Today’s NEWS FEED

News Feed

InnovestX คาด SET วันนี้ แกว่งตัวไซด์เวย์/แกว่งขึ้น - Fund Flow ยังไหลเข้า

94

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 30 กรกฎาคม 2568 )---InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์/แกว่งขึ้น หลังสถานการณ์ไทย-กัมพูชาคลี่คลายและความคาดหวังว่าการเจรจาภาษีศุลกากรสหรัฐฯ จะมีข้อสรุปก่อนเส้นตาย 1 ส.ค. นี้ ขณะที่ Fund Flow ยังมีสัญญาณไหลเข้า นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิอีกที่ 3.3 พันลบ. แนวรับประเมินไว้ที่ 1225/1220 ส่วนแนวต้านประเมินไว้ที่ 1240/1255

 


ประเด็นสำคัญ
• กองทัพบก (ทบ.) เผยผลการประชุมระหว่างผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาในหลายจุดปะทะร่วมกันเห็นชอบการหยุดยิงและห้ามเสริมกำลังหรือเคลื่อนย้ายกำลังเพื่อหลีกเลี่ยงความหวาดระแวง และให้ผู้นำแต่ละระดับสามารถติดต่อกันได้เมื่อมีเหตุจำเป็น
• เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนเผยได้ตกลงจะขยายระยะเวลาการระงับขึ้นภาษีศุลกากรระหว่างกันออกไป หลังเสร็จสิ้นการเจรจาที่สวีเดนแล้ว อย่างไรก็ดีทั้งสองฝ่ายไม่ได้ประกาศความคืบหน้าเจรจาหรือกำหนดเวลาที่ชัดเจน
• IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP โลกปี 2568 ขึ้นเป็น 3.0% จากเดิมที่ 2.8% หลังพบว่าหลายประเทศมีการเร่งซื้อสินค้ามากกว่าที่คาดก่อนเส้นตายวันที่ 1 ส.ค. และอัตราภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ที่แท้จริงต่ำกว่าที่ประกาศไว้ แต่ยังเตือน ศก. โลกยังมีความเสี่ยงอยู่ ส่วนคาดการณ์ GDP ปี 2568ของไทยถูกปรับขึ้นเช่นกันสู่ 2.0% จาก 1.8%
• รมต. พาณิชย์สหรัฐฯ ยืนยันว่ากำหนดเส้นตายการเริ่มบังคับใช้ภาษีศุลกากรในวันที่ 1 ส.ค. นี้จะไม่มีการเลื่อนออกไปอีก แม้ว่ากำหนดการสำหรับจีนจะแตกต่างออกไปที่ล่าสุดได้มีการเจรจาในกรุงสต็อกโฮล์ม ซึ่งตกลงจะสิ้นสุดในวันที่ 12 ส.ค. นี้ และเผยเพิ่มว่า ปธน. ได้ปฏิเสธข้อเสนอจากหลายประเทศ และต้องการข้อเสนอที่เปิดตลาดให้สหรัฐฯหมด 100%
• จำนวน นทท. ต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในสัปดาห์ก่อน (21-27 ก.ค.) ยังคงมีแนวโน้มขยายตัว โดยเพิ่มขึ้น 1%WoW แตะ 618,285 คน การขยายตัวนำโดย เกาหลีใต้, จีน, มาเลเซีย และไต้หวัน เนื่องจากอยู่ในช่วงวันหยุดช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน ทำให้จำนวน นทท. สะสมทั้งปี 2568 เป็น 18,983,936 คน ลดลงจากปีก่อน 6.2%YoY

 

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยประเมินการฟื้นตัวของ SET มายืนเหนือระดับ 1200 จุด ใกล้เป้าหมายที่ประเมินระดับ 1230-1250 จุด ซึ่งสะท้อนความคาดหวังสหรัฐฯ จะเก็บภาษีจากไทยเท่ากับหรือต่ำกว่า 20% คาด SET เริ่มมี Upside จำกัดและอาจต้องระมัดระวังหากการเจรจาไม่ประสบผลหรือเกิด Sell on Fact ได้หากจบดีลการค้าตามที่คาดหวังได้จริง ส่วนความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชามองกระทบจำกัดต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย เพราะมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจกันน้อยและไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยต่อหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50/SET100 อย่างไรก็ดีหาก Fund Flow ยังไหลเข้า คาดมีโอกาสจะหนุนให้ในระยะถัดไป SET กลับไปซื้อขายที่ PER เฉลี่ยระยะยาวอีกครั้งที่ระดับ 16 เท่า หรือ 1376 จุด กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 


แนวรับ – แนวต้าน : 1225/1220– 1240/1255

 


ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET แกว่งตัว Sideways และเริ่มมี Upside จำกัด ระหว่างรอติดตามผลสรุปอัตราภาษีศุลกากรใหม่ที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บจากไทยหลังการเจรจาการค้าเสร็จสิ้นไปแล้ว ก่อนจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. นี้ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play โมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ 3Q68 คาดกำไรยังเติบโต YoY แนะนำ ADVANC BCH CBG CPALL SCCC
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลช่วง 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
3. Trading Idea: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Laggard Play ซึ่งคาดได้อานิสงส์หาก Fund Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง โดยเลือกหุ้น SET50 ซึ่งราคาหุ้นปรับขึ้น MTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก โด(PBV และ PER 2568F < -1SD) และพื้นฐานดี แนะนำ BDMS CPALL MINT MTC PTT 2) หุ้นที่คาดฟื้นตัวเร็วและเชื่อว่าการเจรจาจะทำให้สหรัฐฯ พิจารณาปรับลดภาษีไทยลงมาที่ระดับ 20% หรือต่ำกว่า จะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นและทำให้ FDI กลับเข้าสู่ไทย แนะนำ AMATA GPSC WHA และ 3) หุ้นที่คาดฟื้นตัวเร็วและเชื่อว่าความขัดแย้งไทย-กัมพูชาจะคลี่คลายลงหรือยุติได้เร็ว แนะนำ AEONTS CBG


Daily Top Picks
GLOBAL: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากยอดขายสาขาเดิม (SSS) เดือนก.ค. ที่ปรับตัวดีขึ้น ลดลงเพียง 3.5% YoY ถือว่าดีที่สุดตั้งแต่ต้นปีและฟื้นตัวดีที่สุดในกลุ่มจากไตรมาสก่อน คาดว่า SSS ใน 2H68 จะยังดีขึ้นต่อจากฐานต่ำ ราคาหุ้นสะท้อนผลประกอบการ 2Q68 ที่อ่อนแอไประดับหนึ่งแล้ว

LHSC: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากความคาดหวังที่ กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 2 ครั้ง (ครั้งละ 25bps) ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ขณะเดียวกันคาดกำไร 2Q68 จะเติบโตเด่น 98.7%YoY และจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องใน 3Q68 อีกทั้งยังปันผลสูง โดยคาดให้ Div. Yield ปีนี้สูงราว 9.6%

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หุ้นพลังงาน By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นหุ้นกลุ่มพลังงาน หุ้นใหญ่หลายตัว ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้วยกระแสเงินทุน หลังจาก .....

มัลติมีเดีย

คุยกับ Genใหม่ TNDT "ธนรรจ์ ศตวุฒิ"

คุยกับ Genใหม่ TNDT "ธนรรจ์ ศตวุฒิ"

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้