PTT : 2Q25 เป็นไปตามคาด ; คาดกำไรเติบโตเล็กน้อยใน 3Q25F

ผลประกอบการเป็นไปตามคาด
PTT รายงานกำไรใน 2Q25 ที่ 2.15 หมื่นล้านบาท ลดลง 8% QoQ และ 39% YoY กำไรหลักอยู่ที่ 1.34 หมื่นล้านบาท ลดลง 34% QoQ และ 54% YoY การสูญเสียสินค้าคงคลังของบริษัทในเครือเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการหดตัวทั้งใน QoQ และ YoY ขณะที่กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและกำไรพิเศษจาก TOP ช่วยชดเชยผลกระทบจาก QoQ กำไรจากการดำเนินงานหลักที่ลดลงเป็นผลมาจากการลดลงของรายได้จากธุรกิจหลักจาก PTTEP และธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานยังคงเป็นไปตามคาด โดยคิดเป็น 48% ของประมาณการกำไรปี 2025F

ความอ่อนแอของ GSP และการลดลงของการค้าระหว่างประเทศบดบังการเติบโตของ S&T
ธุรกิจก๊าซธรรมชาติหลักรายงาน EBITDA ที่ 1.34 หมื่นล้านบาท ลดลง 3% QoQ และ 7% YoY ผลประกอบการจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ (GSP) ที่ลดลง QoQ ชดเชยกำไรจากธุรกิจจัดหาและซื้อขายก๊าซธรรมชาติ (S&T) แม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบยังคงทรงตัวและปริมาณการขายเพิ่มขึ้น แต่ธุรกิจโรงแยกก๊าซธรรมชาติกลับเผชิญกับราคาปิโตรเคมีที่อ่อนตัวลง ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจรายงานผลขาดทุน EBITDA ที่ 221 ล้านบาท เทียบกับกำไร 768 ล้านบาทใน 1Q25 S&T มี EBITDA เติบโต 17% QoQ โดยได้รับแรงหนุนจากต้นทุนวัตถุดิบก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวดีขึ้น ปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติยังคงทรงตัว QoQ ธุรกิจผู้ควบคุมระบบส่งก๊าซ (TSO) ยังคงมีผลประกอบการที่ทรงตัว QoQ การหดตัวของธุรกิจก๊าซธรรมชาติหลักสะท้อนถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงและปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ลดลงในกลุ่มธุรกิจ S&T ในส่วนของธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ EBITDA ลดลง 92% QoQ และ 94% YoY ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าระหว่างทาง

คาดการณ์การเติบโตเพียงระดับเล็กน้อยใน 3Q25F
เราคาดว่า PTT จะมีกำไรเติบโตเพียงเล็กน้อย QoQ ใน 3Q25F เราคาดว่าจะมีกำไรเพียงครั้งเดียวจากการปรับมูลค่ายุติธรรม หลังจากการตัดสินใจลดสัดส่วนการถือหุ้นใน Lotus Pharmaceutical (1795 TT) ซึ่งประเมินไว้ไม่ต่ำกว่า 7.7 พันล้านบาท เพื่อพยุงกำไรสุทธิ ส่วนผลขาดทุนจากการปรับมูลค่าตามราคาตลาด (mark-to-market) ในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศก็น่าจะหายไปเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในธุรกิจก๊าซธรรมชาติหลัก ประโยชน์จากต้นทุนวัตถุดิบก๊าซธรรมชาติที่อาจลดลงอาจถูกชดเชยบางส่วนจากราคาปิโตรเคมีที่อ่อนตัวลงและความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติที่ลดลงตามฤดูกาล

คงคำแนะนำ "ถือ"
เรายังคงคำแนะนำ "ถือ" สำหรับ PTT ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 34.00 บาท อ้างอิง SOTP โดยมีความเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ การปิดโรงงาน การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ และราคาน้ำมันที่ลดลง