AT THE OPEN (#ATO)
SET Index สะดุดบ้าง แต่มองย่อ คือ จังหวะตั้งรับ
เลือกหุ้นงบดี สวนทางราคาที่อยู่โซนล่าง
Market Strategy
SET Index พักสร้างฐานตามกรอบ 1200-1220 จุด เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชารวมถึงการเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว อาจทำให้นักลงทุนอยู่ในภาวะ Wait & See เพื่อประเมินสถานการณ์ แต่เรายังเชื่อผลกระทบในเชิงปัจจัยพื้นฐานกับตลาดหุ้นจำกัด แนะนำซื้อ CHG และ TASCO

สถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชายังแย่ลงจนบานปลายทำให้มีเหตุปะทะทางทหารทั้ง 2 ฝั่ง สถานการณ์ยังมีความเสี่ยงยืดเยื้อ อาจนำมาซึ่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ยอดส่งออกสินค้าไทยไปกัมพูชาปี 2567 มีมูลค่ารวม 3.23 แสนล้านบาท คิดเป็น 3% ของยอดส่งออกรวมจึงมองผลกระทบต่อภาคส่งออกและเศรษฐกิจไทยยังจำกัด ด้านผลกระทบต่อกำไรบริษัทจดทะเบียนคาดจำกัดเช่นกันเพราะบริษัทที่มีธุรกิจในกัมพูชาส่วนใหญ่มีสัดส่วนรายได้ไม่ถึง 3% ยกเว้น CBG ที่รายได้กัมพูชา 13-14% ของรายได้รวม จึงมองการปรับลงของ SET Index จากประเด็นนี้มาจาก Sentiment > Fundamental ในเชิงกลยุทธ์แนะนำการย่อลงมาเป็นจังหวะสะสมมองแนวรับ 1170-1200 จุด ชอบ 1) หุ้นที่มีผลประกอบการ 2Q68 เติบโตและราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปี ยัง Laggard CHG OSP SCGP และ CKP 2) หุ้น Defensive หลบแรงปะทะตามแนวชายแดน CHG ADVANC

การรายงานยอดส่งออกเดือน มิ.ย.ขยายตัว 15.5%YoY ต่ำกว่าตลาด 18.3%YoY และเดือนก่อนที่ 18.4%YoY แต่ยังถือเป็นระดับที่สูง โดยได้แรงหนุนจากการเร่งส่งออกไปสหรัฐฯ ที่ขยายตัว +42%YoY สินค้าที่ขยายตัวดีเดือนนี้กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ +34%YoY ไก่สดแช่แข็ง +26%YoY อาหารสัตว์เลี้ยง +11%YoY แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่าโมเมนตัมการเร่งส่งออกเริ่มชะลอลง จากยอดส่งออกไปสหรัฐฯที่ขยายตัว 1%MoM เทียบกับเดือน พ.ค. ที่ขยายตัว 24%MoM มองเป็นสัญญาณชี้นำในช่วง 2H68 แนวโน้มการขยายตัวของยอดส่งออกจะเริ่มลดลงหลังจากผู้ผลิตเร่งสต็อคสินค้าไปมากรวมถึงภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มจะปรับสูงขึ้น ทั้งนี้อัตราภาษีเท่าไหร่ยังต้องรอการตอบกลับจากสหรัฐฯ หลังจากไทยได้ยื่นข้อเสนอใหม่ไปแล้วในสัปดาห์นี้

Market Summary
SET Index ปรับลง -0.6% สวนทางตลาดหุ้นภูมิภาคจาก Sentiment ลบ การปะทะชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา เอื้อต่อแรงขายทำกำไรของหุ้น Big Cap DELTA -1.4% CPALL -2.6% ADVANC -1% ด้านหุ้นที่ Underperform กลุ่มที่รายได้กัมพูชา เช่น CBG -9% SAV -8.7% OSP -3.5% สวนทางกลุ่มที่ปรับขึ้น Defensive อย่างโรงพยาบาล BH +1% CHG +0.6% กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF +2.2% CKP +0.8% กลุ่มตกแต่งบ้าน DOHOME +9% GLOBAL +1.6% จากได้ประโยชน์หลังน้ำท่วมที่ จ.น่าน

