Today’s NEWS FEED

News Feed

InnovestX ระบุวันนี้ "ติดตามเจรจาการค้าต่อ" คาดตลาดมีโอกาสชะลอตัว ประเมินแนวต้าน 1212/1230 และแนวรับ 1200/1195 จุด

95

 

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 21 กรกฎาคม 2568 )----- InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 คาดตลาดมีโอกาสชะลอตัวโดยเฉพาะตามแนวต้าน ประเมินแนวต้าน 1212/1230 ส่วนแนวรับประเมินที่ 1200/1195 แม้มีโมเมนตัมบวกจาก Fund Flow ที่ไหลเข้า EM และ DELTA หนุน แต่ประเมิน SET ระยะกลางที่ระดับ 1230-1250 สะท้อนถึงความคาดหวังว่าไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ ในระดับ 20% หรือต่ำกว่าไปบ้างแล้ว และยังต้องติดตามการเจรจาการค้าสหรัฐฯ ต่อ


ประเนสำคัญ
• ผู้ประกอบการภาคอสังหาฯ เสนอเร่งแก้ไขกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเต็มศักยภาพ รองรับการลงทุนจากต่างชาติและโครงการเมกะโปรเจกต์ เสนอขยายสิทธิการเช่าที่ดินระยะยาวเป็น 50–60 ปี และลดความเสี่ยงด้านสังคมได้
• รมว. คลังเผยความคืบหน้าการเจรจาภาษีการค้า โดยท่าทีของสหรัฐฯ ต่อข้อเสนอเพิ่มเติมที่ไทยเสนอไปมองว่ามีการปรับปรุงที่ดีขึ้น ด้าน รมช. พาณิชย์เผย USTR ได้เสนอ 3 ข้อเสนอเพิ่มเติมให้พิจารณา คือ เพิ่มรายการภาษี 0% สำหรับสินค้าสหรัฐฯ, ลดมาตรการกีดกันการค้าที่ไม่ใช่ภาษี และสนับสนุนการลงทุนในสหรัฐฯ
• ธปท. ออกหนังสือเตือน หลัง ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. Financial Hub ว่าต้องดูแลความเสี่ยงการฟอกเงินและการสนับสนุนก่อการร้าย และการแยกธุรกิจไม่ให้ปะปนกับธุรกิจในระบบการเงินหลัก
• สหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่อรัสเซียชุดที่ 18 รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยครอบคลุมถึงการลดราคาเพดานน้ำมันดิบรัสเซีย, คว่ำบาตรกองเรือเงาที่ขนส่งน้ำมันรัสเซีย, ห้ามใช้ท่อส่งก๊าซฯ Nord Stream 1 และ 2 และขยายขอบเขตการความบาตร เช่น ในภาคธนาคารและอุตสาหกรรมทหาร เพื่อลดขีดความสามารถในการทำสงครามของรัสเซีย
• สื่อสหรัฐฯ เผย Nvidia กำลังเผชิญอุปสรรคการส่งมอบชิป AI รุ่น H20 ในจีน แม้เพิ่งประกาศเตรียมกลับมาวางจำหน่าย เนื่องจากก่อนหน้า Nvidia ได้คืนโควตาการผลิตที่จองกับ TSMC ตั้งแต่การสั่งห้ามโดยรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อ เม.ย. ที่ผ่านมา และอาจต้องใช้เวลาถึง 9 เดือน หากต้องการกลับมาผลิตชิปรุ่นดังกล่าวได้


กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวน แม้มองบรรยากาศการลงทุนยังมีโมเมนตัมบวกจาก Fund Flow ที่เริ่มไหลเข้าใน EM และคาดหวัง ครม. จะพิจารณาผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่ ซึ่งคาดจะมีการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย แต่ยังต้องติดตามผลเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ หลังไทยเสนอลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ 0% หลายหมื่นรายการ ประเมิน SET ที่ระดับ 1230-1250 สะท้อนความคาดหวังว่าไทยจะสามารถบรรลุดีลข้อตกลงได้และทำให้อัตราภาษีใหม่ลดลงอยู่ที่เท่ากับหรือต่ำกว่า 20% ทำให้ SET มีโอกาสชะลอปรับขึ้นหรือมี Upside จำกัด ขณะที่กรณีไทยยังโดนภาษีศุลกากรที่สูงกว่าอัตรา 20% จะเป็นความเสี่ยง อย่างไรก็ดี เราประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว คงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

 

แนวรับ-ต้าน
1200/1195– 1212/1230

 

ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET แกว่งตัวผันผวน แม้มีโมเมนตัมบวกจาก Fund Flow เริ่มไหลเข้า EM และการอนุมัติผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่ แต่ยังต้องติดตามการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 2 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play โมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ 3Q68 คาดกำไรยังเติบโต YoY แนะนำ ADVANC BCH CBG CPALL SCCC
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
3. Trading Idea : สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดฟื้นตัวเร็วหากเชื่อว่าการเจรจาจะทำให้สหรัฐฯ พิจารณาปรับลดภาษีไทยลงมาอยู่ที่ระดับ 20% หรือต่ำกว่าและราคาหุ้นยังฟื้นตัวช้า แนะนำ AMATA GPSC WHA และ 2) หุ้น Undervalue (PER และ PBV < -1SD) และเราแนะนำ Outperform อีกทั้งคาดให้ Div. Yield ไม่ต่ำกว่าปีละ 3% แนะนำ BBL BCPG BDMS CPALL DIF PTT SIRI TIDLOR ขณะที่แนะนำหาจังหวะขายทำกำไรระยะสั้นในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากคาดดอกเบี้ยปรับลง หลังก่อนหน้าราคาหุ้นปรับขึ้นแรงสะท้อนการแต่งตั้งผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่แล้วระดับนึง MTC TIDLOR

 

Daily top picks
CHG: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากกำไร 2Q68 มีโอกาสดีกว่าคาด โดยประเมินกำไรปกติ 235 ลบ. เพิ่มขึ้น 4%QoQ และทรงตัว YoY ซึ่งดีกว่าที่คาดเดิมว่าจะลดลง QoQ และ YoY หนุนจากรายได้ที่แข็งแกร่งและผลขาดทุนที่ลดลงจาก รพ. ใหม่ ขณะที่ 2H68 คาดผลประกอบการจะดีขึ้นต่อเนื่อง ส่วนราคาหุ้นปรับลงสะท้อนความคาดหวังที่ต่ำของตลาดแล้วทำให้ Risk/Reward เป็นบวกมากขึ้น

GPSC: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากราคาก๊าซและ Bond Yield ลดลง กกพ. เสนอทางเลือกค่าไฟฟ้างวด ก.ย.-ธ.ค. 2568 ระหว่าง 3.98-5.10 บาท/หน่วย ไม่สูงกว่างวดก่อนที่ 3.98 บาท/หน่วย มองกระทบผลประกอบการจำกัด ปี 2568 คาดกำไรปกติจะเติบโต 3.9%YoY จากการเพิ่มกำลังการผลิต, ต้นทุนเชื้อเพลิงและผลตอบแทนพันธบัตรลดลง และไม่ได้รับผลกระทบจาก GMT

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

มีย่อ มีพัก By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองหุ้นไทย เข้าสู่โหมดการย่อตัว พักตัว ปรับฐาน หลังจากมาแรงอย่างต่อเนื่อง บ่ายวันนี้ ....

มัลติมีเดีย

BPS ครึ่งปีแรกปี68 เดินหน้าลงทุนตามแผน มุ่งสร้างนวัตกรรมหนุนผลงานเติบโต

BPS ครึ่งปีแรกปี68 เดินหน้าลงทุนตามแผน มุ่งสร้างนวัตกรรมหนุนผลงานเติบโต

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้