คาด SET Index แกว่งตัวออกข้าง: หลังตลาดรับแรงกดดันจากการเข้าสู่ “Crypto Week” ที่ดึงความน่าสนใจจากตลาดหุ้นไปสู่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลระหว่างที่รอเก็งกำไรงบ 2Q68 ของกลุ่มธนาคารและ รอลุ้นผู้ว่าธปท.คนใหม

แนวรับ-ต้าน
1,110 -1,130

กลยุทธ์การลงทุน
1) เก็งงบ 2Q68: ADVANC, BBL, KBANK, KKP,KTB, MAJOR, PR9
2) Crypto Play : JTS, TTA, ZIGA, BTC
3) China Play : SCC, IVL, PTTGC
4) เดินเรือ: PSL, RCL, WICE
5) Selective:BEM, AEONTS, TIDLOR, JMT, COM7

แวะเล่น Bitcoin ช่วง Enjoy งบ BANK

สินทรัพย์อื่นหลบไป จังหวะนี้ขอทางให้ Bitcoin : ตลาดหุ้นสหรัฐในวันศุกร์ปรับตัวลง โดยดัชนี S&P500 NASDAQ และ Dowjonesปรับตัวลง -0.33% -0.21% และ -0.63% ตามลwดับ ระหว่างที่รอลุ้นผลประกอบการในหุ้นกลุ่มธนาคาร และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ การปรับตัวลงคาดมาจากความกังวลในประเด็นกำแพงภาษีซ่ึงทรัมป์ได้ทยอยประกาศกำแพงภาษีของหลายประเทศ รวมถึง EU ที่คาดจะตั้งกำแพงภาษีกว่า 30% ทำให้ความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นยังมีสูง ระยะสั้นตลาดสกุลเงินดิจิทัลจึงเข้ามาชิงความน่าสนใจไป โดย Bitcoinปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่$1.19 แสนต่อคอยน์ หลังคณะกรรมาธิการทางการเงินที่นำโดยพรรครีพับลิกัน ออกมาประกาศว่าสัปดาห์นี้(14-18 ก.ค. 68) จะเป็น “Crypto Week” โดยจะเป็นช่วงที่สภาสหรัฐผ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลหลายฉบับ รวมถึง Genius Actที่มีเป้าหมายหลักในการผลักดันสหรัฐฯเป็นเมืองหลวงคริปโตของโลกซึ่งจะเกี่ยวข้องถึงการออก Stable Coin ในอนาคต เนื่องจากจะเป็นกฎหมายแม่บทที่กำหนดมูลค่าสินทรัพย์ค้าประกัน ช่วยให้สินทรัพย์ที่ออกใหม่มีความน่าเชื่อถือ มองแม้กดดันตลาดหุ้น แต่ยังสร้างแรงหนุนให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล

ลุ้นท้ังงบธนาคาร และ ผู้ว่าธปท.คนใหม่ : โดยสัปดาห์นี้จะเข้าสู่ช่วงประกาศงบ 2Q68 ของหุ้นกลุ่มธนาคาร นำโดย TISCO ในวันที่ 15ก.ค. เราคาดจะออกมามีกำไรที่ 1,558 ล้านบาท ซึ่ง -11.1% y-y และ -5.2%q-q นับเป็นหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการจะหดตัวมากที่สุดในกลุ่มส่วน KKP คาดจะเห็นกำไรขยายตัว 49.1%y-y และ 8%q-q ซึ่งโดดเด่นกว่ากลุ่มจากผลขาดทุนรถยึด และ ค่าใช้จ่ายที่ลดลง นอกจากนี้ติดตามการประชุมครม.เพื่อเคาะชื่อผู้ว่าธปท.คนใหม่ แหล่งข่าวล่าสุดเผยจะเป็นคุณ วิทัย เนื่องจากมีแนวทางที่เหมาะสมกับเศรษฐกิจปัจจุบัน และ เชื่อว่าจะไม่ดำเนินรอยตามทิศทางของธปท.เดิมที่อาจทำให้เศรษฐกิจมีปัญหาในอนาคต

ปัจจัยอื่นที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ : China- GDP2Q68 / IndustrialProduction(Jun)/ Unemployment Rate(Jun) , US- Core CPI +CPI(Jun)/ Core PPI+PPI(Jun) / Core Retail Sales + RetailSales (Jun)

ปัจจัยเพิ่มเติม
(+)รัฐมนตรีคลังเผยว่า หากมองในภาพรวมแล้ว เชื่อว่าผลกระทบที่ไทยจะได้รับจากมาตรการภาษีของสหรัฐไม่น่าจะรุนแรงมาก และ เตรียมประชุมเพื่อสรุปผลกระทบ และ มาตรการภายใน 14ก.ค.
(+) ซิตี้กรุ๊ปมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยงโดยมอง MSCI All CountryWorld Index จะปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1,150 จดุ เพิ่มขึ้น5% จากระดับปัจจุบันและมอง EPS รวมตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทัวโลกจะขยายตัว 11% ณสิ้นปี69
(-) Goldman Sachs คาดว่า BOJ จะเรมิ่ ทยอยขาย ETF ในมือ หลังซื้อสะสมมาเป็นเวลากว่า 13 ปี ในช่วงที่ใช้ Ultra-loose Monetary policy ซึ่งเป็นสัญญาณในเชิง Hawkish ที่อาจผลักดันเงินเยน แข็งค่าขึ้นกดดันสกุลเงินอื่นๆในเอเชีย
(-) Bloomberg รายงานว่าปริมาณการผลิตน้ามันดิบของซาอุดีอาระเบีย ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าโควตาที่ได้รับ และคิดเป็น 70%ของอุปทานส่วนเกินทั้งหมดกดดันUpside ของราคาน้ำมันดิบ

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์