Market Wrap-Up
- SET วันที่ 25 ก.ค.68 ปิด +4.66 จุด อยู่ที่ 1,217.15 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,910 ลบ. ต่างชาติขาย 267 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 749 ลบ. สถาบันขาย 326 ลบ. และรายย่อยซื้อ 342 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 1,104 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น PTT,DELTA,ADVANC,SCC,CBG และยอดขายหุ้น KTC,KTB,TRUE,BBL,CPALL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,764 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ LH,CPAXT,THCOM โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 6,771 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 113,314 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 169 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ -0.14%, S&P500 +0.02%, Nasdaq +0.33% ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน +1.15%, เทคโนโลยี +0.77% ขณะที่กลุ่มอสังหาฯ -1.75%, วัสดุ -1.44% หลังสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับอียู และรอผลการเจรจาระหว่าง รมว.คลังสหรัฐ – จีนที่กรุงสต็อคโฮม ตลาดหุ้นยุโรป -0.22% จากแรงขายกลุ่มยานยนต์ -1.7%, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปรับลดลง นำโดย Heineken -8.5% แม้ว่าจะสามารถบรรลุภาษีกับสหรัฐที่อัตรา 15% แต่ยังสูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยปีก่อนที่ 2.5%
- Market View
- DJIA +1.3%, S&P500 +1.5%, Nasdaq +1.0% WoW โดย S&P500, Nasdaq ทำจุดสูงสุดใหม่ หลัง Alphabet รายงานกำไร Q2/68 ดีกว่าคาด ซึ่ง LSEG คาดกำไร Q2/68 ของ บจ.ใน S&P500 คาด +7.7% YoY จากกำไรกลุ่มเทคโนโลยีคาดยังเติบโตได้ดี หลังสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น กอปรสหรัฐสามารถทำข้อตกลงการค้ากับอียู โดยเก็บภาษีสินค้ายุโรปที่ 15% ทางอียูจะซื้อพลังงานมูลค่า $5 แสน ล.,การลงทุนในสหรัฐมูลค่า $6 แสน ล. และซื้ออาวุธจากสหรัฐ สัปดาห์นี้นักลงทุนรอผลการประชุมเฟดวันที่ 29 – 30 ก.ค.คาดคงดอกเบี้ยที่ 4.25 – 4.5%, วันพฤหัส US PCE มิ.ย. และวันศุกร์ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ก.ค.คาดเพิ่มขึ้น 108,000 & มิ.ย. 147,000 ราย และอัตราว่างงาน ก.ค. คาดที่ 4.2% & มิ.ย. 4.1%
- Stoxx600 ยุโรป +0.54% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ ขณะที่ ECB มีมติคงดอกเบี้ยเงินฝากที่ 0% ขณะที่ดัชนีหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลง หลังนักลงทุนผิดหวังต่อผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – อียู ที่คาดจะได้ภาษีในแบบ Zero of Zero และอัตราภาษีที่ 15% ยังสูงกว่าคาคค่าเฉลี่ยปีก่อนที่ 2.5% ซึ่งอาจส่งผลให้เงินเฟ้อยูโรโซนปรับสูงขึ้น สัปดาห์นี้วันพุธติดตาม GDP ยูโรโซน Q2/68 คาด 1.2% & Q1/68 ที่ 1.5% YoY, วันศุกร์ CPI ยูโรโซน ก.ค.คาด 1.9% & มิ.ย. 2.0% YoY
- MSCI Asia Pacific X Japan +0.53% WoW หลังสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และยังรอผลเจรจาข้อตกลงการค้ากับอินเดีย, เกาหลีใต้, ไต้หวัน ขณะที่ รมว.คลังสหรัฐ & จีนเตรียมหารือกันที่สวีเดนในสัปดาห์นี้ เพื่อเจรจากรอบข้อตกลงการค้าที่จะสิ้นสุดในวันที่ 12 ส.ค. สัปดาห์นี้วันพฤหัส ติดตามผลการประชุม BOJ, วันศุกร์ PMI ภาคการผลิตญี่ปุ่น, จีน ก.ค.
