Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

104

 

 


ภาพตลาดและแนวโน้ม


SET ไปต่ออีก โดยสถาบันรับไม้ต่อฝรั่ง ดันหุ้นพลังงาน-ปิโตรเครมี-โรงกลั่น ไปต่อ ควบมากับอิเล็กทรอนิกส์ โรงพยาบาล (BH หุ้นแนะนำเมื่อวานบวกดี) ขณะที่แรงขายเมื่อวานออกมาชัดในกลุ่มสื่อสาร TRUE-ADVANC กังวลการแข็งขันรุนแรงขึ้น

แนวโน้มตลาดวันนี้
แตะเบรกช่วงเข้าโค้ง
หลังจากหุ้นไทยพุ่งชนแนวต้านแรก 1,240 จุด แล้ว คาดมีแนวโน้มทดสอบแนวต้านถัดไป 1,250 จุด แต่จากจุดนี้ไป เราขอเริ่มแตะเบรก เพราะความไม่แน่นอนจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค คือ อัตราภาษีตอบโต้สหรัฐฯที่มีต่อไทย 36% ยังต้องรอข้อสรุปหลังพ้นเส้นตาย วันที่ 1 สค.นี้

กรณีที่ ไทย-สหรัฐฯ ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าได้ทัน และไทยโดนอัตราภาษี 36% อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อราคาหุ้นที่ขึ้นมา-ถูกเร่งขายทำกำไรระยะสั้น แต่สุดท้ายจะลงรุนแรงในระดับใด คงต้องขึ้นอยู่กับ แนวทางในการยื่นข้อเสนอกลับไปรอบใหม่เพิ่มเติมและยังมีความหวังในการเจรจาอีกครั้ง ซึ่งความหวังนี้จะช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลงหุ้นไทย...
แต่กรณีที่อัตราภาษีตอบโต้ จบลงได้ก่อนเส้นตาย ในอัตราภาษีกรณี Base case ที่ BLS Research ประเมินความน่าจะเป็นคือ 25% กลยุทธ์คาดว่าหุ้นไทยจะบวกขึ้นต่อ และมีโอกาสผ่าน 1,250 จุด โดยกรณีดีสุดคือ 20% อาจหนุนหุ้นไทยบวกได้ต่อเนื่อง

...ดังนั้นเมื่อเราเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ กลยุทธ์แนะนำ แตะเบรกเก็บกระสุนไว้รอความชัดเจนอีกครั้งในสัปดาห์หน้า โดยเราจะยังถือหุ้นตามพอร์ตกลยุทธ์ไว้ก่อนและไม่เพิ่มการเก็งกำไรหุ้น (อาจแบ่งไม้ขายทำกำไรตาม รายงานกลยุทธ์ทางเทคนิคคอล)

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ ถือหุ้นปันผล เริ่มสะสมหุ้นต้นรอบ ดักงบการเงินไตรมาส 2 และปันผลระหว่างกาล

วิเคราะห์ทางเทคนิค
ผลตอบแทนเดือนก.ค. SET พุ่งทะยาน! มีโอกาสชนะเพื่อนบ้านภูมิภาคเอเชีย...เข้าป้ายอันดับ 1 ล่าสุด +12% ทิ้งห่างเวียดนามที่ 2 +9.5% ใครก็ฉุด SET ไม่อยู่....จับตาดัชนีทะลุ previous high & EMA 200 วัน ขาขึ้น Wave 3 ใหญ่ (5 ย่อย) เตรียมขึ้นสู่ด่าน Fibo 50% ที่ 1,270 โดยมี fund flow เป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญ…

อย่างไรก็ตามระยะสั้นตลาดจะมีความผันผวนมากขึ้นเนื่องจาก RSI เข้าสู่เขตแดน overbought (ไม่ใช่สัญญาณขาย) แนะแผนกันเหนียว กันพลาด! ปรับฐานได้แต่ห้ามลงต่ำกว่าแนวรับ 1210 จุด (EMA 10 วัน) / หุ้นแนะนำ GULF, BDMS และ CPALL ขึ้นได้ตามคาด แต่ยังไม่ถึงเป้าหมายที่ให้ไว้ มีอยู่แนะทยอยซื้อเพิ่ม ส่วนหุ้นที่ขึ้นแรง SCC & PTTGC แนะรอปิดจ๊อบหรืออยากแบ่งขายทำกำไรบ้าง...ไม่ว่ากัน

