สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (16 กรกฎาคม 2568 )-----ฟิทช์ เรทติ้งส์ประกาศให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating: IDR) แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน ของ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC (‘BB’/ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) มูลค่า 350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อัตราดอกเบี้ย 7.55% ที่ 'BB'
การประกาศให้อันดับเครดิตครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ฟิทช์ได้รับเอกสารฉบับสมบูรณ์ซึ่งมีข้อมูลตรงตามที่ได้รับมาก่อนหน้า
ทั้งนี้ อันดับเครดิตของหุ้นกู้ดังกล่าวอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตที่คาดว่าจะให้ (expected rating) สามารถดูได้จาก “ฟิทช์ให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ที่จะออกเสนอขายของ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ที่ 'BB(EXP)'” เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 (https://www.fitchratings.com/site/pr/10314877)
หุ้นกู้ดังกล่าวออกภายใต้โครงการหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน Global Medium-Term Note (GMTN) ของ MTC วันที่ 6 กรกฎาคม 2568 วงเงิน 3.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยหุ้นกู้ดังกล่าวจะมีกำหนดทยอยชำระคืนในช่วงระหว่างห้าปี
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในระดับเดียวกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว(IDR) ของ MTC เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของบริษัท
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ MTC พิจารณาจากโครงสร้างอันดับเครดิตและความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัท (Standalone credit profile) และสถานะของ MTC ที่เป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารที่ประกอบธุรกิจสินเชื่ออุปโภคบริโภคซึ่งมีสินทรัพย์ขนาดใหญ่ในประเทศไทย และมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่มีนัยสำคัญในธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตและปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต สามารถดูได้จาก “ฟิทช์ให้อันดับเครดิตสากลเป็นครั้งแรกแก่ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ที่ 'BB' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ที่จะออกเสนอขายที่ 'BB(EXP)'” ลงวันที่ 12 กันยายน 2567 (https://www.fitchratings.com/site/pr/10284988)
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
การปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ MTC อาจส่งผลให้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันได้รับการปรับลดอันดับ
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ MTC อาจนำไปสู่การดำเนินการเช่นเดียวกันกับอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันได้เช่นกัน
วันที่มีการประชุมพิจารณาอันดับเครดิต
3 กรกฎาคม 2568
แหล่งที่มาของข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
แหล่งที่มาของข้อมูลหลักที่ใช้ในการวิเคราะห์เป็นไปตามรายละเอียดที่อธิบายไว้ในเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
MTC มีคะแนนความเกี่ยวข้องกับ ESG (ESG Relevance Score) ที่ระดับ '3' สำหรับสวัสดิการลูกค้า เมื่อเทียบกับคะแนนมาตรฐานที่ '2' สำหรับอุตสาหกรรมการเงิน สะท้อนถึงการดำเนินงานที่มุ่งเน้นในกลุ่มลูกค้ารายย่อยของบริษัท ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการให้สินเชื่ออย่างยุติธรรม ความโปร่งใสในการกำหนดราคา การยึดทรัพย์ การขายและการเก็บหนี้ การปฏิบัติเชิงรุกในด้านเหล่านี้อาจทำให้บริษัทเผชิญกับความเสี่ยงทางกฎหมายหรือการกำกับดูแลและความเสี่ยงด้านชื่อเสียงที่อาจทำลายโครงสร้างอับดับเครดิตของบริษัท ทั้งนี้ คะแนน '3' สำหรับปัจจัยนี้สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ว่าความเสี่ยงเหล่านี้ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมและมีผลกระทบต่ำต่อโครงสร้างเครดิตของบริษัท
อันดับสูงสุดของคะแนนความเกี่ยวข้องกับ ESG คือคะแนน '3' เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่นในส่วนนี้ คะแนน '3' หมายความว่า ปัญหา ESG ไม่มีผลกระทบต่อเครดิตหรือมีผลกระทบต่ออับดับเครดิตของบริษัทเพียงเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลมาจากลักษณะหรือวิธีการที่บริษัทจัดการกับปัญหาเหล่านี้ คะแนนความเกี่ยวข้องกับ ESG ของฟิทช์ไม่ใช่ปัจจัยในการประเมินการจัดอันดับเครดิต แต่เป็นการสังเกตุความเกี่ยวข้องและความสำคัญของปัจจัย ESG ในการตัดสินใจจัดอันดับเครดิต สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคะแนนความเกี่ยวข้องกับ ESG ของฟิทช์ หาได้จาก www.fitchratings.com/topics/esg/products#esg-relevance-scores