Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

106

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 30 ก.ค.68 ปิด +10.46 จุด อยู่ที่ 1,244.14 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,670 ลบ. สถาบันซื้อ 2,161 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 629 ลบ. ต่างชาติขาย 264 ลบ. และรายย่อยขาย 266 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 1.9 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น PTT,TRUE,SCC,BANPU,SCB และยอดขายหุ้น PTTEP,BH,AOT,AMATA,TOP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,535 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ HMPRO,LH,SPALI โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 2,455 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 112,692 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 67 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ -0.38%, S&P500 -0.12%, Nasdaq +0.15% จากแรงขายกลุ่มวัสดุ -2%, อสังหา -1.4% ขณะที่กลุ่มสาธาณูปโภค +0.7%, เทคโนโลยี +0.43% หลังเฟดมีมติ 9 – 2 เสียงคงดอกเบี้ยที่ 4.25 – 4.50% เป็นการตรึงดอกเบี้ยครั้งที่ 5 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.02% ทรงตัวรอผลการประชุมเฟด ขณะที่กลุ่มยานยนต์ เช่น Porschs, Mercedes-Benz และกลุ่มของใช้ส่วนตัว Adidas ปรับลดลงจาก ม.ปรับขึ้นภาษีของสหรัฐ
  • Market View
  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA, S&P500 ปรับลดลง หลังผลการประชุมเฟดมีมติ 9 - 2 เสียง คงดอกเบี้ยที่ 4.25 - 4.50% เนื่องจากอัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ, ตลาดแรงงานขยายตัวได้ ขณะที่เงินเฟ้อสหรัฐยังอยู่ในระดับสูง ดังนั้น ปธ.เฟดประเมินยังเร็วเกินไป ที่จะตัดสินใจลดดอกเบี้ยในการประชุม ก.ย. หรือไม่ ระหว่างรอประเมินผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีของสหรัฐ ส่งผลให้ CME FedWatch ชี้มีโอกาส 53.5% ลดลงจากเดิม 68% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย.ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยี้ Microsoft , Meta Platforms รายงานกำไรไตรมาสที่ผ่านมาดีกว่าคาดการณ์ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ US GDP Q2/68 คาด +3.0% ดีกว่าคาด +2.3% & Q1/68 -0.5% QoQ และ ADP เผยการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ ก.ค. เพิ่มขึ้น 104,000 & คาด 64,000 ตำแหน่ง ส่วนค่ำวันนี้ติดตาม US PCE มิ.ย.และวันศุกร์ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ก.ค.คาดเพิ่มขึ้น 108,000 & มิ.ย. 147,000 ราย, อัตราว่างงาน ก.ค. คาดที่ 4.2% & มิ.ย. 4.1%
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิดทรงตัว ได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคารที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก ม.ภาษีของสหรัฐ ขณะที่กลุ่มยานยนต์ปรับลดลง นำโดย Porsche -1.6% หลังจะต้องปรับขึ้นราคาขายรถยนต์ที่ส่งออกไปสหรัฐ เช่นเดี่ยวกับ Mercedes – Benz -3.4% จากคาดการณ์จะได้รับผลกระทบ $420 ล. จาก ม.ภาษีสหรัฐ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ GDP ยูโรโซน Q2/68 ขยายตัว +1.4% & Q1/68 ที่ +1.5% แต่ดีกว่าคาด +1.2% YoY และวันศุกร์ติดตามข้อมูล CPI ยูโรโซน ก.ค.คาด 1.9% & มิ.ย. 2.0% YoY
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.17% รอผลการเจรจาเลื่อนเส้นตาย ม.ผ่อนผันทางการค้าออกไปอีก 90 วัน หลังวันที่ 12 ส.ค. ได้หรือไม่ ขณะที่ดัชนี Kospi เกาหลีใต้วานนี้ +0.74% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Samsung Electronics +2.8% กอปรกับเกาหลีใต้สามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ โดยสหรัฐจะเก็บภาษีสินค้าเกาหลีใต้ในอัตรา 15% ขณะที่อินเดียถูกสหรัฐเก็บภาษีในอัตรา 25% เนื่องจากอินเดียซื้ออาวุธและพลังงานจากรัสเซีย วันนี้ติดตามผลการประชุม BOJ และวันศุกร์ PMI ภาคการผลิตญี่ปุ่น, จีน ก.ค.
  • SET วานนี้ +0.85% ปริมาณการซื้อขาย 4 หมื่น ลบ. สถาบันซื้อ 2,161 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 629 ลบ. ต่างชาติขาย 264 ลบ.และรายย่อยขาย 1,266 ลบ. โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานที่ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่กลุ่มปิโตรเคมี & วัสดุก็ปรับขึ้นจากคาดการณ์กำไรมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น จาก ม.ปรับลดอุปทานสินค้าอุตสาหกรรมของจีน ส่วนหุ้นกลุ่มส่งออกก็เริ่มฟื้นตัว จากความหวังเชิงบวกต่อผลการเจรจาข้อตกลงการค้าของไทยจะได้ในอัตราใกล้เคียงกับกลุ่มอาเซียนที่ +/-20% ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ สศค.ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้อยู่ที่ 2.2% & เดิม 2.1% YoY หลังภาคอุตสาหกรรม & ส่งออกไทยขยายตัวดีกว่าคาด ประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้ คือ ผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – ไทย และรายงานกำไร บจ. เช่น BH, ITC หลังวานนี้ SCC รายงานกำไร Q2/68 อยู่ที่ 17,337 ลบ. +368% YoY สาเหตุมาจากกำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างของโครงการ CAP มูลค่า 15,170 ลบ.   