 

 

What to watch
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะขยายระยะเวลาพักรบทางการค้ากับจีนออกไปอีก 90 วัน ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของภาษีศุลกากรที่จะมีต่อเศรษฐกิจโลก
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน พบปะหารือกันที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เป็นเวลานานกว่าห้าชั่วโมงในวันจันทร์ (28 ก.ค.) ขณะที่ตลาดคาดหวังว่าทั้งสองประเทศอาจตกลงที่จะขยายเส้นตายการบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรออกไปจากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 12 ส.ค.
มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) คงมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
มอร์แกน สแตนลีย์ มีความมั่นใจมากขึ้นว่าดัชนี S&P500 จะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 7,200 จุดภายในกลางปี ซึ่งดีกว่ารายงานในเดือน พ.ค.ที่คาดว่าดัชนี S&P500 จะแตะที่ระดับ 6,500 จุดในไตรมาส 2 ของปี 2569
มาตรการคว่ำบาตร รัสเซีย จากอียู และสหรัฐฯ เพิ่มเติมหลังสงครามรัสเซียยูเครนยังดำเนินต่อไป
ปฏิทินการเมืองในประเทศ คดี “ทักษิณรักษาตัวชั้น 14” ศาลฎีกานัดฟังคำสั่ง วันที่ 9 ก.ย. เวลา 10:00 น. // ศาลรัฐธรรมนูญ อนุญาตให้ นายกแพรทองธาร ขยายเวลาชี้แจงข้อกล่าวหาปมคลิปเสียงเป็นครั้งสุดท้าย 4 ส.ค.นี้

หุ้นแนะนำวันนี้
BH
แนวโน้ม Earnings downward revision เริ่มลดลง อิงจากกำไรปีนี้ที่คาดการณ์ปรับลงแล้วส่วนใหญ่ เหลือ 6.7-7 พันล้านบาท โดยกำไร 1H25 คาดราว 3.3 พันลบ. ช่วยจำกัดความเสี่ยงกำไรต่ำคาด
แนวรับ 155 ต้าน 165 Stop loss 150

 


รายงานพื้นฐานวันนี้

TIDLOR
ติดล้อ โฮลดิ้งส์
เล่นไปได้ถึง 19 บาท แล้วล็อคกำไร
วันนี้เรามีการปรับลดคำแนะนำของ TIDLOR ลงจาก ซื้อ เป็น ถือ เนื่องจากราคาหุ้นของ TIDLOR ปรับเพิ่มขึ้นถึง 32% ในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้สะท้อนมูลค่าพื้นฐานไปแล้ว
ทั้งนี้ หากนักลงทุนมีหุ้น TIDLOR อยู่ เราแนะนำให้ let profit run เนื่องจากเราประเมินว่า กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งใน 2H25 ซึ่งจากการศึกษาของเราพบว่าหุ้นในกลุ่มการเงินจะปรับตัวดีกว่า SET ได้ในช่วง 3 เดือน ก่อนการปรับลดดอกเบี้ย ทำให้ในเชิงกลยุทธ์ เราประเมินว่า TIDLOR จะมี upside ราคาหุ้นอีกราว 6% ก่อนที่จะมีการขายล็อคกำไรออกมาหลังที่มีการปรับลดดอกเบี้ยไปแล้ว ซึ่งเทียบเป็นราคาหุ้น TIDLOR ที่ 19 บาท เรามองว่าจุดนั้นเป็นจุดที่ดีสุดในการขายทำกำไร
ทั้งนี้ เราคาดแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ของ TIDLOR จะฟื้นตัวค่อนข้างช้าใน 2H25 กดดันจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง ซึ่งจะกดดันให้ภาพรวมอุตสาหกรรมสินเชื่อจำนำทะเบียนฟื้นตัวช้าด้วยเช่นกัน

เราคาดกำไรสุทธิ 2Q25 ของ TIDLOR จะอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท ขึ้นทำ new high ต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้น 13% YoY และเพียง 1% QoQ จากสินเชื่อเติบโต ด้านคุณภาพสินทรัพย์ค่อนข้างทรงตัว QoQ

