Today’s NEWS FEED

News Feed

เทพหุ้นเมย์แบงก์ฯ คาด SET Index เดือน ส.ค. 68 แกว่งตัวในกรอบ 1180 – 1280 จุด สร้างฐานในรอบฟื้นตัวระยะกลาง หุ้นเด่น BH ERW WHA

68

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(5 สิงหาคม 2568)-------บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เปิดเผยมุมมอง SET Index เดือน ส.ค. 68 คาด SET Index แกว่งในกรอบ 1180 - 1280 จุด เพื่อสร้างฐานในรอบฟื้นตัวระยะกลาง ปัจจัยสำคัญที่ตลาดให้ความสนใจ คือ ผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งเริ่มส่งผ่านต้นทุนมายังภาคธุรกิจ การผลักภาระต้นทุนไปยังผู้บริโภค และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ หากสถานการณ์ยืดเยื้อ อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป นอกจากนี้ ตลาดยังติดตามความคืบหน้าการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งกำลังจะสิ้นสุดช่วงผ่อนปรนภาษี 90 วันใน วันที่ 12 ส.ค. ด้านภายในประเทศ ตลาดอยู่ระหว่างช่วงการรายงานงบ 2Q68 โดยรวมคาดว่าทรงตัว ขณะที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองยังเป็นปัจจัยที่อาจสร้างความผันผวน คดีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรี คดีคุณทักษิณกรณี ม.112 และการพิจารณาร่างงบประมาณปี 69 ในเชิงกลยุทธ์ Selective หุ้นที่มีแนวโน้มกำไรแข็งแกร่งต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังของปี 68 ชอบ BH ERW WHA

•ดีลภาษีสหรัฐฯ จบ แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจเพิ่งเริ่ม
วันที่ 31 ก.ค. สหรัฐฯได้ประกาศอัตราภาษีนำเข้าใหม่กับประเทศต่างๆ ซึ่ง Bloomberg ประเมินภาษีใหม่จะทำให้ภาษีนำเข้าสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเป็น 15% เทียบต้นปี 68 ที่ระดับ 2.8% ระยะถัดไปต้องติดตามผลของการขึ้นภาษีที่จะเริ่มส่งผ่านมายังภาคธุรกิจและผู้บริโภคที่อาจเป็นความเสี่ยงต่อการเติบโตเศรษฐกิจ,เงินเฟ้อและการดำเนินนโยบายการเงินของ FED ส่วนไทยถูกเก็บภาษี 19% แลกกับการเปิดตลาดเสรีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ หลายกลุ่มและภาษี Transshipment ที่ 40% สำหรับสินค้าสวมสิทธิ์ รายละเอียดอื่นๆ คาดว่ามีมากขึ้นหลังจากผ่านการเห็นชอบในรัฐสภาฯ ทั้งนี้ในข้อเสนอที่ถูกเปิดเผยมาเบื้องต้น เรายังคงมุมมองข้อตกลงของไทยยังสามารถแข่งขันกับคู่แข่งภูมิภาคที่ถูกเก็บในช่วง 19-20% และต่ำกว่าจีนที่ถูกเก็บ 55% ทำให้การย้ายฐานการผลิตยังมีต่อบวกต่อหุ้นในกลุ่มนิคมซึ่งเรายังชอบ WHA และ AMATA มากกว่ากลุ่มส่งออกที่ความเสี่ยงเรื่องยอดคำสั่งซื้อช่วง 2H68 ที่อาจชะลอลง HoH จากการเร่งสั่งซื้อสินค้าในช่วงต้นปีไปแล้ว

