Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

447

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 18 ส.ค.68 ปิด -17.11 จุด อยู่ที่ 1,242.31 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,299 ลบ. สถาบันขาย 2,919 ลบ. ต่างชาติขาย 644 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 205 ลบ. และรายย่อยซื้อ 769 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 618 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น SCC,KTB,BH,HMPRO,DELTA และยอดขายหุ้น PTT,THAI,CPALL,CPF,SAWAD มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,837 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ CN01,TDEX,HMPRO โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 3,712 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 108,142 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,002 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ -0.08%, S&P500 -0.01%, Nasdaq +0.03% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอุต ฯ +0.4%, สินค้าฟุ่มเฟือย +0.38% ขณะที่กลุ่มอสังหาฯ -0.95%, บริการสื่อสาร -0.7% หลังยังไม่มีข้อสรุปของการเจรจาระหว่าง ปธน.ทรัมป์ & เซเลนสกี ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.08% ได้แรงหนุนจากกลุ่มการบิน & กลาโหม +0.7% ขณะที่กลุ่มเหมืองแร่ -1.6%, ธนาคาร -0.5% รอผลการประชุม ธ.กลางที่แจ๊คสัน โฮล
  • Market View
  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปิดทรงตัว หลังผลการเจรจาระหว่าง ปธน.ทรัมป์ & เซเลนสกี ในประเด็นข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย – ยูเครน ยังไม่มีข้อสรุป โดยยังรอการนัดเจรจา 3 ฝ่าย ระหว่าง ปธน.ทรัมป์, ปูติน และเซเลนสกีอีกครั้ง โดยนักลงทุนรอรายงานผลประกอบการของบริษัทค้าปลีก เช่น Walmart, Home Depot, Target เพื่อประเมินกำลังซื้อของผู้บริโภคสหรัฐ ว่าจะได้รับผลกระทบจาก ม.ภาษีมากน้อยอย่างไร ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ NAHB Housing Market Index ส.ค. ปรับลดลงอยู่ที่ 32 & คาด 34 และรอผลการประชุม ธ.กลางที่แจ๊คสัน โฮล วันที่ 21 – 23 ส.ค. รวมถึงถ้อยแถลงของพาวเวล ในวันที่ 22 ส.ค. เพื่อจับสัญญาณดอกเบี้ยสหรัฐ
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิดทรง หลังยังไม่มีข้อสรุปของการเจรจาระหว่าง ปธน.ทรัมป์ & เซเลนสกี โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสุขภาพ +1.4% นำโดย Novo Nordisk +6.6% หลังเสนอขายยารักษาเบาหวาน Ozempic ที่ราคา $499/เดือนแก่ผู้ป่วยที่สิทธิ์ในสหรัฐ และกลุ่มพลังงานทดแทน Vestar ของเดนมาร์ก +15% หลังสหรัฐออกแนวทางคุณสมบัติสำหรับการรับเงินอุดหนุนพลังงานลมและแสงอาทิตย์ ส่วนข้อมูลเศรฐกิจสัปดาห์นี้ติดตาม PMI ภาคผลิต & บริการยูโรโซน ส.ค., CPI ยูโรโซน & อังกฤษ ก.ค.
  • ตลาดหุ้นเอเขียวานนี้ปรับขึ้น นำโดยนิเกอิ +0.77% ทำจุดสูงสุดใหม่ จากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.85% หลังสหรัฐได้ผ่อนคลาย ม.ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนออกไป 90 วัน โดยยังรอการเจรจาระหว่าง ปธน.สหรัฐ - จีน ในช่วง 2 – 3 เดือน เพื่อทำข้อตกลงการค้า ขณะที่ดัชนี Kospi เกาหลีใต้ -1.5% จากแรงขายหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิป จากความกังวลสหรัฐอาจเก็บภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจวันพุธ ติดตาม LPR ของจีน , วันศุกร์ CPI ญี่ปุ่น ก.ค.
  • SET -1.36% ปริมาณการซื้อขาย 92 หมื่น ลบ. สถาบันขาย 2,919 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 205 ลบ. ต่างชาติขาย 644 ลบ. และรายย่อยซื้อ 3,769 ลบ.โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มขนส่ง -6.08% นำโดย THAI -13.3% หลัง Valuation ของหุ้นอยู่ในโซนแพงเมื่อเทียบกับกลุ่มสายการบินอื่น ๆ ขณะที่ AOT -3.2% หลังสภาพัฒน์ได้ปรับลดคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ลงอยู่ที่ 33 ล.คน & เดิมคาดที่ 37 ล.คน ส่วนกลุ่มไฟแนนท์, อสังหา ฯ ก็ถูกแรงขายทำกำไร หลังสัปดาห์ก่อนได้ปรับขึ้นรับข่าว กนง.ลดดอกเบี้ยลง 0.25% โดยภาพรวมดัชนี SET ยังขาดปัจจัยบวกใหม่หนุนตลาด และรอผลการเจรจาข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซีย – ยูเครน และรอถ้อยแถลงของ ปธ.เฟดในการประชุมแจ๊คสัน โฮลในช่วงค่ำวันที่ 22 ส.ค. ว่าจะส่งสัญญาณลดอกเบี้ยใน ก.ย. ตามที่ตลาดคาดไว้หรือไม่ ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศก็เข้ามากดดันดัชนี โดยวันที่ 22 ส.ค. ศาลอาญานัดฟังคำตัดสินคดี 112 ของคุณทักษิณ และวันที่ 29 ส.ค. ศาล รธน.นัดฟังคำตัดสินคดีคลิปเสี่ยงนายก ฯ ในประเด็นฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,230 – 1,240 แนวต้าน 1,250 – 1,260 คาดดัชนีมีโอกาสทรงตัว ระหว่างผลการประชุม ธ.กลางที่แจ๊คสัน โฮล ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยหรือไม่ และรอคำวินิจฉัยคดี 112 ของคุณทักษิณ, คดีคลิปเสียงนายก ฯ ดังนั้นจึงแนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว เช่น GULF,GPSC,SAWAD,TIDLOR,TCAP ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง/ เก็งกำไร CENTEL,ERW,MINT,CRC หลัง ก.คลังเปิดโครงการ Tourist Digiplay ให้สิทธิต่างชาตินำสินทรัพย์ดิจิทัล แลกเงินบาทไม่เกิน 5 แสนบาท/เดือน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย
  • BPP* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.65 บาท) บริษัทรายงานกำไร 2Q68 อยู่ที่ 3 พันล้านบาท -122%QoQ, +30%YoY มีปัจจัยหนุนจากส่วนแบ่งกำไรโรงไฟฟ้า HPC และ BLCP ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากไม่มีหยุดซ่อมตามแผน ส่วนใน 3Q68 คาดกำไรยังอยู่ในเกณฑ์ดีแม้ผ่าน Peak season ของการใช้ไฟฟ้าในไทย แต่คาดว่าจะได้แรงหนุนจากโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ที่เข้าสู่ช่วงฤดูร้อนซึ่งในรัฐ ส่งผลบวกต่อปริมาณขายไฟฟ้าและค่าไฟฟ้าของ Temple I & II ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์กำไรในปี 68 ไว้ที่ 3.7 พันล้านบาท +117%YoY
  • ADVICE* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 6.40 บาท) กลุ่มสินค้าไอมี Demand จากการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ให้ทันกับเทคโนโลยี(เช่น AI PC) รวมถึงการใช้งาน cloud/อุปกรณ์IoT ที่แพร่หลายขึ้น ด้าน ADVICE* เองรายงานกำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 75 ลบ.(+23%YoY, +18%QoQ) SSSG +21.84%YoY มีแรงหนุนจากกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟน ทั้งนี้ ทางผู้บริหารวางเป้ารายได้ปีนี้ +20%YoY ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากสมาร์ทโฟนเป็น 50% ภายในปี70 (ปัจจุบัน 25%) ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ ADVICE* จะอยู่ที่ระดับ 268 ลบ.(+15%YoY) และ 311 ลบ.(+16%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ก.ย.+$0.62 อยู่ที่ $63.42 / บาร์เรล, Brent ต.ค. +$0.75 อยู่ที่ $66.60/บาร์เรล ยังไม่มีข้อสรุปผลการเจรจาระหว่าง ปธน.ทรัมป์ & เซเลนสกี ขณะที่ยูเครนได้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซียทางภูมิภาคตัมบอฟของรัสเซีย ทำให้การจ่ายน้ำมันผ่านท่อส่งต้องหยุด ส่วนค่ำวันนี้รอ API รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค.-$4.60 อยู่ที่ $3,378.00 /ออนซ์ ถูกกดดันจาก Dollar Index แข็งค่า +0.32% อยู่ที่ 98.167 และรอผลการเจรจาระหว่าง ปธน.ทรัมป์ & เซเลนสกี รวมถึงผลการประชุมที่แจ็กสัน โฮลในวันที่ 21 – 23 ส.ค.

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -6.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -19.84 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +13.4 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าอยู่ที่ 32.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.331 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -22 จุด อยู่ที่ 2,022

(+) BitCoin เช้านี้ +0.27% อยู่ที่ 116,621 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

18 ส.ค.     สภาพัฒน์ แถลง GDP ไตรมาส 2/68

19 ส.ค.     ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม  

27 ส.ค.     รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ฉบับย่อ

29 ส.ค.     ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สัปดาห์ที5 สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

 

ต่างประเทศ

20 ส.ค.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ก.ค.)

21 ส.ค.     US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US รายงานการประชุมของ FOMC 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ส.ค.) 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ส.ค.) 

                US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( ก.ค.)

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง,  Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง    

 

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

 

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

 

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

 

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

 

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

 

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio August 2025: KLINIQ, CPN*, PTTGC*, GULF*, TIDLOR*

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้