สำหรับแนวโน้มกำไรสุทธิ 3Q25 เราคาดจะเติบโต 19% YoY (จากฐานกำไรที่ต่ำในปีก่อน สินเชื่อที่เติบโตและ credit cost ปรับลดลง) แต่ลดลง 5% QoQ (แนวโน้ม credit cost ปรับเพิ่มขึ้น)

DOHOME
ดูโฮม
GM เหล็กที่ดีขึ้น ไม่พอช่วยให้ภาพรวมฟื้นตัว

คาดกำไรสุทธิของ DOHOME ใน 2Q25 ที่ 161 ล้านบาท ลดลง 16% YoY และ 34% QoQ สาเหตุหลักมาจากยอดขายสาขาเดิม (SSS) ที่ชะลอตัวลงแรงถึง -5.0% โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคมที่ติดลบถึง -8% หลังจากที่เดือนเมษายนลดลง -1% และไตรมาสก่อนหน้าขยายตัวเพียงเล็กน้อย +0.4% สะท้อนภาพรวมของอุปสงค์ที่อ่อนแอทั่วทั้งตลาด ทั้งจากผู้บริโภคปลายทางและกลุ่มลูกค้าโครงการที่ใช้จ่ายน้อยลง

นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังถูกกดดันเพิ่มเติมจากการตรวจสอบคุณภาพสินค้าของ สมอ. ซึ่งนำไปสู่การยึดสินค้าบางรายการ เช่น เหล็กไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้เกิดความกังวลด้านคุณภาพสินค้า และกระทบต่อการตัดสินใจซื้อชั่วคราว อย่างไรก็ดี GM คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยเป็น 17.7% จากการฟื้นตัวของมาร์จิ้นในกลุ่มเหล็กและยอดขายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทที่เพิ่มขึ้น แต่ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยแรงกดดันจากรายได้ที่ลดลงและต้นทุนดำเนินงานที่สูงขึ้นจากการขยายสาขา
อีกหนึ่งประเด็นเชิงลบคือ การเลื่อนการเปิดสาขาใหม่แบบไฮบริด ซึ่งเดิมมีกำหนดใน 2Q25 เนื่องจากอำนาจซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ทำให้แรงกระตุ้นรายได้ต้องเลื่อนไปอย่างเร็วที่สุด คือ 3Q25

Fundamental view: ในภาพรวม เรามองว่า DOHOME ยังเผชิญความท้าทายจากทั้งปัจจัยเชิงวัฏจักร และความไม่แน่นอนทางการเมืองที่อาจชะลอการตัดสินใจจับจ่ายในระยะสั้น ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ “ขาย” จากความเสี่ยงด้านผลประกอบการที่ยังสูง และโอกาสการฟื้นตัวยังจำกัดในครึ่งปีหลัง

 

 

BJC
เบอร์ลี่ ยุคเกอร์
BigC อ่อนแอ
เราคาดกำไรหลัก 2Q25 ที่ 1.10 พันล้านบาท (-8% YoY, -12% QoQ) จากอุปสงค์อ่อนแอในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (โดยเฉพาะลูกค้ากาแฟกระป๋องและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์), BigC ที่มียอดขายสาขาเดิม (SSS) ลดลง -3% (เทียบกับ +2.1% ใน 1Q25) และค่าเช่าลดลง -3% YoY จากการปิดปรับปรุงหลายสาขา ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (GM) ของ BigC ลดลง 50bps YoY เหลือ 18.1% จากสัดส่วนสินค้ามาร์จิ้นสูงลดลง ส่วนกำไรสุทธิ 2Q25 รวม FX loss คาดที่ 985 ล้านบาท (-20% YoY, -10% QoQ)
แนวโน้ม 2H25 ยังน่ากังวลจากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น หลัง SSS เดือน ก.ค. มีแนวโน้มลดลงอีก 1–2% ส่งผลให้ GM ถูกกดดันต่อเนื่อง และมี downside หากมีการลดราคามากกว่าคาด โดยทุก 10bps ที่ GM ต่ำกว่าคาด จะกระทบกำไรหลักทั้งปีราว 2%
Fundamental view: แม้ BJC เทรดที่ PER ปี 2025 เพียง 16.5 เท่า แต่ตลาดยังไม่เห็นสัญญาณกำไรฟื้นชัดเจน ขณะที่ BigC ยังถูกกดดันจากการแข่งขันด้านราคาและ SSS ที่ถดถอย เราจึงยังคงคำแนะนำ "ถือ" ราคาเป้าหมาย 23 บาท และชอบ CPALL มากกว่า

