Company Note
Silicon Craft Technology
กำไรสุทธิปกติเป็นไปตามคาด
กำไรสุทธิ 2Q25 อยู่ที่ 32 ล้านบาท ลดลง 23% YoY ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ 5% สาเหตุหลักมาจาก รับรู้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นจริงราว 2 ล้านบาท หากพิจารณากำไรปกติจะอยู่ที่ 34 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาด โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 5.94 ล้านเหรียญฯ (+7% YoY หรือ 197 ล้านบาท ลดลง 3% YoY จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างมากที่ 9% YoY รายได้จากกลุ่ม Animal ID ยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตหลักที่ 7%YoY เป็น 133 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 67% ของรายได้รวม (vs. 61% ใน 2Q24) จากการทยอยส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้ารายใหญ่ ในขณะที่กลุ่ม Immobilizer และ Industrial IoT หดตัวต่อเนื่อง 48% YoY และ 12% YoY จากปัญหาสต๊อกสินค้าที่ยังอยู่ในระดับสูงและการชะลอตัวของอุปสงค์ในประเทศจีนตามลำดับ อย่างไรก็ดี GPM ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 45.7% จาก 43.7% ใน 2Q24 จากแผนการบริหารจัดการต้นทุนและกลยุทธืการกำหนดราคาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ตามแผนที่กำหนด ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารยังปรับตัวสูงขึ้น 15% YoY เร่งตัวขึ้นจากค่าใช้จ่ายในการ R&D และพนักงานที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องสำหรับรองรับ Project การขยายตลาดในอนาคตรวมถึงการรับรู้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นจริงราว 4 ล้านบาท เราคงคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 3.6 บาท เนื่องจากเรามองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงกว่า 37% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา Underperform ตลาดได้สะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอในปี 2025 ไปแล้ว โดยมีโอกาสในการเติบโตใหม่จากธุรกิจ Animal ID ในสหรัฐฯและบราซิลในอนาคต
แนวโน้ม 2H25F ชะลอตัวลงตามปัจจัยฤดูกาล
เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025F ที่ 87 ล้านบาท (-14% YoY) แม้ผลประกอบการใน 1H25A คิดเป็น 75% ของ 2025F เพราะเราคาดแนวโน้มกำไรสุทธิ 2H25F จะชอลอตัวลงจากปัจจัยฤดูกาลที่ประเทศคู่ค้าทั้งในยุโรปและสหรัฐฯจะมีวันหยุดมากขึ้นรวมถึงการออกสินค้าใหม่ๆที่อาจจะยังไม่สร้างปริมาณการเติบโตที่มากพอ ในขณะที่แนวโน้มสินค้ากลุ่ม Immobilizer ที่มีอัตรากำไรสูงยังมีแนวโน้มอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ต่อเนื่องจากปริมาณสต๊อกสินค้าที่สูง
แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.60 บาท
เราคงมูลค่าเหมาะสมกลางปี 2026F ที่ 3.60 บาท โดยใช้ P/E ratio ที่ 18x ความเสี่ยงได้แก่ 1)การวิจัยและพัฒนาสินค้าไม่เป็นไปตามเป้าหมาย 2)ความสำเร็จของการ M&A 3)การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และ 4)อุปสงค์อ่อนแอกว่าคาด