คาด SETIndexผันผวนในกรอบ:แรงหนุนจากมุมมองที่ดีขึ้นของ IMFต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงไทย ประกอบกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนมีสัญญาณเชิงบวก รวมถึงคาดได้แรงหนุนจากราคาน้ามันดิบที่พุ่งขึ้นหากแต่มองทางขึ้นจ ากัดจากความกังวลสถานการณ์ชายแดน และการรอติดตามผลการประชุม FOMC

1,225 –1,240

กลยุทธ์การลงทุน
1) เก็ งงบ 2Q68: ADVANC, AP, BCH, BDMS,GULF, PR9, SCC, TIDLOR, TOP
2) China play: BCP, HANA, NER, PTTEP,PTTGC, SCGP, SPRC, STA, STGT
3) Europe play: IVL, KCE, MINT, SHR
4) Dividend play: KBANK, KTB, ROJNA, SAT

สัญญาณบวกของเศรษฐกิจโลก

เศรษฐกิจโลกลดความกังวลภาษีทรัมป์:คาดแรงหนุนเชิงบวกมาจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่บรรลเทาลง รวมถึงมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยในสายตาของหน่วยงานทางเศรษฐกิจระดับโลกที่ดีข้นึ สอดรบั กับการที่IMF ได้ปรบั ข้ึนคาดการณ์GDP โลกปี 68 และ 69 เป็น 3% และ 3.1%จากคาดเดิมในเดือนเม.ย.68 ที่ 2.8%และ 3%ตามลำดับ โดยเป็นผลจากการเร่งนำเข้าสินค้าก่อนมาตรการภาษีของสหรัฐฯจะมีผลบังคับใช้ การทยอยปรับลดภาษีศุลกากรกับหลายประเทศ สภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายมากข้ึน และการขยายตัวทางการคลังในเขตเศรษฐกิจหลักบางประเทศและเมื่อพิจารณาเศรษฐกิจสำคัญ IMF คาดการณ์ว่า GDP ในปีนี้ของ1) สหรัฐฯจะขยายตัว 1.9% ปรับขึ้นจากคาดเดิมที่ 1.8% 2) ยูโรโซนจะขยายตัว 1%ปรับขึ้นจากคาดเดิมที่ 0.8%และ 3) จีนจะขยายตัว 4.8%ปรับขึ้นจากคาดเดิมที่ 4% ส่วน GDPไทยคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 2%ในปี 68 และ 1.7% ในปี 69 ปรับขึ้นจาก 1.8% และ 1.6% ตามลำดับ

เจรจาสหรัฐฯ-จีนมีสัญญาณบวก: คาดได้ Sentiment เชิงบวกจากความสัมพันธ์ของ 2 เศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มดีขึ้น หลังเมื่อวานนี้สหรัฐฯและจีนได้เสร็จสิ้นการเจรจาการค้าที่สวีเดนโดยทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงที่จะขยายระยะเวลาการระงับข้ึนภาษีศุลกากรระหว่างกันออกไป และคุณกรีเออร์ ผู้แทน USTRเผยว่าจะหารือกับปธน.ทรัมป์เกี่ยวกับการอนุมัติการขยายเวลาผ่อนผันการข้ึนภาษีศุลกากรกับจีน นอกจากนี้ ความหวังว่าสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศคู่ค้ารายใหญ่จะคลี่คลายลง และการที่ปธน.ทรัมป์กดดันให้รัสเซียเร่งยุติสงครามในยูเครน ได้เป็นแรงหนุนให้ราคาน้ามันดิบ WTIปรบั ตัวข้ึน3.75% ปิดที่ $69.21 ต่อบาร์เรล ซึ่งเรามองเป็นแรงหนุนต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน

สถานการณ์ชายแดนยังน่ากังวล+ติดตาม FOMC:มองทางขึ้นจำกัดโดยคาดแรงกดดันมาจากความกังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาแม้เมื่อวานนี้เวลา 10.00 น. จะมีการหารือในระดับของกองทัพเพื่อลดความตึงเครยีดซ่งึรวมถึงการหยุดยิงเด็ดขาด หากแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาโฆษกกองทัพบกเผยว่ามีเหตุใช้อาวุธปะทะกัน 2 พื้นที่ ได้แก่ ภูมะเขือและช่องอานม้า นอกจากนี้มองทางขึ้นจำกัดจากการที่นักลงทุนยังรอติดตามผลการประชุม FOMC ซึ่งตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25-4.5% รวมถึงติดตามการเผย GDP2Q68 ของสหรัฐฯและยูโรโซนคืนนี้

ปัจจัยเพิ่มเติม
(+)ก.คลังออกมาตรการเพื่อช่วยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน ได้แก่ มาตรการในระดับพื้นที่ มาตรการด้านภาษีและมาตรการของสถาบันการเงินของรัฐ อาทิ ขยายวงเงินทดรองราชการให้ผู้ว่าราชการ 7 จังหวัด จังหวัดละ 100 ล้าน ลดหย่อนค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัย เป็นต้น
(+)จีนเพิ่มรายจ่ายด้านสวัสดิการสังคมมากที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี โดยรายจ่ายภาครัฐด้านสังคมครอบคลุมตั้งแต่การศึกษา การจ้างงาน ไปจนถึงระบบประกันสังคม พุ่งแตะเกือบ 5.7 ล้านล้านหยวน ในช่วง 1H68 เพิ่มข้ึน 6.4% yy และถือเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปี2550
(-) กรมพัฒฯเผยเดือนมิ.ย.68 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 7,023 ราย ลดลง 4.46% y-yและมีทุนจดทะเบียน 18,113 ล้านบาท ลดลง 35.26% y-y ส่วนการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการเดือนมิ.ย.68 มีจำนวน 1,468 ราย เพิ่มข้ึน 3.67%y-y และมีทุนจดทะเบียนเลิก 10,403 ล้านบาท เพิ่มข้ึน 112.16% y-y

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์