31 ก.ค. 2568 13:23:06 125
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(31 กรกฎาคม 2568)---------เคทีซี ร่วมกับ 3 พันธมิตรธุรกิจระดับพรีเมียม สยามพิวรรธน์ เฟอร์รารี่และยูบิลลี่ จัดเวทีเสวนา KTC FIT Talk ครั้งที่ 18 ในหัวข้อ “Resilience is the New Luxury: อนาคตเศรษฐกิจไทยในมือผู้บริโภคระดับบน" สะท้อนบทบาทของกลุ่มผู้บริโภคที่มีอิทธิพลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในยุคใหม่ ท่ามกลางแนวโน้มการเติบโตของตลาดสินค้าลักซ์ชัวรี่ที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง พฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป และความต้องการสินค้าที่สะท้อนคุณค่าเฉพาะบุคคล ความยั่งยืนและประสบการณ์ที่แตกต่าง นายอภิเชษฐ์ เกียรติวรคุณ CFA ผู้อำนวยการ-การเงิน “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมสินค้าลักซ์ชัวรี่ระดับโลกและภาพรวมเศรษฐกิจว่า “ปี 2568 เป็นปีที่เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับ ‘พายุที่สมบูรณ์แบบ’ จากแรงกดดันทั้งภายในและภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการชะลอตัวของภาคการท่องเที่ยว ความเสี่ยงจากกำแพงภาษีของสหรัฐฯ หรือปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจถูกปรับลดลงเหลือเพียง 1.6% - 2.3% แต่ในขณะเดียวกันเราก็เห็น ‘อีกภาพหนึ่ง’ ที่เกิดขึ้นพร้อมกัน นั่นคือการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของตลาดผู้บริโภคระดับบน ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวแบบ ‘K-Shaped’ ที่ไม่เท่าเทียมกัน และเป็นสัญญาณเตือนให้ภาคธุรกิจต้องปรับกลยุทธ์อย่างเร่งด่วน โดยการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าและบริการระดับลักซ์ชัวรี่คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 9.8% ในช่วงปี 2568-2575 (ข้อมูลจาก Verified Market Research) การเติบโตนี้จะได้รับแรงหนุนจากความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นจากราคาสินทรัพย์ และกำลังซื้อที่แข็งแกร่งของกลุ่มผู้มีฐานะ (High-Net-Worth Individuals) ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ" "เทรนด์ของ ‘Quiet Luxury’ (ความหรูหราที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า) และ ‘เศรษฐกิจเชิงประสบการณ์’ ไม่ใช่เพียงกระแสแฟชั่น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงจิตวิทยาในพฤติกรรมผู้บริโภคที่แบรนด์ต่างๆ ต้องเข้าใจ และปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในยุคใหม่ ผู้บริโภคไม่ได้มองหาสินค้าที่แสดงสถานะผ่านโลโก้อีกต่อไป แต่กลับให้คุณค่ากับความจริงแท้ งานฝีมือและประสบการณ์ที่มีความหมายในโลกที่เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความสำเร็จของธุรกิจจะไม่ได้วัดจากยอดขายเพียงอย่างเดียว แต่จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างความเชื่อมโยงที่แท้จริงกับผู้บริโภค และการร่วมสร้างสรรค์คุณค่ากับชุมชนของตนเอง เราเชื่อว่า ‘โอกาส’ ยังคงมีอยู่เสมอ แม้ในช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุด และการฟังเสียงของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง จะเป็นกุญแจสำคัญในการนำพาองค์กรไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต” นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” กล่าวถึงแนวโน้มการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของผู้บริโภคกลุ่มบนว่า “แม้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัว แต่ผู้บริโภคระดับบนยังคงเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงและเป็นกำลังซื้อสำคัญของตลาด