 


รายงานผลประกอบการวันนี้

 


(+) BH รายงานกำไรสุทธิ 2Q25 ที่ 1,858 ล้านบาท ลดลง 4% YoY แต่เพิ่มขึ้น 7% QoQ สวนทางปัจจัยฤดูกาลที่ปกติแล้วจะเป็น low season ในไตรมาส 2 โดยกำไรสูงกว่าที่เราคาด 13% จาก GM ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ (ATH) และ SG&A ที่ต่ำมาก และสูงกว่าตลาดคาด 9% จาก SG&A ที่ต่ำกว่าคาดมาก นอกจากนี้ BH ประกาศจ่ายปันผล 2 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Div. yield 1.3% ขึ้น XD 14 ส.ค. แนวโน้มกำไรหลัก 3Q25 คาดจะลดลงเล็กน้อย ถึงทรงตัว YoY แต่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง QoQ เรามองว่า BH ทำ GM และ lean ได้ค่อนข้างดีถึงแม้จะเป็นช่วง low season ของผู้ป่วยชาวต่างชาติ ดังนั้นเรามองว่าหากเข้า high season แล้วจะยิ่งเห็น economy-of-scale ตั้งแต่ 3Q25 เป็นต้นไป


(+) SCC รายงานกำไรสุทธิ 2Q25 ที่ 1.73 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5-เท่า YoY และ 15-เท่า QoQ หักรายการพิเศษ เช่น จากการปรับมูลค่าสินทรัพย์ และขาดทุนสต๊อค กำไรหลักอยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท ลดลง 24% YoY แต่เพิ่มขึ้น 160% QoQ กำไรหลักก็ยังดีกว่าที่คาด 8% จากรายได้อื่นดีกว่าคาด พร้อมทั้งประกาศจ่ายเงินปันผล 2.50 บาท คิดเป็น Div. yields 1.2% ขึ้น XD 13 ส.ค. แนวโน้ม 3Q25 คาดเห็นกำไร Turnaround YoY จากทุกธุรกิจ (แต่ลดลง QoQ ตามฤดูกาล) เราแนะนำ let-profit-run

 

สรุปประเด็นจาก Quick take

TFG

ไทยฟู้ดส์กรุ๊ป


มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
เราคาดรายได้ 2Q25 โต 5% QoQ หนุนจากทั้งปริมาณและราคาขายหมู และธุรกิจรีเทล ธุรกิจหมูไทยและเวียดนามคือตัวชูโรงสำหรับ 2Q25 ด้วยปริมาณขายที่จะเพิ่มขึ้น 30% QoQ เนื่องจากการขยายกำลังการผลิตในเวียดนาม

View from fundamental: เรามองว่ายังมีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรปี 2025 ของเรา อย่างไรก็ดี การปรับลดลงของราคาเนื้อสัตว์ในเดือน ก.ค. 2025 อาจกดดันกำไร 3Q25 จึงมองเป็นโอกาสทำกำไรระยะสั้นจากงบที่จะออกมาดีกว่าคาด


วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

บรรลุการค้า..แล้ว By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ในที่ประเทศไทย ก็บรรลุการค้า ภาษีกับสหรัฐ แล้ว แต่ตัวเลขที่เท่าไรนั้น คาดการณ์กันไปต่างๆนาๆ..

ช่วยกันแบก By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม วันก่อน ต่างชาติซื้อ วานนี้ขาย ฝั่ง สถาบันในประเทศ ซื้อ นำพาSET ไปต่อ ทะลุ 1,238 จุด เส้นกราฟ เส้นเทคนิค ...

มัลติมีเดีย

คุยกับ Genใหม่ TNDT "ธนรรจ์ ศตวุฒิ"

คุยกับ Genใหม่ TNDT "ธนรรจ์ ศตวุฒิ"

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้