DAILY Stock Pick
CHG
สะสม Defensive Stock ที่กำไร 2Q68 เด่น
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 2.20 บาท
แนวโน้มกำไรใน 2H68 เติบโต YoY จาก 1) เคสผ่าตัดกระเพาะฟื้นตัว 2) ปัจจัยทางฤดูกาลใน 3Q68 และ 3) ฐานกำไรต่ำ หลังจากตั้งสำรอง RW>2 ใน 4Q68 ขณะที่ PE ปี 68 ถูกซื้อขายที่ 17 เท่า ต่ำสุดในกลุ่มโรงพยาบาลที่เรา Cover
ส่วนกำไรงวด 2Q68 เราคาด +21%YoY, +3%QoQ หนุนจากรายได้ที่เติบโตหลายแหล่งอาทิ ลูกค้าเงินสด, ลูกค้าต่างประเทศ และ ลูกค้าประกันสังคม ส่งผลให้เกิดการประหยัดต่อขนาด GPM +620 bps YoY, +10 bps QoQ


TASCO
งบก่อสร้างถนนฟื้นตัว Valuation น่าสนใจ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 18.40 บาท
เราคงแนะนำ “ซื้อ” โดยคาดการเติบโตหลัก มาจากงบประมาณก่อสร้างถนนของภาครัฐที่เติบโต 14%/8%YoY ในปี 68/69 ในขณะที่ Spread Bitumen ในต่างประเทศปรับตัวขึ้นเป็น +5US$/Ton เทียบกับ 1H68 ที่ -40US$/Ton สะท้อนอุปสงค์ที่แข็งแกร่งผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
TASCO ปัจจุบันถูกซื้อขาย PE ปี 69 ที่ 10 เท่า (-1.6SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) ในขณะที่อัตราเงินปันผลอยู่ในระดับ 7-8% อีกทั้งยังมี upside จากการปรับขึ้น Payout ratio จาก 80% เป็น 100% หนุนให้เงินอัตราปันผลเพิ่มเป็น 9-10% ช่วยจำกัด Downside

KEY FACTOR
ตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือน มิ.ย. +15.5% YoY ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง มีมูลค่าที่ 28,649.9 ล้านเหรียญฯ อยู่ในกรอบที่ตลาดคาดการณ์ช่วง +3.5% ถึง +29.6% ได้รับแรงหนุนจากการเร่งนำเข้าสินค้าจากไทยไปสหรัฐฯ ก่อนที่มาตรการภาษีจะมีผลบังคับใช้ในเดือน ส.ค. รวมถึง Demand ที่ยังแข็งแกร่งในกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่นเดียวกับการกลับมาฟื้นตัวของการส่งออกสินค้าการเกษตร ตลาดหลักขยายตัวอย่างเด่น นำโดย สหรัฐฯ +41.9% YoY จีน +23.1% YoY ยุโรป +11.9% YoY และญี่ปุ่นกลับมาบวก +3.2% YoY ในขณะที่ส่วน ASEAN5 ฟื้นตัว +6.5% YoY

แม้ว่าการค้าระหว่างประเทศจะเริ่มเผชิญความเสี่ยงจากการดำเนินนโยบายภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ในวันที่ 1 ส.ค. แต่ยังคงมองว่าท้ายที่สุดการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ จะนำไปสู่การจัดโครงสร้างภาษีที่ ทำให้ไทยไม่เสียเปรียบเชิงการแข่งขัน เมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งสำคัญในอาเซียน ซึ่งจะช่วย ลดความเสี่ยงของการเปลี่ยนฐานการนำเข้าจากไทยไปยังประเทศอื่น

EYES ON
4 ก.ค. ส่งออกไทย มิ.ย.,
ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการยูโรโซน, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