Daily Strategy

  • ประเมินดัชนี SET 1,230 – 1,240 แนวต้าน 1,250 หลังดัชนีสามารถผ่าน EMA 200 วันที่ระดับ 1,238 จุดได้ จากความหวังเชิงบวกต่อผลการเจรจาการค้า  แนะนำทยอยซื้อกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี เช่น SCC, SCGP, PTTEP,PTTGC,IVL/ เก็งกำไร ITC,TU,KCE,HANA,CCET คาดได้ปัจจัยบวกของการเจรจาการค้าไทย – สหรัฐ  และหุ้น SET 100 ที่ยัง Underperform เช่น SAWAD, KTC, JMT, DOHOME, AMATA, BGRIM, ERW, BTS
  • PLANB* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 7.25 บาท) คาดกำไร 2Q68 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ รายได้ในส่วนของสื่อโฆษณานอกบ้านยังเติบโตโดยมี utilization rate ปรับตัวดีขึ้นที่ 72% จาก 68%ใน 1Q68 ส่วนกำไรครึ่งปีหลังแนวโน้มยังเป็นบวกเนื่องจากมีรายได้ค่าบริหาร VGI และรายได้บริหารสิทธิ์ฟุตบอล Premier League เข้ามาหนุน IAA consensus คาดกำไรปี 68 ที่ 1,154 ลบ. +10%YoY
  • SHR* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 2.34 บาท) หุ้นท่องเที่ยวมี sentiment บวกจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยทะยอยฟื้นตัวในระยะสั้น โดย วันที่ 14-20 ก.ค.68 +7%WoW และ 21-27 ก.ค.68 +1%WoW ทั้งนี้ ในส่วนของ SHR คาดว่าการดำเนินงานปกติ 2Q68 จะมีแรงหนุน YoY จากจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามัลดีฟส์ +16%YoY และเมื่อมองในช่วงหลังไตรมาส2 ถัดไป 1-29ก.ค.68 นักท่องเที่ยวเข้ามัลดีฟส์ยัง +11%YoY ขณะที่เดือนก.ค.-ส.ค.เป็นHigh Season ของโรงแรมใน UK ปัจจุบัน ตลาดคาด Profit ปี68 และ69 ของ SHR* ที่ 397 ลบ.(+147%YoY) และ 494 ลบ.(+25%YoY) ตามลำดับ

 