•การรายงานงบ 2Q68E ทรงๆ ไม่เด่น แต่ไม่ได้แย่
ตามประมาณการของ Bloomberg Consensus คาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนใน 2Q68E จะหดตัวประมาณ -1%YoY และ -1% QoQ ชะลอตัวลงเล็กน้อยจาก 1Q68 ที่กำไรเติบโต 3% YoY อย่างไรก็ตาม เราเห็นว่าการที่กำไรยังคงทรงตัวได้ทั้ง YoY และ QoQ ท่ามกลางความไม่แน่นอนหลายด้าน (เช่น มาตรการภาษีของสหรัฐฯ สถานการณ์การเมืองในประเทศ และข้อพิพาทชายแดน) สะท้อนถึง ความแข็งแกร่งของภาคธุรกิจไทย สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะมีกำไรเติบโต YoY สูงสุด ได้แก่ กลุ่มก่อสร้าง โทรคมนาคม (ICT) และอาหาร ขณะที่กลุ่มปิโตรเคมีและขนส่ง อาจมีกำไรลดลง อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้การรายงานงบ 2Q68 ที่ผ่านมา นับเฉพาะบริษัทที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์มีทั้งสิ้น 22 บริษัทรายงานกำไรดีกว่าตลาดคาด 17% (หลักๆ มาจาก SCC ที่บันทึกรายการพิเศษหากไม่รวมกำไรใกล้เคียงตลาดคาด) โดยจำนวนบริษัทที่รายงานกำไรดีกว่าคาด 32% ตามคาด 59% และต่ำกว่าคาดเพียง 9% ถือเป็นสัญญาณที่ดี

•ประเด็นทางการเมืองกระทบตลาดหุ้นจำกัด หากงบประมาณปี 69 ผ่านฉลุยตามกรอบเดิม
ประเด็นการเมืองในเดือน ส.ค. ที่ต้องจับตามี 3 เรื่อง 1) ศาลอาญาชั้นต้น นัดตัดสินคดี ม.112 คุณทักษิณในวันที่ 22 ส.ค. หากเป็นลบกับคุณทักษิณก็ยังสามารถยื่นศาลอุทธรณ์ได้ 2) ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดีคลิปเสียงนายกฯ คาดว่าการนัดวินิจฉัยจะเกิดขึ้นในกลางเดือน ก.ย. แต่หากมาเร็วกว่าคาดและผลเป็นลบกับนายกฯ ก็จะเข้าสู่กระบวนการเลือกนายกฯ และ ครม. เราคาดคุณชัยเกษมได้รับโหวตเป็นนายกฯและแกนนำรัฐบาลมาจากพรรคเพื่อไทยจึงไม่สร้างสูญญากาศทางการเมือง 3) พิจารณาร่างงบประมาณปี 69 วาระ 2-3 ในชั้น ส.ส. วันที่ 13-15 ส.ค. และชั้น ส.ว. 25-26 ส.ค. ยังไม่เห็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการล่าช้าจากกรอบเวลาเดิม แม้ประเด็นเหล่านี้อาจสร้างความผันผวนต่อ SET Index บ้าง แต่หากการพิจารณางบฯ ดำเนินตามกรอบเดิม คาดว่า Downside ต่อตลาดจะจำกัด

 

กลยุทธ์การลงทุนเดือน ส.ค. 2568 เลือก BH ERW WHA
BH (เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 225.00 บาท)
•ผลประกอบการ 2Q68 แม้รายได้ลดลง -4% YoY แต่โครงสร้างแสดงถึงคุณภาพรายได้ที่ดีขึ้น โดยราคาค่ารักษาเพิ่มขึ้น 4%YoY ขณะที่ปริมาณผู้ป่วยลดลง -6%YoY แต่มีสัญญาณที่ดีจากตลาดตะวันออกกลางเริ่มฟื้นตัวหลังผ่านช่วงรอมฎอน โดยเฉพาะ UAE ที่ปรับตัวดีขึ้นมาก (-1% YoY จาก -40% ใน 1Q68) หลัง BH กลับมาเจรจากับภาครัฐ ขณะที่กาตาร์และโอมานก็ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ผสานการควบคุมต้นทุนมีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะด้านพนักงานจากการบริหาร OT และพนักงานพาร์ตไทม์ได้ดีขึ้น ช่วยพยุงอัตรากำไรไว้ได้ดี
•ช่วง 2H68 ผู้บริหารคาดว่าผลประกอบการจะดีกว่า 1H68 เนื่องจากไม่มีผลกระทบจากรอมฎอนหรือแผ่นดินไหว และ 3Q68 คาดแนวโน้มกำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ หนุนจากรายได้จะกลับมาโต 3-5%YoY จากการฟื้นตัวของตลาดตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกาตาร์ที่ยอดเข้ารักษาเพิ่มขึ้น 9% YoY ด้าน Valuation น่าสนใจเพราะราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PER68 18 เท่าต่ำกว่ากลุ่มที่ 19.5 เท่ามากเกินไป หลังจากจากความกังวลรายได้ผู้ป่วยตะวันออกกลางซึ่งเริ่มเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นแล้ว


