Bangkok Expressway & Metro (BEM TB)
รับอานิสงส์จากรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
คาดมีปัจจัยบวกในช่วงครึ่งหลังปี 68
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BEM โดยมีราคาเป้าหมายตามวิธี SOTP ที่ 8.15 บาท หุ้นนี้ถือเป็นหุ้นเชิงรับท่ามกลางการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยที่ชะลอตัว ทั้งนี้ BEM คาดว่าจะมีปัจจัยบวกในช่วงครึ่งหลังของปี 68 ซึ่งรวมถึง ประเด็นค่าชดเชยจากนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาล และการขยายสัมปทานทางด่วน (มีอัพไซด์ประมาณ 0.8 บาทต่อหุ้น) เพื่อแลกกับการก่อสร้างโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 (Double Deck) อย่างไรก็ตาม อัพไซด์ระยะยาวจากการที่รัฐบาลอาจซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้ายังคงมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่ดาวน์ไซด์ ได้แก่ ปริมาณการจราจรทางด่วนที่ต่ำกว่าคาด และการชดเชยจากค่าโดยสารที่ต่ำกว่าคาด เราปรับคาดการณ์การเติบโตของปริมาณจราจรทางด่วนปี 67–70 เหลือเฉลี่ย +0.8% CAGR เนื่องจากพฤติกรรมของผู้โดยสารที่เปลี่ยนไป เช่น การทำงานจากที่บ้าน
คาดกำไรหลักไตรมาส 2/68 อ่อนตัว
เราคาดว่า BEM จะรายงานกำไรหลักในไตรมาส 2/68 ที่ 985 ล้านบาท (-2% YoY, +13% QoQ) การฟื้นตัว QoQ มาจากรายได้เงินปันผลจาก TTW และ CKP ขณะที่การหดตัว YoY มาจากรายได้ทางด่วนที่ลดลง อันเป็นผลจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอ แผ่นดินไหว และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง
รับอานิสงส์จากนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทและการซื้อคืนสัมปทาน
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติข้อเสนอเบื้องต้นของกระทรวงคมนาคมในการกำหนดเพดานค่าโดยสารรถไฟฟ้าทุกสายในกรุงเทพฯ ไม่เกิน 20 บาท โดยจะเริ่มใช้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 68 เราไม่เห็นอัพไซด์ต่อกำไรอย่างมีนัยสำคัญจากการที่คาดว่าจำนวนผู้โดยสาร MRT จะเพิ่มขึ้น 20% จากระดับปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม BEM จะได้ประโยชน์จากรายได้เชิงพาณิชย์ ค้าปลีก และสื่อที่เพิ่มขึ้น (คิดเป็น 8% ของรายได้ปี 67) หากรัฐบาลตกลงซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้าทั้งหมดผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เราคาดว่า BEM จะมีกำไรเพิ่มขึ้น 35% ในปี 69-70 จากการประหยัดต้นทุนดอกเบี้ย และคาดว่าจะมีเงินจ่ายปันผลสูงขึ้น
มุมมองของผู้บริหารต่อโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
เราคาดว่า MRTA จะให้รายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับเงินอุดหนุนจากนโยบายค่าโดยสารภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า ผู้บริหารของ BEM ยืนยันว่าการเจรจากำลังดำเนินไปด้วยดี และการแบ่งรายได้กับรัฐบาลจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นจะสะท้อนถึงหลักการที่เป็นธรรม BEM คาดว่าจะได้รับเงินอุดหนุนเต็มจำนวน (หักล้างผลประโยชน์จากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น) สำหรับส่วนต่างระหว่างค่าโดยสารเฉลี่ยปัจจุบันที่ 29 บาทต่อเที่ยว กับนโยบายใหม่ที่ 20 บาทต่อเที่ยว พร้อมการชดเชยต้นทุนดำเนินงานที่สูงขึ้นจากความถี่ของการเดินรถที่เพิ่มขึ้น ในเบื้องต้น เราประเมินว่า BEM จะได้รับเงินอุดหนุน 7 บาทต่อเที่ยว ภายใต้สมมติฐานที่จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 20% และต้นทุนค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 20% หากได้รับต่ำกว่า 7 บาทต่อเที่ยว อาจเกิดดาวน์ไซด์ต่อกำไรได้
Boonyakorn Amornsank
boonyakorn.amornsank@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1394