- SET +0.88% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 4 หมื่น ลบ. -8.5% WoW ต่างชาติซื้อ 8,802 ลบ. สถาบันขาย 3,604 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 791 ลบ. และรายย่อยขาย 4,407 ลบ. WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มขนส่ง นำโดย AOT +7.7% WoW รับข่าวเตรียมปรับขึ้นค่าธรรมเนียม PSC มากกว่า 100 บาท/คน ซึ่งคาดจะได้ข้อสรุปภายใน ก.ย. - ต.ค. นี้ ขณะกลุ่มวัสดุนำโดย SCC ปรับขึนตอบรับคาดกาณ์กำไร Q2/68 อยู่ที่ 2.6 พัน ลบ. +138 QoQ และกลุ่มอิเล็ก ฯ ก็ปรับขึ้นตามกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐ โดยนักลงทุนยังคาดหวังเชิงบวกต่อผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – ไทยจะสามารถลดภาษีจากระดับ 36% ลงมาใกล้เคียงกับประเทศในกลุ่มอาเซียน กอปรกับตลาดยังคาดหวัง ธปท. มีโอกาสลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม กนง. วันที่ 13 ส.ค. หลังเงินเฟ้อไทยในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ +0.37% และภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วง 2H/68 มีแนวโน้มชะลอตัวจาก ม.ภาษีของสหรัฐ แต่ดัชนี SET ถูกแรงขายในช่วงปลายสัปดาห์ หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทย - กัมพูชาบริเวณพรมแดน ขณะที่วานนี้รักษาการนายก ฯ นายภูมิธรรม & นายกฮุน มาเนตได้เจรจาหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไข และจะใช้การเจรจา GBC ในการแก้ไขปัญหาพื้นที่บริเวณพรมแดน ส่งผลให้ปัจจัยเสี่ยงสงครามลดลง สัปดาห์นี้ติดตาการเจรจาการค้าสหรัฐ - ไทยก่อนเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค. และรายงานงบ Q2/68 ของ SCC, SCGP,HMPRO,GLOBAL,BH,ITC
Daily Strategy
- ประเมินดัชนี SET 1,200 – 1,210 แนวต้าน 1,220 – 1,230 คาดได้ปัจจัยหนุนจากการเจรจาหยุดยิงระหว่างไทย – กัมพูชา และคาดไทยจะสามารถทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐในอัตราภาษีที่ใกล้กับประเทศในกลุ่มอาเซียน แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว เช่น ADVANC,SCC,CPF คาดกำไร Q2/68 ยังขยายตัวได้ดี/ เก็งกำไร CBG,OSP,SAV หลังไทย – กัมพูชาเจรจาหยุดยิง
- CKP* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 3.92 บาท) ผลประกอบการ 1Q68 มีกำไรสุทธิ 70 ล้านบาท ลดลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล แต่พลิกจากขาดทุนใน 1Q67 ซึ่งดีกว่าคาด ขณะที่ 2Q68-3Q68 กำไรจะฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ จากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนน้ำงึม 2 (NN2) และปริมาณน้ำโขงที่ไหลผ่านเขื่อนไซยะบุรีเพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล ส่งผลให้ภาพรวมปี 68 กำไรอิงจาก consensus ของตลาดจะสามารถเติบโตได้ในระดับ 7 พันล้านบาท (+26%YoY) โดยคาดหวังว่าจะไม่มีการหยุดผลิตไฟฟ้าของโครงการไซยะบุรีเหนือนกับปีก่อน ขณะที่ต้นทุนทางการเงินมีแนวโน้มลดลง
- KCG* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 11.13 บาท) แม้กำไร 2Q68 มองอ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่มีโอกาสที่ YoY จะยังโตได้ดีหนุนจากสินค้ากลุ่ม Food and Bakery Ingredient ด้าน KCG* เอง วางเป้ารายได้ปี68นี้ +High Single Digit%YoY ปัจจัยขับเคลื่อนหลักจะมาจากสินค้าใหม่ๆ การหาตัวแทนกระจายสินค้าเพิ่มเติม และการให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์ ขณะที่ในส่วนของต้นทุนค่าใช้จ่ายคาดว่าจะได้ประโยชน์จาก Solar Roof รวมถึงการเปิดใช้งาน KCG Logistic Park ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรสุทธิ KCG* ปี68 และ69 จะอยู่ที่ 446 ลบ.(+10%YoY) และ 517 ลบ.(+16%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI ส.ค.+$1.55 อยู่ที่ $66.71 / บาร์เรล, Brent ก.ย. +$1.6 อยู่ที่ $70.04/บาร์เรล หลัง ปธน.ทรัมป์ได้กำหนดเส้นตายใหม่ให้กับ ปธน.ปูตินในการบรรลุข้อตกลงสันติภาพกับยูเครน เหลือเพียง 10 – 12 วัน จากเดิมให้เวลา 50 วัน มิฉะนั้นรัสเซียจะถูก ม.คว่ำบาตร โดยสัญญาน้ำมันยังได้แรงหนุน หลังสหรัฐ – อียูสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า
Gold Update(-) Comex Gold ส.ค.-$25.60 อยู่ที่ $3,310.00 /ออนซ์ ถูกกดดันจาก Dollar Index แข็งค่า +1.02% อยู่ที่ 98.634 หลังสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับอียู และยังรอผลการประชุมเฟดในช่วงกลางสัปดาห์นี้
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +0.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -2.73 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +3.0 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าอยู่ที่ 33.78 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.406 %
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -31 จุด อยู่ที่ 2,226
(-) BitCoin เช้านี้ -0.89% อยู่ที่ 117,974 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
31 ก.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย
สัปดาห์ที5 สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนี
ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
ต่างประเทศ
29 ก.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี( ก.ค.)
US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS (มิ.ย.)
30 ก.ค. US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)( ก.ค.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาส 2)
31 ก.ค. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน ( ก.ค.)
US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC
US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (มิ.ย.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
01 ส.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ( ก.ค.)
US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง ( ก.ค.)
US อัตราการว่างงาน ( ก.ค.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ก.ค.)
Theme Strategy
Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง, Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง
(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*
(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG
(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*
(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*
(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*
(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*
(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio May 2025: MONO*, PR9*, IVL*,PTTGC*,GULF*, TIDLOR*
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Meena Tunlayanitigun
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 033662
Tel 02-829-6999 Ext 2201
Email : meena.tu@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th