฟิศ Next Gen และ Green Building มาตรฐานระดับโลก ดีไซน์เพื่อความยั่งยืน นอกจากนี้ เซ็นทรัล ฟู้ด ร่วมกับ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ทำผ้ากันเปื้อนรักษ์โลกจากขวดพลาสติกใช้แล้ว 4 ขวดต่อผืน นำมาใช้ที่ PARKSIDE MARKET เป็นแห่งแรก เพื่อร่วมกันลดขยะพลาสติกและสร้างสังคมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ด้านงานดีไซน์ ยังคง Legacy ของดุสิต โดยได้นำ Podium มาพัฒนาเป็น Façade ที่สะท้อน Heritage ผ่านทุกดีเทล ใช้โทนสี “3 กษัตริย์” - เงิน ทอง และคอปเปอร์ - แทนความหมายของโรงแรม ออฟฟิศ และเรสซิเดนซ์ Façade โค้งและคลื่น เพิ่มมิติด้วย Void พร้อมจอ LED digital curved ขนาดใหญ่กว่า 518 ตร.ม. รองรับคอนเทนต์ 3D ด้วย Visual Impact ที่ดึงดูดสายตากว่า 8 ล้านคู่ต่อวัน กลายเป็นจุด Landmark ใหม่ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
Central Park พร้อมพลิกโฉมค้าปลีกไทย ปั้นกรุงเทพฯสู่มหานครระดับโลก พร้อมเปิดให้บริการ “Here for all of you” 4 กันยายน 2568 และเตรียมพบงานฉลองเปิดเต็มรูปแบบ ‘Here for Celebration’ ในเดือนพฤศจิกายน 2568