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 30 ก.ค.68 ปิด +10.46 จุด อยู่ที่ 1,244.14 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,670 ลบ. สถาบันซื้อ 2,161 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 629 ลบ. ต่างชาติขาย 264 ลบ. และรายย่อยขาย 266 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 1.9 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น PTT,TRUE,SCC,BANPU,SCB และยอดขายหุ้น PTTEP,BH,AOT,AMATA,TOP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,535 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ HMPRO,LH,SPALI โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 2,455 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 112,692 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 67 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ -0.38%, S&P500 -0.12%, Nasdaq +0.15% จากแรงขายกลุ่มวัสดุ -2%, อสังหา -1.4% ขณะที่กลุ่มสาธาณูปโภค +0.7%, เทคโนโลยี +0.43% หลังเฟดมีมติ 9 – 2 เสียงคงดอกเบี้ยที่ 4.25 – 4.50% เป็นการตรึงดอกเบี้ยครั้งที่ 5 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.02% ทรงตัวรอผลการประชุมเฟด ขณะที่กลุ่มยานยนต์ เช่น Porschs, Mercedes-Benz และกลุ่มของใช้ส่วนตัว Adidas ปรับลดลงจาก ม.ปรับขึ้นภาษีของสหรัฐ
  • Market View
  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA, S&P500 ปรับลดลง หลังผลการประชุมเฟดมีมติ 9 - 2 เสียง คงดอกเบี้ยที่ 4.25 - 4.50% เนื่องจากอัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ, ตลาดแรงงานขยายตัวได้ ขณะที่เงินเฟ้อสหรัฐยังอยู่ในระดับสูง ดังนั้น ปธ.เฟดประเมินยังเร็วเกินไป ที่จะตัดสินใจลดดอกเบี้ยในการประชุม ก.ย. หรือไม่ ระหว่างรอประเมินผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีของสหรัฐ ส่งผลให้ CME FedWatch ชี้มีโอกาส 53.5% ลดลงจากเดิม 68% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย.ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยี้ Microsoft , Meta Platforms รายงานกำไรไตรมาสที่ผ่านมาดีกว่าคาดการณ์ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ US GDP Q2/68 คาด +3.0% ดีกว่าคาด +2.3% & Q1/68 -0.5% QoQ และ ADP เผยการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ ก.ค. เพิ่มขึ้น 104,000 & คาด 64,000 ตำแหน่ง ส่วนค่ำวันนี้ติดตาม US PCE มิ.ย.และวันศุกร์ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ก.ค.คาดเพิ่มขึ้น 108,000 & มิ.ย. 147,000 ราย, อัตราว่างงาน ก.ค. คาดที่ 4.2% & มิ.ย. 4.1%
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิดทรงตัว ได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคารที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก ม.ภาษีของสหรัฐ ขณะที่กลุ่มยานยนต์ปรับลดลง นำโดย Porsche -1.6% หลังจะต้องปรับขึ้นราคาขายรถยนต์ที่ส่งออกไปสหรัฐ เช่นเดี่ยวกับ Mercedes – Benz -3.4% จากคาดการณ์จะได้รับผลกระทบ $420 ล. จาก ม.ภาษีสหรัฐ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ GDP ยูโรโซน Q2/68 ขยายตัว +1.4% & Q1/68 ที่ +1.5% แต่ดีกว่าคาด +1.2% YoY และวันศุกร์ติดตามข้อมูล CPI ยูโรโซน ก.ค.คาด 1.9% & มิ.ย. 2.0% YoY
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.17% รอผลการเจรจาเลื่อนเส้นตาย ม.ผ่อนผันทางการค้าออกไปอีก 90 วัน หลังวันที่ 12 ส.ค. ได้หรือไม่ ขณะที่ดัชนี Kospi เกาหลีใต้วานนี้ +0.74% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Samsung Electronics +2.8% กอปรกับเกาหลีใต้สามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ โดยสหรัฐจะเก็บภาษีสินค้าเกาหลีใต้ในอัตรา 15% ขณะที่อินเดียถูกสหรัฐเก็บภาษีในอัตรา 25% เนื่องจากอินเดียซื้ออาวุธและพลังงานจากรัสเซีย วันนี้ติดตามผลการประชุม BOJ และวันศุกร์ PMI ภาคการผลิตญี่ปุ่น, จีน ก.ค.
  • SET วานนี้ +0.85% ปริมาณการซื้อขาย 4 หมื่น ลบ. สถาบันซื้อ 2,161 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 629 ลบ. ต่างชาติขาย 264 ลบ.และรายย่อยขาย 1,266 ลบ. โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานที่ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่กลุ่มปิโตรเคมี & วัสดุก็ปรับขึ้นจากคาดการณ์กำไรมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น จาก ม.ปรับลดอุปทานสินค้าอุตสาหกรรมของจีน ส่วนหุ้นกลุ่มส่งออกก็เริ่มฟื้นตัว จากความหวังเชิงบวกต่อผลการเจรจาข้อตกลงการค้าของไทยจะได้ในอัตราใกล้เคียงกับกลุ่มอาเซียนที่ +/-20% ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ สศค.ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้อยู่ที่ 2.2% & เดิม 2.1% YoY หลังภาคอุตสาหกรรม & ส่งออกไทยขยายตัวดีกว่าคาด ประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้ คือ ผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – ไทย และรายงานกำไร บจ. เช่น BH, ITC หลังวานนี้ SCC รายงานกำไร Q2/68 อยู่ที่ 17,337 ลบ. +368% YoY สาเหตุมาจากกำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างของโครงการ CAP มูลค่า 15,170 ลบ.   