โดยเฉพาะลูกค้าพรีเมี่ยมที่ให้ความสำคัญกับคุณค่ามากกว่าราคา เราเห็นการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ระมัดระวังมากขึ้น แต่ยังคงเลือกสิ่งที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการเฉพาะตัวอย่างแท้จริง ปัจจุบันสมาชิกเคทีซีที่มีรายได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป คิดเป็น 20% ของพอร์ต สร้างยอดใช้จ่ายรวมถึง 40% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด ขณะที่กลุ่มรายได้มากกว่า 100,000 บาทต่อเดือน มีอยู่ประมาณ 7-8% และมีสัดส่วนการใช้จ่ายถึง 20% โดยหมวดการใช้จ่ายหลักของกลุ่มนี้ ได้แก่ ประกันภัย การท่องเที่ยว การดูแลสุขภาพ รวมถึงการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ร้านอาหารและน้ำมัน” “ผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงในยุคนี้ ไม่ได้มองหาส่วนลดที่มากที่สุด แต่มองหาสิ่งที่ ‘มีคุณค่า’ และ ‘มีความหมาย’ กับชีวิต เราจึงออกแบบกลยุทธ์ในการดูแลลูกค้ากลุ่มนี้ผ่าน 3 แนวทางหลัก ที่เน้นการสร้างคุณค่าเฉพาะบุคคลอย่างแท้จริง 1) Exclusive Value คัดสรรสิทธิประโยชน์ตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกเฉพาะกลุ่ม โดยใช้แนวคิด “By Invitation Only” เพื่อสร้างความรู้สึกพิเศษ เช่น การออกแบบแคมเปญเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้าเฟอร์รารี่และยูบิลลี่โดยเฉพาะ2) CRM & Loyalty Program ร่วมกับพันธมิตรในการขยายฐานสมาชิกและต่อยอดประสบการณ์ลูกค้าบนแพลตฟอร์มที่ลูกค้าคุ้นเคย เช่น การแลกเปลี่ยนคะแนนสะสมระหว่างเคทีซีและสยามพิวรรธน์ ผ่านแอปพลิเคชัน ONESIAM SuperApp และ3) Service Excellence การบริการที่เชื่อถือได้และเข้าใจกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ เช่น Gen Z และกลุ่ม Tech-driven Wealth ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและคุณค่าทางสังคม” “เคทีซีเชื่อว่าความสามารถในการปรับตัวและยืนหยัดท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง (Resilience) และการสร้างคุณค่าร่วมกันอย่างยั่งยืน คือ เป้าหมายสำคัญของการทำธุรกิจลักซ์ชัวรี่ในยุคใหม่ เราจึงมุ่งเน้นการเป็นพาร์ตเนอร์ระยะยาวกับแบรนด์พรีเมียม ใช้ข้อมูลลูกค้าแบบเรียลไทม์ในการออกแบบข้อเสนอที่ตรงใจ และร่วมกันสร้างแคมเปญที่มีความหมายมากกว่าการลดราคา เพราะสุดท้ายแล้ว ลูกค้าจะจดจำไม่ใช่แค่สิ่งที่เราให้ แต่จดจำว่าเราทำให้ชีวิตเขาง่ายขึ้นและมีคุณค่ามากขึ้นเพียงใด” นางธณพร ตันติยานนท์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า ONESIAM บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารโครงการสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ กล่าวถึงการทำโครงการธุรกิจค้าปลีกระดับลักซ์ชัวรี่ว่า “ธุรกิจลักซ์ชัวรีกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ โดยผู้บริโภครุ่นใหม่มีพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าในกลุ่มนี้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ให้ความสำคัญกับคุณค่าทางจริยธรรม ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล และประสบการณ์ที่มีความหมายมากกว่าการครอบครองสินค้าหรูหราเพียงอย่างเดียว สินค้าที่ตอบโจทย์จึงต้องมีคุณภาพสูง หายาก และสะท้อนตัวตนของผู้บริโภคอย่างแท้จริง สยามพิวรรธน์มองเห็นโอกาสในการสร้างนิยามใหม่ของ ‘New Luxury’ ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่แบรนด์ใหญ่ แต่ต้องเป็นที่สุดในด้านคุณค่าและความคุ้มค่า พร้อมสร้างคอมมูนิตี้ระดับโลก