สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (30 มีนาคม 2561) ---- กบง. มีแนวคิดที่จะปรับสูตร การคำนวณค่าการกลั่นที่หน้าโรงงาน จากเดิมที่อ้างอิงตลาดสิงคโปร์ และบวกค่าพรีเมี่ยม-เซียนหุ้นจะยกเลิกค่าพรีเมียม และหันมาใช้สูตรราคาใหม่ที่อ้างอิงราคาตลาดโลกอย่างเดียว เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้บริโภค  กูรู ประเมิน  หุ้นได้รับผลกระทบมากสุด  SRPC ที่มีโรงกลั่น 100% รองลงมาคือ BCP 70%,  ESSO 65% และ TOP 65% ส่วน IRPC และ PTTGC อยู่ที่ 35% และ 25% ตามลำดับ

        บิ๊กINGRS แจงกำไรงวดปี60/61 วูบเหลือ 97 ลบ. เหตุขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่มีรายได้จากการขาย 2,912.92 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 2.99 ล้านบาทหรือร้อยละ 0.10% จากปีบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2560 ("ปีงบประมาณ พ.ศ.2560/61")  2,915.91 ล้านบาท ปันผลระหว่างกาล  0.026 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมายXD 12 เม.ย.นี้

        บทวิเคราะห์  บมจ. หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า  คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีแนวคิดที่จะปรับสูตร การคำนวณค่าการกลั่นที่หน้าโรงงาน จากเดิมที่อ้างอิงตลาดสิงคโปร์ และบวกค่าพรีเมี่ยม (เป็นค่าปรับปรุงคุณภาพน้ำมันให้เป็นไปตามมาตรฐาน Euro5 และรวมต้นทุนอื่น ๆ นอกเหนือจากน้ำมัน  ค่าขนส่ง ภาษีสรรพสามิต, เงินที่เรียกเก็บเข้ากองทุนน้ำมัน, ค่าการตลาด, ภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นต้น) โดย กบง. จะยกเลิกค่าพรีเมียม และหันมาใช้สูตรราคาใหม่ที่อ้างอิงราคาตลาดโลกอย่างเดียว เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้บริโภค

        ฝ่ายวิจัยเชื่อว่ากลุ่มโรงกลั่นจะยังได้ sentiment เชิงลบกดดันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากแนวโน้มค่าการกลั่นปี 2561 จะอ่อนตัวลงจากปี 2560 บาร์เรล โดยในปี 2561 นอกจากแรงกดดันจากกำลังการผลิต  โรงกลั่นใหม่ที่เพิ่มในภูมิภาคเอเชีย 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน  เมื่อรวมกับความต้องการใช้น้ำมันส่วนเพิ่มอยู่ที่ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ supply น้ำมันส่วนเพิ่มอยู่ราว 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน จึงยังทำให้มีปัญหา oversupply อยู่ในระยะสั้น  จึงเป็นประเด็นที่กดดันค่าการกลั่นอีกด้านหนึ่ง  

        หุ้นที่คาดว่าได้รับผลกระทบในภาวะนี้คือ ผู้ที่มีรายได้กระจุกตัวในโรงกลั่น คือ SRPC ที่มีโรงกลั่น 100% รองลงมาคือ BCP 70%,  ESSO 65% และ TOP 65% ส่วน IRPC และ PTTGC  อยู่ที่ 35% และ 25% ตามลำดับ แม้ราคาหุ้นวานนี้ของกลุ่มปิโตรฯ ได้ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากแล้ว แต่เชื่อว่าแรงกดดันยังมีอยู่ จึงแนะนำชะลอการลงทุน หรือลงทุนในหุ้นที่ได้รับผลกระทบน้อย IVL ด้วยธุรกิจที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการ M&A มูลค่าเหมาะสม 64 บาท upside ที่เปิดกว้างราว 12%

        หากประเมินผลกระทบแบบลึกลงไปอีก โดยกำหนดให้ภาครัฐลดค่าพรีเมี่ยมลง ทุกๆ 1 เหรียญฯต่อบาร์เรล จะกระทบกำไรของหุ้นเฉพาะที่ฝ่ายวิจัยฯ ศึกษา คือ BCP, TOP, IRPC, PTTGC พบว่า จะทำให้กำไรลดลง 18.5%, 13.2%, 5.8%, 3.4% จากประมาณการเดิมในปีนี้ ตามลำดับ

        เชื่อว่า ประเด็นดังกล่าว ยังเป็น sentiment เชิงลบต่อหุ้นโรงกลั่น จนกว่าจะมีความชัดเจนจากการประชุมของกบง.ในวันที่ 5 เม.ย.นี้


INGRS แจงกำไรงวดปี60/61 วูบเหลือ 97 ลบ. เหตุขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน
        นายอับดุลราฮิม บิน ฮาญีฮีตัม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ INGRS เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานสำหรับ ปีการเงินสิ้นสุด วันที่ 31 มกราคม 2561 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 97 ล้านบาท  ลดลง  จากงวดปี59/60 ที่ทำได้ 164 ล้านบาท  โดยบริษัทมีกำไรหลังหักภาษี ("PAT") ในปีงบประมาณ 2560/61 จำนวน 147.86 ล้านบาท ลดลง 62.57 ล้านบาทหรือ 29.73% จากปีบัญชี 2559/60 เป็นจำนวน 210.43 ล้านบาท

        โดยสาเหตุหลักมาจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 1.38 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2560/61 เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 75.71 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2559/2560  และมีกำไรหลังหักภาษีและส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย ("PATMI") ในปีงบประมาณ 2560/61  เป็นจำนวน 917.80 ล้านบาทลดลง 71.65 ล้านบาทหรือ 42.35% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2559/60 เป็นจำนวน 169.65 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเป้นจำนวน 1.38 ล้านบาทในช่วงปีงบประมาณ 2559/2560 เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรที่ได้มาจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นจำนวน 75.71 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2559/60

        ทั้งนี้เงินสมทบจาก บริษัทย่อยที่ได้มาใหม่ INGRESS Autoventures (Indie) Private Limited ("IAIPL") (เดิมชื่อ Ingress Mayur Auto Ventures Private Limited ("IMAPL")) เมื่อวันที่ 13 พฤศจิการยน พ.ศ.2560 กลุ่มบริษัท โดย Ingress Industrial (Malaysia) Sdn Bhd ("IIM") ได้ซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของ IAIPL จำนวน 60% ซึ่งส่งผลให้สถานะของ IAIPL เปลี่ยนจากบริษัทร่วม เข้ามาอยู่ในเครือ IIM ทาง INGRS ได้รวมผลการดำเนินงานของ IAIPL ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา สำหรับปีงบประมาณ  พ.ศ.2560/61 IAIPL มีรายได้และ PAT เป็นจำนวนเงิน 35.65 ล้านบาทและ 4.56 ล้านบามตามลำดับ

        อนึ่งบริษัทมีรายได้จากการขาย สำหรับปีการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2561 ("ปีงบประมาณ พ.ศ.2560/61") บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,912.92 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 2.99 ล้านบาทหรือร้อยละ 0.10% จากปีบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2560 ("ปีงบประมาณ พ.ศ.2560/61")  2,915.91 บาท

        ทั้งนี้ INGRSจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล  0.026 บาท/หุ้น วันขึ้นเครื่องหมายXD 12 เมษายน 2561และวันจ่ายเงินปันผล คือ 26 มิถุนายน 2561

-- จบ --