Daily Strategy

  • ประเมินดัชนี SET 1,230 – 1,240 แนวต้าน 1,250 หลังดัชนีสามารถผ่าน EMA 200 วันที่ระดับ 1,238 จุดได้ จากความหวังเชิงบวกต่อผลการเจรจาการค้า  แนะนำทยอยซื้อกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี เช่น SCC, SCGP, PTTEP,PTTGC,IVL/ เก็งกำไร ITC,TU,KCE,HANA,CCET คาดได้ปัจจัยบวกของการเจรจาการค้าไทย – สหรัฐ  และหุ้น SET 100 ที่ยัง Underperform เช่น SAWAD, KTC, JMT, DOHOME, AMATA, BGRIM, ERW, BTS
  • PLANB* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 7.25 บาท) คาดกำไร 2Q68 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ รายได้ในส่วนของสื่อโฆษณานอกบ้านยังเติบโตโดยมี utilization rate ปรับตัวดีขึ้นที่ 72% จาก 68%ใน 1Q68 ส่วนกำไรครึ่งปีหลังแนวโน้มยังเป็นบวกเนื่องจากมีรายได้ค่าบริหาร VGI และรายได้บริหารสิทธิ์ฟุตบอล Premier League เข้ามาหนุน IAA consensus คาดกำไรปี 68 ที่ 1,154 ลบ. +10%YoY
  • SHR* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 2.34 บาท) หุ้นท่องเที่ยวมี sentiment บวกจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยทะยอยฟื้นตัวในระยะสั้น โดย วันที่ 14-20 ก.ค.68 +7%WoW และ 21-27 ก.ค.68 +1%WoW ทั้งนี้ ในส่วนของ SHR คาดว่าการดำเนินงานปกติ 2Q68 จะมีแรงหนุน YoY จากจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามัลดีฟส์ +16%YoY และเมื่อมองในช่วงหลังไตรมาส2 ถัดไป 1-29ก.ค.68 นักท่องเที่ยวเข้ามัลดีฟส์ยัง +11%YoY ขณะที่เดือนก.ค.-ส.ค.เป็นHigh Season ของโรงแรมใน UK ปัจจุบัน ตลาดคาด Profit ปี68 และ69 ของ SHR* ที่ 397 ลบ.(+147%YoY) และ 494 ลบ.(+25%YoY) ตามลำดับ

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง,  Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง    

 

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

 

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

 

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

 

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

 

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

 

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2025: MONO*, PR9*, IVL*,PTTGC*,GULF*, TIDLOR*, BH

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

บรรลุการค้า..แล้ว By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ในที่ประเทศไทย ก็บรรลุการค้า ภาษีกับสหรัฐ แล้ว แต่ตัวเลขที่เท่าไรนั้น คาดการณ์กันไปต่างๆนาๆ..

ช่วยกันแบก By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม วันก่อน ต่างชาติซื้อ วานนี้ขาย ฝั่ง สถาบันในประเทศ ซื้อ นำพาSET ไปต่อ ทะลุ 1,238 จุด เส้นกราฟ เส้นเทคนิค ...

มัลติมีเดีย

คุยกับ Genใหม่ TNDT "ธนรรจ์ ศตวุฒิ"

คุยกับ Genใหม่ TNDT "ธนรรจ์ ศตวุฒิ"

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้