ERW (เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3.00 บาท)
•แม้ 2Q68 เราคาดกำไร ERW อยู่ที่ 68 ล้านบาท หดตัว -80% QoQ และ -81% YoY แต่จุดที่สนใจมากกว่าคือ แนวโน้มกำไร 3Q68 เราคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัว QoQ ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นภาคท่องเที่ยวภายในประเทศของรัฐบาลผ่านโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งและเตรียมออกมาตรการใหม่ นำค่าท่องเที่ยวช่วงเดือนส.ค.-ก.ย. 2568 มาลดหย่อนภาษี 1.5 หมื่นบาทต่อคน
•ในเชิง Valuation ราคาหุ้นปรับลงตั้งแต่ต้น -40%YTD เทียบกลุ่มท่องเที่ยวที่ปรับลง -16% โดย PER 68E ซื้อขายที่ 12.8 เท่า ต่ำสุดในกลุ่มโรงแรมที่เราศึกษาที่ซื้อขายที่ 18 เท่า ซึ่งเราประเมินว่า ERW อยู่ในภาวะ Undervalue และ Lagard กลุ่มมากเกินไป

 

WHA (เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 4.35 บาท)
•ผลการเจรจาภาษีสหรัฐฯ ที่ไทยได้ลดภาษีมาที่ 19% ทำให้ในด้านการแข่งขันเราไม่เสียเปรียบภูมิภาคที่อยู่ในช่วง 19-20% และจีนที่ปัจจุบันเสียภาษีให้สหรัฐฯในอัตรา 55% ซึ่งถือเป็นการปลดล็อคความกังวลต่อนักลงทุน ซึ่งเราเชื่อว่าจะเห็นการกลับมาลงทุนในช่วง 2H68 หนุนยอดขายที่ดินขยายตัว HoH หลังจากช่วงที่ผ่านมาเห็นการ Wait & See ของลูกค้า ซึ่งส่งผลให้ยอดขายและงบ 2Q68 ของ WHA ออกมามีแนวโน้มหดตัว QoQ และ YoY
•WHA รายงานมีลูกค้าที่ยื่นหนังสือแสดงความจำนง (LOI) เป็นจำนวน 1.3 พันไร่ ในงวด 1Q68 พร้อมทั้งอยู่ในช่วงเจรจากับ Data Center อีกราวๆ 1 พันไร่ (ไม่ถูกกระทบจากมาตรการภาษี) เทียบกับยอดขายที่ 2.4 พันไร่ WHA ตั้งเป้าในปี 68 ราคาหุ้นปัจจุบัน ยังฟื้นอยู่ในโซนล่างสะท้อนจากการให้ผลตอบแทนติดลบ -37%YTD จนมาซื้อขายบน PER68 10.5 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี -1.5 S.D. นอกจากนี้อัตราปันผลที่สูง 5.6% จะเป็นตัวช่วยจำกัด Downside ราคาหุ้น
Top Picks Valuation

 

Analyst
ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์
Theerasate.p@maybank.com
ชาญชัย พันทาธนากิจ
Chanchai.p@maybank.com
ออมทรัพย์ โง้วศิริ
Aomsub.ngowsiri@maybank.com

บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)
TEL : 02-658-5000

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

FTI เติมเต็มคุณภาพชีวิตเด็ก สานต่อภารกิจส่งมอบน้ำสะอาดผ่าน "โครงการเปลี่ยนไส้กรองน้ำ"

FTI เติมเต็มคุณภาพชีวิตเด็ก สานต่อภารกิจส่งมอบน้ำสะอาดผ่าน "โครงการเปลี่ยนไส้กรองน้ำ"

หักด่านต้าน By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ หุ้นใหญ่ ชักธงเขียว ระหว่างชั่วโมงเทรด หักด่าน ฝ่าต้าน ไกลสุด 1,246.61 จุด .....

มัลติมีเดีย

คุยกับ Genใหม่ TNDT "ธนรรจ์ ศตวุฒิ"

คุยกับ Genใหม่ TNDT "ธนรรจ์ ศตวุฒิ"

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้