Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

85

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 15 ส.ค.68 ปิด -7.25 จุด อยู่ที่ 1,259.42 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,320 ลบ. สถาบันขาย 2,005 ลบ. ต่างชาติขาย 558 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 465 ลบ. และรายย่อยซื้อ 098 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 47 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น SCC,CRC,TFG,TIDLOR,KKP และยอดขายหุ้น BDMS,THAI,CPALL,PTT,DELTA มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,153 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ LVMH01,TDEX,CPAXT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 854 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 111,854 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 2,261 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ +0.08%, S&P500 -0.29%, Nasdaq -0.40% ได้แรงหนุนกลุ่มบริการสุขภาพ +1.65% นำโดย UnitedHealth +12% หลัง Berkshire Hathaway ของวอร์เรน บัพเฟตต์เข้าลงทุน ขณะที่ Intel +2.9% รับข่าวรัฐบาลสหรัฐจะเข้าลงทุนในบริษัท ขณะที่ ม.มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เบื้องต้น ส.ค. อยู่ที่ 2 & ก.ค. 56.5 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.06% จากแรงขายกลุ่มป้องกันประเทศ -0.8%, เทคโนโลยี -0.6% และเหมืองแร่ -0.8% รอผลหารือระหว่าง ปธน.ทรัมป์ & ปูติน ต่อประเด็นข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย - ยูเครน
  • Market View
  • DJIA +1.74%, S&P500 +0.94%, Nasdaq +0.81% WoW แม้ว่าข้อมูล US PPI ก.ค.อยู่ที่ 3.3% & มิ.ย. 2.4% & คาด 2.5% YoY บ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อจากฝั่งผู้ผลิตปรับสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก ม.ภาษีของทรัมป์ อย่างไรก็ตาม CME FedWatch ยังชี้มีโอกาส 91% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. สาเหตุมาจากตลาดแรงงานที่สัญญาณชะลอตัว โดยนักลงทุนรอผลการเจรจาระหว่าง ปธน.ทรัมป์ & ปูติน ในประเด็นข้อตกลงสันติภาพในยูเครน ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป โดยยังต้องรอการตัดสินใจของ ปธน.เซเลนสกี กับ NATO อีกครั้ง สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล US PMI ภาคผลิต & บริการ ส.ค., ยอดขายบ้านใหม่ & มือสองสหรัฐ ก.ค., Fed Minutes ก.ค. และการประชุม Jackson Hole วันที่ 21 – 23 ส.ค. โดย ปธน.เฟดจะแถลงในวันศุกร์นี้
  • Stoxx600 ยุโรป+2% WoW หลังข้อมูล GDP ยูโรโซน Q2/68 +1.4% & Q1/68 +1.5% YoY ซึ่งเป็นไปตามคาดการร์ กอปร CPI เยอรมัน ก.ค. ชะลอตัวอยู่ที่ 1.8% & มิ.ย. 2.0% YoY โดยดัชนีหุ้นยุโรปยังได้ปัจจัยหนุนจากคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. และช่วงค่ำวันนี้ติดตามผลการประชุมระหว่าง ปธน.ทรัมป์ & เซเลนสกีและผู้นำยุโรปต่อข้อเสนอของรัสเซีย เพื่อยุติสงครามในยูเครน สัปดาห์นี้ติดตาม PMI ภาคการผลิต & บริการยูโรโซน ส.ค., CPI ยูโรโซน & อังกฤษ ก.ค.
  • MSCI Asia Pacific Index +2.4% WoW นำโดยนิเกอิ +3.7% WoW ได้ปัจจัยหนุนจาก GDP ญี่ปุ่น Q2/68 +1.0% & Q1/68 +0.6% สูงกว่าคาด +0.4% YoY ช่วยความกังวลจาก ม.ภาษีของสหรัฐ ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +1.7% WoW หลังรัฐบาลจีนเตรียมออก ม.อุดหนุนดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับประชาชน 3,000 หยวน/ราย/สถาบัน โดยนักลงทุนรอการหารือระหว่าง ปธน.ทรัมป์ & สี จิ้นผิง ในช่วง 2 – 3 เดือนข้างหน้า เพื่อทำข้อตกลงการค้า สัปดาห์นี้วันพุธติดตามอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน , วันศุกร์ CPI ญี่ปุ่น ก.ค.
  • SET +0.03% WoW ปริมาณการซื้อขาย/วัน 84 หมื่น ลบ. +6.5% WoW สถาบันซื้อ 3,227 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 910 ลบ. รายย่อยซื้อ 3,627 ลบ. และต่างชาติขาย 7,764 ลบ. ได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ +3.4% WoW ที่ปรับขึ้นตาม Nasdaq จากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ก.ย. กอปรสหรัฐได้ผ่อนผันให้ Nvidia, AMD สามารถส่งออกชิปไปตลาดจีน ขณะที่กลุ่มอสังหาฯ +2.9%, ไฟแนนท์ +1.1% WoW ได้ปัจจัยหนุนหลัง กนง.มีมติเอกฉันท์ลดดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 1.50% ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินปรับลดลง และตลาดยังคาด กนง.ยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ ส่วนกลุ่มปิโตรเคมี, บรรจุภัณฑ์, รพ. และค้าปลีกถูกแรงชายทำกำไร เนื่องจากนักลงทุนคาดกำไรในงวด Q3/68 ยังได้ฟื้นตัวช้า โดยภาพรวมนักลงทุนเลือก Sell on Fact หลังรายงานกำไร บจ. Q2/68 มีกำไรดีกว่า +10% และวันนี้สภาพัฒน์จะรายงาน GDP ไทย Q2/68 ซึ่ง Consensus คาด +2.7% & Q1/68 +3.1% YoY ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศเริ่มเข้ากดดันตลาด โดยวันที่ 22 ส.ค.ศาลอาญานัดฟังคำตัดสินคดี 112 ของคุณทักษิณ และวันที่ 29 ส.ค. ศาล รธน.จะพิจารณากรณีคลิปเสียงของนายก ฯ