ผ่านแพลทฟอร์มที่เปิดกว้างให้ทุกคนได้สัมผัสและมีส่วนร่วมกับประสบการณ์ลักซ์ชัวรีในรูปแบบที่จับต้องได้” “สยามพิวรรธน์ให้ความสำคัญกับการเข้าใจเทรนด์โลกและ Emotional value ของลูกค้ากำลังซื้อสูง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่พิเศษและแตกต่างอย่างแท้จริง เราเดินหน้ากลยุทธ์ Co-Create & Collaboration กับพันธมิตรระดับโลก พร้อมยกระดับลักซ์ชัวรี่ CRM และสร้าง Ecosystem ที่แข็งแกร่งเพื่อความสำเร็จอย่างยั่งยืน แม้เศรษฐกิจจะมีความไม่แน่นอน แต่เรายังคงเห็นการเติบโตในกลุ่ม ลักซ์ชัวรี่ โดยเฉพาะแบรนด์ Fine Jewelry และนาฬิกาที่เลือกลงทุนกับเราอย่างต่อเนื่อง เราให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ใหม่ เช่น Exclusive Pop-up Stores, Events และคลับ JAI by ONESIAM เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับฐานลูกค้ากำลังซื้อสูงรุ่นใหม่ พร้อมผลักดันแนวทาง Sustainable Luxury ที่เชื่อมโยงความหรูหรากับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ในยุคที่เศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สยามพิวรรธน์มุ่งเน้นการบริหารแบบ Agile Strategy และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดรับการเปลี่ยนแปลง เราส่งเสริมการทำงานร่วมกันข้ามสายงาน พร้อมพัฒนาบุคลากรให้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ทั้งยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อสร้างธุรกิจที่เติบโตอย่างมั่นคงและมีความรับผิดชอบต่อสังคม” นางนันทมาลี ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและซ่อมบำรุงรถยนต์เฟอร์รารี่ (Ferrari) อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เผยว่า “การนำแบรนด์ระดับโลกอย่างเฟอร์รารี่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ถือเป็นภารกิจที่ท้าทายไม่น้อย ทั้งในด้านภาษีนำเข้า ต้นทุนการดำเนินงาน และการแข่งขันจากผู้นำเข้าอิสระ แต่คาวาลลิโน มอเตอร์ (Cavallino Motors) มองว่านี่คือโอกาสในการแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานที่แท้จริงของแบรนด์ โดยให้ความสำคัญกับการส่งมอบ ‘คุณค่า’ ผ่านประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ลึกซึ้งและมีความหมาย เราเชื่อว่าลูกค้ากลุ่มผู้มีฐานะ (High Net Worth) ไม่ได้มองหาเพียงความหรูหราภายนอก แต่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดและความใส่ใจในระยะยาว เราจึงลงทุนในโชว์รูมรถ (Pre-owned) และอู่สีใหม่ รวมถึงจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น เอสเปรีเอนซ่า เฟอร์รารี่ (Esperienza Ferrari) ปาสซีโอเน เฟอร์รารี่ คลับ ชาเลนจ์ (Passione Ferrari Club Challenge) และการพาลูกค้าเข้าร่วมงานยูนิเวอร์โซ เฟอร์รารี่ (Universo Ferrari) ที่ต่างประเทศ เพื่อสะท้อนจิตวิญญาณของแบรนด์ระดับโลกผ่านประสบการณ์จริง” “เรายึดมั่นในแนวคิดที่ว่า ‘ความหรูหราที่แท้จริง’ (True Luxury) คือความต่อเนื่อง ความซื่อสัตย์ และบริการที่เป็นเลิศ จึงมุ่งยกระดับบุคลากร ระบบ และเทคโนโลยี เพื่อสร้างมาตรฐานระดับ 5 ดาวที่ยั่งยืน พร้อมดูแลลูกค้าเสมือนเป็นครอบครัว ด้วยแนวคิด ‘เฉพาะคุณ’ ที่ใส่ใจในทุกขั้นตอนของประสบการณ์ลูกค้า (Customer Journey) ไม่ใช่แค่ในฐานะผู้แทนจำหน่าย แต่ในฐานะผู้ดูแลความสัมพันธ์ระยะยาว โดยมีความเชื่อว่า เฟอร์รารี่ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นตัวแทนของแรงบันดาลใจ ไลฟ์สไตล์และความสำเร็จที่สัมผัสได้จริงในทุกมิติ พร้อมเดินหน้าอย่างมั่นคงด้วยความเข้าใจลูกค้า และการบริหารองค์กรที่ยืดหยุ่น