สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 18 สิงหาคม 2568 )-----   โรงพยาบาลราชธานี  (RJH)   เผยไตรมาส2/68 มีกำไรสุทธิ 60 ล้านบาท รายได้รวมจากกิจการโรงพยาบาล  666.14 ล้านบาท  พร้อมปันผลระหว่างกาลอัตรา  0.25  บาทต่อหุ้น 




นายแพทย์ สุรินทร์ ประสิทธิ์หิรัญ  กรรมการผู้จัดการ     บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน)  RJH   ไตรมาส2/68 เปิดเผยว่า    บริษัทฯ  มีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 60 ล้านบาท โดยมีค่าใช้จ่ายทางภาษีอยู่ที่ประมาณ 19.82 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 8.8% ใกล้เคียงกับไตรมาสที่แล้วถึงแม้ไตรมาสนี้จะเป็นช่วงเวลาที่มีจำนวนคนไข้น้อย เนื่องจากมีเทศกาลและวันหยุดมาก 
   

ในส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (“EBITDA” ไม่รวมรายได้อื่น) สำหรับไตรมาสนี้นั้นอยู่ที่ 128.77 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสที่แล้ว แต่ลดลง 38% จากปีที่แล้ว เนื่องมาจากรายได้ประกันสังคมที่ลดลง และต้นทุนที่เพิ่มขึ้น จากโรงพยาบาลเปิดใหม่ 


ด้าน รายได้รวมจากกิจการโรงพยาบาลในไตรมาสที่2/68  อยู่ที่ 666.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 2% จากไตรมาสที่แล้ว แต่ลดลง 4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน


 ในส่วนของรายได้จากกลุ่มที่ไม่ใช่ประกันสังคมอยู่ที่ 372.94 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 56% ของรายได้รวมลดลง เล็กน้อยจากไตรมาสที่หนึ่ง แต่เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนของผู้ป่วยนอกเติบโตขึ้นเนื่องจากการระบาดของโรคโค วิด-19 ในไตรมาสนี้ แต่ผู้ป่วยในลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว รายได้ในส่วนผู้ป่วยนอกที่ไม่ใช่ประกันสังคมอยู่ที่ 188 ล้านบาท เติบโตขึ้นเล็กน้อย ประมาณ 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว แต่เติบโต 15% yoy ในส่วนของรายได้ผู้ป่วยในอยู่ที่ 185 ล้านบาท ลดลงจาก 195 ล้านบาทในไตรมาสที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้นจาก 176 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จ านวนผู้ป่วยนอกรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 2% จากไตรมาสที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของคนไข้ที่โรงพยาบาลราชธานี หนองแค จำนวนผู้ป่วยนอกที่ไม่ใช่สิทธิประกันสังคมที่โรงพยาบาลราชธานีหนองแคเพิ่มขึ้นประมาณ 42% qoq อย่างไรก็ตาม รายได้ต่อผู้ป่วยนอกไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก อยู่ที่ประมาณ 2,110 บาทต่อคน 


ส่วนจำนวนวันนอนของผู้ป่วยในในไตรมาสนี้ลดลงจากไตรมาสที่แล้วเหลือ 7,900 วัน และมีรายได้ต่อวันนอนที่ เพิ่มขึ้น 6% จาก 21,900 บาทเป็น 23,300 บาท อัตราครองเตียงเฉลี่ยในไตรมาสนี้อยู่ที่ 53% ลดลงจาก 56.4% ในไตรมาสที่ แล้ว 

ในส่วนของรายได้ประกันสังคมอยู่ที่ 293 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสที่แล้ว แต่ลดลง 17% เมื่อเทียบกับปี ก่อน จำนวนผู้ประกันตนเฉลี่ยของกลุ่มอยู่ที่ประมาณ 230,000 ราย เพิ่มขึ้น 3% qoq และ 8% yoy ในไตรมาสนี้ โรงพยาบาลราชธานีมีรายได้ในส่วนโครงการ SSO 515 ที่ประมาณ 27.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว แต่ลดลงจากปีที่ แล้วที่มีรายได้ประมาณ 30 ล้านบาท นอกจากนี้ ในปีที่แล้วนั้น มีการผ่าตัดกระเพาะในส่วนผู้ป่วยโรคอ้วนทุพพลภาพมากกว่า ในไตรมาสนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการลดลงของรายได้ประกันสังคม  