Daily Strategy

  • วาง Filter แนวรับดัชนี SET ที่ 1,250 จุด ในกรณียืนไม่ได้มีโอกาสปรับฐานลงสู่ระดับ 1,230 – 1,240 โดยมีแนวต้านที่ 1,270 โดยนักลงทุนรอรายงาน GDP ไทย Q2/68, ความคืบหน้าข้อตกสันติภาพรัสเซีย – ยูเครน และปัจจัยการเมืองในประเทศ แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง เช่น SAWAD,TIDLOR,TCAP,GULF,GPSC,DIF,3BBIF/ กลุ่มอาหาร & เครื่องดื่ม เช่น ICHI,CPF,GFPT,ASIAN หลังมีความชัดเจนของภาษีสหรัฐ กอปรเป็นกลุ่ม Defensive
  • SAWAD* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 24.50 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q68 ที่ 27 พันล้านบาท +15%QoQ, flat YoY ดีกว่าที่ตลาดคาด กำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ มีปัจจัยหนุนจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ปรับลดลง ชดเชย NPL ที่สูงขึ้น ขณะที่รายได้ดอกเบี้ย (NII) เพิ่มขึ้น QoQ จาก NIM ที่ 15.2% จาก 1Q68 ที่ 14.5% สำหรับแนวโน้ม 2H68 คาดพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนมีโอกาสกลับมาขยายตัว QoQ ตามฤดูกาล NIM ทยอยเพิ่มขึ้น และผลขาดทุนรถยึดน้อยลง (รถจักรยานยนต์) ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าการขยายพอร์ตสินเชื่อรวมในปี 68 ราว 5-10% (YTD -3%) ส่วนต้นทุนทางการเงินมีโอกาสลดลงในระยะถัดไปจากการปรับลดดอกเบี้ยของแบงค์ชาติ ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 4.6 พันล้านบาท -8%YoY และ 5 พันล้านบาท +9%YoY
  • SHR* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 2.14 บาท) กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 24 ลบ.(พลิกกำไรจากขาดทุนใน 2Q67 ที่ -72 ลบ., -86%QoQ) หนุนจาก Operation ที่แข็งแกร่งของโรงแรมทราย ลากูน่า ภูเก็ต, SAii Lagoon Maldives, และ Hard Rock Hotel Maldives  ด้านการดำเนินงานในช่วงหลังไตรมาส2 ถัดไปยังดูดี ช่วง 1ก.ค.-12ส.ค.68 นักท่องเที่ยวเข้ามัลดีฟส์ยัง +8%YoY ขณะที่เดือนก.ค.-ส.ค.เป็นHigh Season ของโรงแรมใน UK นอกจากนี้โรงแรมในไทยยังมีปัจจัยบวกจาก “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”  ปัจจุบัน ตลาดคาด Profit ปี68 และ69 ของ SHR* ที่ 373 ลบ.(+132%YoY) และ 434 ลบ.(+17%YoY) ตามลำดับ

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ก.ย.-$1.16 อยู่ที่ $62.80 / บาร์เรล, Brent ต.ค. -$0.99 อยู่ที่ $65.85/บาร์เรล และรอผลการประชุมระหว่าง ปธน.ทรัมป์ & ปูติน เพื่อทำข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน

 

Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค.-$0.60 อยู่ที่ $3,382.60/ออนซ์ หลังข้อมูล US PPI ก.ค. สูงกว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนยังไม่แน่ใจว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุม ก.ย. หรือไม่ และยังรอผลการประชุมระหว่าง ปธน.ทรัมป์, ปูติน, เซเลนสกี และผู้นำยุโรป ต่อข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซีย – ยูเครน

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ซื้อสุทธิ +193.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -239.4 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +411.6 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +21.3 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 32.45 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.311 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +5 จุด อยู่ที่ 2,044

(-) BitCoin เช้านี้ -0.06% อยู่ที่ 117,375 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

18 ส.ค.     สภาพัฒน์ แถลง GDP ไตรมาส 2/68

19 ส.ค.     ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม  

27 ส.ค.     รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ฉบับย่อ

29 ส.ค.     ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สัปดาห์ที5 สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

 

ต่างประเทศ

20 ส.ค.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ก.ค.)

21 ส.ค.     US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US รายงานการประชุมของ FOMC 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ส.ค.) 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ส.ค.) 

                US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( ก.ค.)

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง,  Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง    

 

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

 

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

 

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

 

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

 

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

 

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio August 2025: KLINIQ, CPN*, PTTGC*, GULF*, TIDLOR*

 

 

 

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หุ้นกลางเล็ก ทำงาน By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม วันนี้ หุ้นขนาดกลาง และเล็ก ได้เวลาทำงานเต็มเวลา แล้ว หลังจากหุ้นบิ๊กแคป หลายตัว ทำหน้าที่ ตามกำลังเงิน ....

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ ทอล์ค : PTG มุ่งสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับนักลงทุนทุกคน

หุ้นอินไซด์ ทอล์ค : PTG มุ่งสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับนักลงทุนทุกคน

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้