ทันต่อทุกการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคใหม่” นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ธุรกิจค้าเพชรและเครื่องประดับเพชรเบอร์หนึ่งของไทย กล่าวว่า “ผู้บริโภคกลุ่มลักซ์ชัวรี่ในยุคปัจจุบันไม่ได้มองหาสินค้าราคาแพงเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความหมาย และการสะท้อนตัวตน ยูบิลลี่ ไดมอนด์ (Jubilee Diamond) จึงตอบโจทย์ด้วยงานออกแบบที่ประณีต การปรับแต่งเฉพาะบุคคล (customization) และประสบการณ์การเลือกซื้อที่เป็นหนึ่งเดียว สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างลูกค้าและแบรนด์ ในยุคที่การใช้จ่ายต้องมีเหตุผลมากขึ้น โดยกลุ่มผู้มีฐานะ (High Net Worth) และกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง (Affluent) ยังคงให้ความสำคัญกับ “คุณภาพเหนือราคา” โดยเฉพาะเมื่อสินค้านั้นสามารถตอบโจทย์ทางอารมณ์และสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง ยูบิลลี่ ไดมอนด์จึงเน้นบริการระดับเวิลด์คลาส ความใส่ใจเฉพาะบุคคล และความน่าเชื่อถือในฐานะแบรนด์เพชรอันดับหนึ่งของไทยที่อยู่คู่สังคมไทยมากว่า 96 ปี” “ช่วงวิกฤตโควิด-19 ถือเป็นบทพิสูจน์ความสามารถในการฟื้นตัวและปรับตัวจากความท้าทายของแบรนด์ ยูบิลลี่ ไดมอนด์ เราปรับตัวอย่างรวดเร็วด้วยการเปิดช่องทางขายออนไลน์ครบวงจร และดูแลลูกค้าผ่านทุกแพลตฟอร์ม พร้อมเดินหน้าพัฒนาในด้านความยั่งยืน เทคโนโลยี และการสื่อสารแบรนด์อย่างโปร่งใส เรายังให้ความสำคัญกับ ‘ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า’ (Customer Insights) และข้อมูลพฤติกรรมการซื้อ เพื่อใช้ในการวางแผนกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบสินค้า บริการ หรือการสร้างแคมเปญสื่อสารที่ตรงใจลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถเชื่อมโยงกับความต้องการเฉพาะบุคคลในแต่ละช่วงชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความท้าทายในการทำธุรกิจลักซ์ชัวรี่ในยุคที่เศรษฐกิจชะลอตัว คือการรักษา ‘ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง’ กับลูกค้า (Brand Affinity) เราเชื่อว่าการให้บริการด้วยความจริงใจ ใส่ใจในทุกรายละเอียด และยึดมั่นในคุณภาพอย่างไม่ประนีประนอม คือหัวใจของแบรนด์ลักซ์ชัวรี่ที่ลูกค้าพร้อมกลับมาเลือกอีกครั้งเสมอเมื่อถึงเวลาสำคัญในชีวิต และการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มใหม่ๆ เช่น Gen Z และกลุ่มผู้มีฐานะรุ่นใหม่ ยูบิลลี่ ไดมอนด์ จึงคิดแคมเปญต่างๆ ที่พูดสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ได้อย่างตรงประเด็น ลงทุนเพื่อสร้างประสบการณ์ด้านดิจิทัลที่ลื่นไหล ปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะบุคคลอย่างแท้จริง สื่อสารอย่างจริงใจเพื่อสร้างความผูกพันที่ยั่งยืน ด้วยหลักการ “ปรับไวแต่ไม่ทิ้งแก่น” โดยยึดมั่นใน 3 แกนหลักของแบรนด์ ได้แก่ ความเป็นเลิศ (Excellence) มรดกแห่งความเชื่อมั่น (Legacy) และความไว้วางใจ (Trust) พร้อมส่งต่อคุณค่าและความเชื่อมั่นจากรุ่นสู่รุ่นอย่างแท้จริง”
: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์
เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง เดือนใหม่ วันใหม่ ชีวิตใหม่ ภาษีใหม่ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง ไม่เหมือนเดิม บนความหวัง...
คุยกับ Genใหม่ TNDT "ธนรรจ์ ศตวุฒิ"
Hooninside
สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้
ชื่อหรือรหัสของคุณไม่ถูกต้อง
Please, check your email format before submit.
Please, Enter you password.
Please, Enter minimum 3 character.
Please, Enter minimum 6 character.
กรุณากรอกอีเมล์ที่คุณใช้สมัครสมาชิกแล้วกดส่งเมล์