ในส่วนของรายได้อื่น กลุ่มบริษัทมีรายได้อื่นอยู่ที่ประมาณ 13.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 5.63 ล้านบาทในไตรมาสที่ แล้ว และจาก 11 ล้านในปีที่ผ่านมา 

ข้อมูลที่สำคัญ
 - โครงการ SSO 515 ซึ่งมีอัตราจ่ายที่แต้มละ 15,000 บาท ได้กลับมาเริ่มโครงการใหม่อีกครั้งในไตรมาสนี้ หลังจากที่หยุดการดำเนินโครงการไปในไตรมาสที่แล้ว ทางโรงพยาบาลราชธานีเป็นคู่สัญญาในกลุ่มการ รักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด และมีการบันทึกรายได้จากโครงการนี้ในไตรมาสนี้ 

 -เริ่มมีการผ่าตัดกระเพาะสำหรับกลุ่มผู้ป่วยโรคอ้วนทุพพลภาพสิทธิประกันสังคมส าหรับผู้ป่วยที่เข้าร่วม โครงการครบ 6 เดือนและได้รับการอนุมัติการผ่าตัด การผ่าตัดผู้ป่วยสิทธิเงินสดดำเนินการตามปรกติ 

 -มีการระบาดของโรคโควิด-19 ในไตรมาสนี้ ทำให้มีผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโรคโควิด-19 ได้รับการประกาศเป็นโรคประจ าถิ่น จึงทำให้การรักษาส่วนใหญ่เป็นการรักษาแบบผู้ป่วยนอก 

 - โรงพยาบาลราชธานี หนองแค มีการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเติบโตกว่า 78% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว  และมีผลขาดทุนที่น้อยลงประมาณ 27% โรงพยาบาลราชธานีหนองแคเปิดดำเนินการมาเป็นไตรมาสที่ สามในไตรมาสนี้ และเริ่มเปิดรับคนไข้ประกันสังคมมาได้สองไตรมาส  

 -ในส่วนของโรงพยาบาลรังสีรักษาราชธานี หลังจากที่มีกำไรสุทธิเป็นบวกเป็นครั้งแรกในไตรมาสที่แล้วหลัง เปิดดำเนินการมาหนึ่งปี ในไตรมาสนี้กำไรสุทธิเติบโตเพิ่มขึ้น 53.6% qoq 

 -รายได้การรักษากลุ่มโรคซับซ้อน(Adj.RW>2) ในกลุ่มคนไข้ประกันสังคมยังคงรับรู้รายได้ที่แต้มละ 12,000 บาทและคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในอัตรานี้ตลอดปี 

 -ทางกลุ่มบริษัทรับรู้รายได้ในส่วนของภาระเสี่ยงจากสิทธิประกันสังคมในไตรมาสนี้ และมีการรับรู้รายได้ พิเศษที่ 2.8 ล้านบาท ในขณะที่ปีที่แล้วรับรู้ในไตรมาสสาม และมีการรับรู้รายได้พิเศษจากกลุ่ม UCEP โค วิด-19 ที่ 0.5 ล้านบาท รวมรายได้พิเศษในไตรมาสนี้ที่ 3.4 ล้านบาท นอกจากนี้ มีรายการปรับปรุงอีก 0.9 ล้านบาท จากการบันทึกรายได้ที่สูงไปของปีที่แล้ว 



พร้อมกันนี้ คณะกรรมการมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (  งวดดำเนินงานวันที่ 01 ม.ค. 2568 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2568)  ในอัตรา  0.25  บาทต่อหุ้น  โดยจะขึ้นเครื่องหมายวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 26 ส.ค. 68  มีกำหนดจ่ายวันที่  9 ก.ย. 2568



 

///จบ///