ภาวะตลาด : SET Index วันศุกร์แกว่งตัว โดยความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชากระทบ Sentiment การลงทุน แต่ก็มีผลต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องไม่มาก ทั้งนี้ยังมีแรงซื้อหุ้นใหญ่พยุงตลาด ได้แก่ AOT, PTT, CPF, DELTA, KCE, HANA เป็นต้น ปิดตลาดดัชนีอยู่ที่ 1217.15 เพิ่มขึ้น +4.66 จุด (+0.38%) มูลค่าซื้อขายลดเป็น 3.6 หมื่นลบ. นักลงทุนต่างชาติและสถาบันในปท.ขายสุทธิ -267 และ -326 ลบ. ตามลำดับ

ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ & อียู: เมื่อ 27 ก.ค.บรรลุข้อตกลงทางการค้า โดยสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้าจากยุโรปส่วนใหญ่ในอัตรา 15% ส่วนภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมยังอยู่ที่ 50% แต่ยกเว้นภาษีนำเข้าบางประเภท เช่น เครื่องบินและอะไหล่ สารเคมีบางชนิด ยา genetic ผลิตภัณฑ์กึ่งตัวนำสินค้าเกษตรบางชนิด ฯลฯ ขณะที่ยุโรปตกลงที่จะลงทุนในสหรัฐ 6 แสนล้านUS$ จะซื้อพลังงานจากสหรัฐ 7.5 แสนล้านUS$ และสั่งซื้ออาวุธจากสหรัฐ...การบรรลุข้อตกลงดังกล่าว ทำให้ความไม่แน่นอนในระยะสั้นลดลง แม้ทางอียูมองว่าข้อตกลงดังกล่าวไม่สมดุลและมีข้อกังวลในระยะยาว
• สหรัฐ: จับตาผลประชุมเฟด 29-30 ก.ค.และถ้อยแถลงประธานเฟด ซึ่งตลาดประเมินโอกาสความเป็นไปได้ 96% ว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25%-4.50% หลัง ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อ 24 ก.ค.25
• สหรัฐ: ติดตามรายงานดัชนี PCE มิ.ย. และตัวเลข NFP ก.ค.ซึ่งตลาดคาดเพิ่ม 1.08 แสนราย (ลดจากมิ.ย.ที่เพิ่ม 1.47 แสนราย) อัตราว่างงาน 4.2%
• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ mix (ดัชนีดาวโจนส์ลดลง แต่ S&P500 และ Nasdaq ทำ new high) ติดตามผลประชุมเฟดและผลประกอบการ สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 2.3% เป็ น 67-70 US$/bbl ตอบรับสหรัฐและอียูบรรลุข้อตกลงการค้า สัญญาทองคำปิด -25.6 US$ เป็น 3,310 US$/ออนซ์ หลังเงินดอลลาร์แข็ง
• ดัชนีค่าเงิน US$ แข็งค่าขึ้นเป็น 98.6 ค่าเงินบาทอ่อนเป็น 32.48 บาท/ดอลลาร์ ส่วน US bond yield 10 ปีทรงที่ 4.40% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) เพิ่มขึ้นเป็น 115.5 (สูงสุด 149) ดัชนี Baltic Dry Index ยังทรงตัวสูงที่ 2226 หลังทา new high ที่ 2258

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• ผลการเจรจาผู้นำไทย-กัมพูชา...ตกลงหยุดยิงตั้งแต่เที่ยงคืน 28 ก.ค. โดยกองทัพ 2 ฝ่ายจะประชุมกันวันนี้ (29 ก.ค.) เวลา 0.7.00 น. หลังจากนั้นจะเป็นการประชุม GBC เจรจาทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชาในวันที่ 4 ส.ค.25 โดยมีกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ
• หวังว่าไทยจะได้ข้อสรุปภาษีทรัมป์ก่อนเส้นตาย 1 ส.ค.นี้ และอัตราภาษีใกล้เคียงกับภูมิภาคที่ 19-20%
• HMPRO: ยอดขายสาขาเดิม 2Q25F ติดลบ โดย HomePro -9% และ Mega Home -1.6% ทำให้ยอดขายลด, GPM หดตัว...คาดต้องปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 25F และราคาพื้นฐานลง

กลุยทธ์ : สัญญาณทางเทคนิคยังเป็นบวก แต่ควรระวังการแกว่งในโซนแนวต้าน 1220-1230 แนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1210-1200, 1190, 1180 (โดย 1180 เป็นทั้งแนวรับและแนวฟิวเตอร์ที่ไม่ควรหลุด) แนวต้านอยู่ที่ 1220-1230, 1240-1250 ตามลำดับ

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : PTTEP – ระยะสั้นได้อานิสงค์จากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น หลังสหรัฐและอียูบรรลุข้อตกลงการค้า แนวโน้มดีจากระดับสต็อกอยู่ในระดับต่ำ , อุปสงค์น้ำมันเบนซินที่จะปรับขึ้นใน 3Q25F จากฤดูการขับขี่ของสหรัฐ และความต้องการใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มใน 4Q25F เพราะเป็นช่วงฤดูหนาว ด้านกำไรสุทธิ 2Q25 ออกมาตามคาด โดยอ่อนลงจากราคาน้ำมันที่ลดลง และ Unit cost เพิ่มขึ้น แต่ปริมาณผลิตสูงขึ้นและยังมีแนวโน้มดีต่อ เบื้องต้นคาดกำไรหลัก 3Q25F เติบโต +13% q/q บริษัทประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 4.10 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 8 ส.ค.2025 ยังคงแนะนำ ซื้อ คาด DY ปีนี้ราว 5%

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829