BDMS : ผลประกอบการแข็งแกร่งท่ามกลางปัจจัยกดดัน
BDMS รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2025 ที่ 3,490 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY แต่ลดลง 20% QoQ สอดคล้องกับประมาณการของเราและตลาด รายได้จากผู้ป่วยต่างชาติยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก โดยการเติบโตแบบ YoY ถูกจำกัดจากผลกระทบด้านลบจากความขัดแย้งบริเวณชายแดนกัมพูชา อย่างไรก็ตาม เรามองว่าความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างไทย-กัมพูชามีจำกัด และผลกระทบต่อผู้ป่วยชาวกัมพูชาน่าจะสามารถบริหารจัดการได้ การฟื้นตัวของตลาดหลัก เช่น เมียนมา และตะวันออกกลาง (หลังเดือนรอมฎอน) คาดว่าจะยังคงสนับสนุนการเติบโตของกำไรในครึ่งหลังของปี 2025 ท่ามกลางความต้องการภายในประเทศที่ยังอ่อนตัว เรายังคงให้น้ำหนัก BDMS มากกว่า BH เนื่องจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งกว่าและมูลค่าที่น่าดึงดูดกว่า
ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2025 :
• รายได้หลัก อยู่ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% YoY แต่ลดลง 5% QoQ โดย BDMS มีการเติบโตที่ดีในรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติ (+6% YoY) โดยเฉพาะผู้ป่วยที่บินเข้ามาจาก: กาตาร์ (+45% YoY) เมียนมา (+19% YoY) สหรัฐอเมริกา (+13% YoY) ในทางกลับกัน รายได้จากผู้ป่วยกัมพูชา (คิดเป็น 3% ของรายได้รวม) ลดลง 23% จากความตึงเครียดทางการเมืองและการปิดชายแดน
• รายได้จากผู้ป่วยไทย เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3% YoY ในไตรมาส 2 ปี 2025 โดยได้รับผลกระทบจากฐานที่สูงในไตรมาส 2 ปี 2024 และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โรงพยาบาลนอกกรุงเทพฯ ยังคงมีผลประกอบการที่ดีกว่าโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะเครือข่ายในเชียงใหม่ ระยอง และภูเก็ต การเติบโตที่อ่อนตัวของรายได้จากผู้ป่วยไทยส่งผลให้สัดส่วนรายได้ระหว่างผู้ป่วยไทยและต่างชาติเปลี่ยนจาก 73:27 ในไตรมาส 2 ปี 2024 เป็น 72:28 ในไตรมาส 2 ปี 2025
• รายได้จากผู้ป่วยนอก (OPD) เติบโตเร็วกว่าผู้ป่วยใน (IPD) ในไตรมาสนี้ โดยอัตราการเข้าพักลดลงจาก 63% ในไตรมาส 2 ปี 2024 เหลือ 61% ในไตรมาส 2 ปี 2025 จากแรงกดดันทางเศรษฐกิจและฐานที่สูงจากการระบาดของไข้หวัดใหญ่ในปีก่อน
• อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คงที่เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่อัตรากำไร EBITDA ปรับตัวดีขึ้นจาก 22.1% ในไตรมาส 2 ปี 2024 เป็น 22.6% ในไตรมาส 2 ปี 2025 จากการบริหาร SG&A ต่อรายได้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• เราแนะนำให้ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 30.00 บาท