---ยอดขายโตแกร่ง...แต่ Valuation แพง---
Review ผลประกอบการ 2Q25 - กำไรสุทธิ 2Q25 ลดลง -30% y/y และ -16% q/q เป็น 4.6 พันล้านบาท (EPS เท่ากับ 0.37 บาท) แม้ว่ารายได้รูปดอลลาร์สหรัฐเติบโตดี +18% y/y เป็น 1.3 พันล้านดอลลาร์ นำโดยการขยายตัวของยอดขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับ AI, data center, cloud และ networking
ปัจจัยหลักที่กดดันกำไรสุทธิ 2Q25 คือ 1) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ลดลงเป็น 25% จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ, 2) ค่าใช้จ่าย R&D เพิ่มมาก +42% y/y, 3) ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 58 ล้านบาท (จากกำไรอัตราแลกเปลี่ยน 379 ล้านบาทใน 2Q24), 4) มีค่าใช้จ่ายภาษีเพิ่มเติมจากกฎภาษีขั้นต่ำของ OECD ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 1Q25, 5) มีค่าใช้จ่ายกรณีข้อพิพาทสิทธิบัตร (patent-related settlement)
ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ณ สิ้นมิ.ย.25 มีเงินสดสุทธิ 11.7 พันล้านบาท
แนวโน้ม – ยอดขายมีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อ ผู้บริหารปรับเพิ่มเป้าหมายการเติบโตยอดขายปีนี้เป็น 15-20% (เดิม 10-15%) นำโดยยอดขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับ AI
เชื่อว่าอัตราภาษีทรัมป์จะใกล้เคียงภูมิภาค อัตราภาษีศุลกากรทรัมป์ยังไม่แน่นอน แต่คาดว่าสุดท้ายแล้วทางการไทยจะเจรจาให้ได้อัตราภาษีจะใกล้เคียงกับภูมิภาคที่ 19-20% ซึ่งยังเกื้อหนุนความสามารถในการแข่งขันภาคส่งออก รวมถึง DELTA ทั้งนี้ตลาดสหรัฐ ยังคงเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของ DELTA คิดเป็นประมาณ 30% ของรายได้รวม
การแข็งค่าของเงินบาท กดดันมาร์จิ้น โดยการแข็งค่าของเงินบาททุกๆ 1 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จะทำให้ GPM ลดลง 1% เมื่อปัจจัยอื่นคงที่
คำแนะนำการลงทุน – ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิปี 25F-26F แต่ยังคงคำแนะนำ Fully Valued เราปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิปี 25F-26F ขึ้น 8%-13% สะท้อนยอดขายและ GPM ที่ดีกว่าคาดใน 1H25 และยอดขายยังมีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อ ซึ่งทำให้กำไรหลักปี 25F โต 7% และขยายตัว 19% ในปี 26F อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปัจจุบันมี P/E สูงถึง 87 เท่า และมี downside จากราคาพื้นฐานที่ให้ไว้ 88 บาท อิงกับ P/E ปีนี้ที่ 54 เท่า (Mean 5 ปี)
นักวิเคราะห์ : จันทร์เพ็ญ ศิริธนารัตนกุล : chanpens@dbs.com : Tel. 02 857 7824